"โคราช"เอาจริง! จับ 17 มือเผาก่อฝุ่น PM 2.5 ขณะที่"ทางหลวงชนบท"ระดมตัดหญ้าข้างทาง พร้อมเตรียมรถน้ำดับไฟ ย้ำถนน 1,900 กม.ในความรับผิดชอบ ห้ามเผาวัชพืช 2 ข้างทางเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 ที่ห้องท้าวสุรนารี ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางและติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ทั้ง 32 อำเภอ

โดย นายสุรพันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่ยังคงมีพี่น้องเกษตรกรลักลอบเผาพื้นที่การเกษตร และถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว จำนวน 17 ราย ซึ่งมาตรการต่อจากนี้จะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกร ทั้งในเรื่องผลเสียของการเผาตอซัง และคำแนะนำข้อกฎหมายในการการลักลอบเผา เพื่อให้เกษตรกรมีความเข้าใจในการปรับเปลี่ยนวิธีการกำจัดตอซัง ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการอัดเป็นแท่ง อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องเกษตรกรงดเผาตอซัง เนื่องจากผิดกฎหมายและก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศด้วย

ขณะที่ นายไพวัลย์ เขียวอ่อน ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา พร้อมด้วย น.ส.สายรุ้ง องค์ดี ผู้อำนวยการหมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความสะอาด ตัดแต่งกิ่งไม้ เก็บกวาด ตัดหญ้า 2 ข้างทาง บริเวณถนนสาย นม.3060 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM 2.5

นายไพวัลย์ เปิดเผยว่า แขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา มีหมวดการทาง จำนวน 6 หมวดการทาง ดูแลตลอดระยะทางรวม 1,900 กิโลเมตร และจากสถานการณ์ปัญหามลพิษทางอากาศในปัจจุบัน ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งมีค่าเกินมาตรฐาน ทางหลวงชนบทนครราชสีมา จึงได้มีแนวทางในการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ตามนโยบายของทางจังหวัด โดยได้สั่งการให้ทุกหมวดการทาง ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนที่มีพื้นที่การเกษตรติดกับถนนทางหลวงชนบท ห้ามเผาพื้นที่การเกษตรโดยเด็ดขาด เนื่องจากมีความผิดและทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลง นอกจากนี้ ยังให้มีการระดมดำเนินการตัดหญ้า 2 ข้างทาง รวมทั้งเก็บเศษหญ้า วัสดุให้เรียบร้อย รวมทั้งบังคับใช้ พ.ร.บ.ทางหลวงอย่างเคร่งครัด

"อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นไฟป่าและไฟไหม้ในเขตทาง สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท หมวดบำรุงทางหลวงชนบทในพื้นที่ โดยสามารถแจ้งเหตุได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146 สำหรับประชาชนที่อาศัยตามแนวชายป่าขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับไฟในป่าให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควันปกคลุมพื้นที่ และก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ อันจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน" นายไพวัลย์ กล่าว

- 006