ไฟป่าพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรีหนักขึ้น เจ้าหน้าที่ลุยดับไฟป่าทั้งภาคอากาศพื้นดิน พบยังขาดหน้ากากกันฝุ่นละอองและควันไฟ หวั่นเป็นเหยื่อโรคป่วยโรคทางเดินหายใจ
วันนี้ (10 ก.พ.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นที่ตั้งของเขื่อนศรีนครินทร์ รวมถึงอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาหิน สูงชัน สลับซับซ้อน ความสูงประมาณ 700-900 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สภาพป่าตามสันเขาและไหล่เขาเป็นป่าเต็งรัง ผสมสนสองใบ เมื่อถึงฤดูแล้งจะเกิดการผลิใบร่วงหล่นไปกองสะสมอยู่กับพื้นอย่างหนาแน่นต้นไม้เกิดการแห้ง ทำให้ง่านต่อการติดไฟ จนเกิดสถานการณ์ไฟป่าขึ้นอย่างรุนแรงมาตั้งแต่อดีตกาล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเกิดจากฝีมือมนุษย์ที่เผาเพียงแค่ต้องการประโยชน์ส่วนตัวเช่นเผาเพื่อล่าสัตว์ เก็บหาของป่า ประเภทผักหวานรมถึงตีผึ้ง ได้ง่ายขึ้น เป็นต้น
จากสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นอยู่ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้พยายามสนธิกำลังเข้าดับไฟป่าทั้งทางภาคพื้นดินและอากาศอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ดาวเทียม ซูโอมิเอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ วีอาร์เอส (VIIRS) ตรวจพบจุดความร้อน(Hotspot)ในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จำนวน 7 จุด จากสภาพป่าและการสะสมของใบไม้ที่สะสม ทำให้เกิดสถานการณ์ไฟป่าขึ้นอย่างรุนแรง
นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายชำนาญ แดงจุด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ประสานไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งนักบินนำเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย รุ่น KA-32.และเฮลิคอปเตอร์จาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาปฏิบัติภารกิจบินลำเลียงทิ้งน้ำเพื่อสกัดเปลวไฟและกลุ่มควันเพื่อลดปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ให้กระทบต่อสุขภาพของประชาชนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
โดยนายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง)หัวหน้าศูนย์บัญชาการประจำกลุ่มป่ารอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี นายประวัฒน์ พวงทอง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า ได้ติดตามและสั่งการอย่างใกล้ชิด
จากรายงานผลการปฏิบัติงานทางอากาศยาน เริ่มเวลา 11.00 น.ฮ.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำการบินทิ้งน้ำดับไฟป่า ที่เกิดขึ้นพื้นที่ป่ากลุ่มที่ 1 (ป่าดงเล็ก) จำนวน 10 เที่ยวบิน เวลา 14.00 น.ทำการบินทิ้งน้ำดับไฟป่า พื้นที่ป่ากลุ่มที่ 1 เพิ่มเติมอีกจำนวน 15 เที่ยวบิน รวมทั้งสิน 25 เที่ยวบิน ปริมาตรน้ำ 12,500 ลิตร สามารถลดการลุกลามขยายพื้นที่ไฟป่าในจุดที่อยู่ยอดเขาได้ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้
เวลา 14.00 น. เฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย รุ่น KA-32 บินทิ้งน้ำดับไฟป่า พื้นที่กลุ่มที่ 3 (เขาโกเต็ง) จำนวน 10 เที่ยวบิน ปริมาตรน้ำ 30,000 ลิตร สามารถลดการลุกลามขยายพื้นที่ไฟป่าในจุดที่อยู่ยอดเขาได้ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เช่นกัน
ส่วนผลการปฏิบัติงานภาคพื้นดินจำนวน 7 จุด ดังนี้ 1. กลุ่มที่ 1 บริเวณป่าบ้านปากนาสวน หมู่ 2 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ กำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 7 นาย และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (เสือไฟ)กาญจนบุรี 10 นาย ร่วมกับชาวบ้านปากนาสวน เข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน สามารถดับไฟป่าได้บางส่วน โดยกำลังทุกนายต้องพักค้างคืนเพื่อเฝ้าระวังแนวไฟอย่างต่อเนื่อง
2. บริเวณป่าห้วยจองคร่อง บ้านปากเหมือง หมู่ 7 ต.แม่กระบุง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 8 นาย เข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน โดยได้ทำการควบคุมกลุ่มไฟไม่ให้ลุกลามเพิ่มเติมและจัดทำแนวกันไฟโดยรอบพื้นที่ และได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านปากเหมือง บ้านดงเล็ก บ้านดงใหญ่ เข้าร่วมดับไฟและทำแนวกันไฟในครั้งนี้ด้วย
3. ป่าองจุ หมู่ 1 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ มีกำลังเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าเขื่อนศรีนครินทร์ 7 นาย เข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน สามารถควบคุมไฟและดับไฟได้ทั้งหมด
4. ป่าเขาโกเต็ง หมู่ 1 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 12 นาย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าเขื่อนศรีนครินทร์ 5 นาย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (เสือไฟ) จ.ชุมพร 10 นาย เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ 7 นาย รวมทั้งสิ้น 34 นาย เข้าพื้นที่ปฏิบัติงานต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. ผลการปฏิบัติ กลุ่มไฟได้ชนแนวกันไฟที่เจ้าหน้าที่ทำสกัดไว้ บางส่วนไฟได้ไหลลงไปบริเวณชายน้ำ และเจ้าหน้าที่ยังคงทำแนวสกัดไฟทางด้านบนเพื่อไม่ให้ไฟลุกลามเป็นวงกว้างและพักค้างคืนเพื่อเฝ้าระวังแนวไฟต่อไป
5. ป่าน้ำพุ หมู่ 2 ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 12 นาย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าเขื่อนศรีนครินทร์ 10 นาย เจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวัง 15 นาย รวมทั้งสิ้น 39 นาย เข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน ผลการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่และชาวบ้านน้ำพุได้ร่วมกันดับไฟ โดยไฟบางส่วนได้ดับลงแล้ว และมีบางส่วนไหม้ขึ้นไปบนพื้นที่ยอดเขาสูงชัน เจ้าหน้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับได้โดยตรง จึงได้จัดทำแนวกันไฟเพื่อสกัดไม่ให้กลุ่มไฟลุกลามเป็นวงกว้าง
6. เจ้าหน้าที่จุดเฝ้าระวังแม่ปลาสร้อย เห็นกลุ่มควันไฟ บริเวณป่าแม่ปลาสร้อย จำนวน 1 จุด จึงจัดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ เขตห้ามล่าฯจำนวน 3 นาย ชุดเฝ้าระวัง 4 นาย รวม 7 นาย เข้าดำเนินการดับไฟ และควบคุมไฟบริเวณดังกล่าว จนสามารถควบคุมไฟเอาไว้ได้
และ 7. บริเวณ 4 โซน ป่าวังน้ำเขียว หน่วยฯ แม่ละมุ่น หน่วยฯ หม่องกระแทะ หน่วยฯ แม่ปลาสร้อย และชุดเฝ้าระวังไฟป่า รวม 20 คน ได้นำกำลังเข้าควบคุมไฟป่า ในบริเวณพิกัด 47P 0521383E 1601184N อย่างต่อเนื่องและพบไฟป่าเกิดขึ้นที่ป่าเขาตรอกผู้ใหญ่ชัย พิกัด 47P 0519177E 1595 505N สามารถควบคุมไฟไว้ได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องลมเป่าไฟ ต้องสูดดมฝุ่นละอองและเขม่าไฟอยู่ทุกวันนั้น อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเจ้าหน้าที่ทุกนายรวมถึงชาวบ้านทุกคนที่ร่วมกันดับไฟป่า โดยเฉพาะเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจได้ เพราะการเข้าไปปฏิบัติภารกิจพบว่าเจ้าหน้าที่ยังขาดอุปกรณ์ป้องกัน โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ด้วยความเป็นห่วงจึงอยากให้นำงบประมาณที่มีอยู่ มาจัดซื้อหน้ากาดอนามัยที่มีคุณภาพสูง มอบให้กับเจ้าหน้าที่เอาไว้เพื่อป้องกันตัวเองให้พ้นจากโรคทางเดินหายใจที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี