ไฟป่าศรีสวัสดิ์หนักขึ้นระดมดับทั้งภาคอากาศพื้นดิน จนท.ยังขาดหน้ากากกันฝุ่นควันไฟ

ไฟป่าศรีสวัสดิ์หนักขึ้นระดมดับทั้งภาคอากาศพื้นดิน จนท.ยังขาดหน้ากากกันฝุ่นควันไฟ

วันจันทร์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 10.43 น.

ไฟป่าพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรีหนักขึ้น เจ้าหน้าที่ลุยดับไฟป่าทั้งภาคอากาศพื้นดิน พบยังขาดหน้ากากกันฝุ่นละอองและควันไฟ หวั่นเป็นเหยื่อโรคป่วยโรคทางเดินหายใจ

วันนี้ (10 ก.พ.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นที่ตั้งของเขื่อนศรีนครินทร์ รวมถึงอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาหิน สูงชัน สลับซับซ้อน ความสูงประมาณ 700-900 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สภาพป่าตามสันเขาและไหล่เขาเป็นป่าเต็งรัง ผสมสนสองใบ เมื่อถึงฤดูแล้งจะเกิดการผลิใบร่วงหล่นไปกองสะสมอยู่กับพื้นอย่างหนาแน่นต้นไม้เกิดการแห้ง ทำให้ง่านต่อการติดไฟ จนเกิดสถานการณ์ไฟป่าขึ้นอย่างรุนแรงมาตั้งแต่อดีตกาล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเกิดจากฝีมือมนุษย์ที่เผาเพียงแค่ต้องการประโยชน์ส่วนตัวเช่นเผาเพื่อล่าสัตว์ เก็บหาของป่า ประเภทผักหวานรมถึงตีผึ้ง ได้ง่ายขึ้น เป็นต้น   


จากสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นอยู่ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้พยายามสนธิกำลังเข้าดับไฟป่าทั้งทางภาคพื้นดินและอากาศอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ดาวเทียม ซูโอมิเอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ วีอาร์เอส (VIIRS) ตรวจพบจุดความร้อน(Hotspot)ในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จำนวน 7 จุด จากสภาพป่าและการสะสมของใบไม้ที่สะสม ทำให้เกิดสถานการณ์ไฟป่าขึ้นอย่างรุนแรง 

นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายชำนาญ แดงจุด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ประสานไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งนักบินนำเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย รุ่น KA-32.และเฮลิคอปเตอร์จาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาปฏิบัติภารกิจบินลำเลียงทิ้งน้ำเพื่อสกัดเปลวไฟและกลุ่มควันเพื่อลดปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ให้กระทบต่อสุขภาพของประชาชนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

โดยนายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง)หัวหน้าศูนย์บัญชาการประจำกลุ่มป่ารอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี นายประวัฒน์ พวงทอง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า ได้ติดตามและสั่งการอย่างใกล้ชิด

จากรายงานผลการปฏิบัติงานทางอากาศยาน เริ่มเวลา 11.00 น.ฮ.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำการบินทิ้งน้ำดับไฟป่า ที่เกิดขึ้นพื้นที่ป่ากลุ่มที่ 1 (ป่าดงเล็ก) จำนวน 10 เที่ยวบิน เวลา 14.00 น.ทำการบินทิ้งน้ำดับไฟป่า พื้นที่ป่ากลุ่มที่ 1 เพิ่มเติมอีกจำนวน 15 เที่ยวบิน   รวมทั้งสิน 25 เที่ยวบิน ปริมาตรน้ำ 12,500 ลิตร สามารถลดการลุกลามขยายพื้นที่ไฟป่าในจุดที่อยู่ยอดเขาได้ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ 

เวลา 14.00 น. เฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย รุ่น KA-32 บินทิ้งน้ำดับไฟป่า พื้นที่กลุ่มที่ 3 (เขาโกเต็ง)  จำนวน 10  เที่ยวบิน   ปริมาตรน้ำ 30,000 ลิตร สามารถลดการลุกลามขยายพื้นที่ไฟป่าในจุดที่อยู่ยอดเขาได้ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เช่นกัน

ส่วนผลการปฏิบัติงานภาคพื้นดินจำนวน 7 จุด ดังนี้ 1. กลุ่มที่ 1  บริเวณป่าบ้านปากนาสวน หมู่ 2 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์  กำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 7 นาย และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (เสือไฟ)กาญจนบุรี 10 นาย ร่วมกับชาวบ้านปากนาสวน เข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน สามารถดับไฟป่าได้บางส่วน โดยกำลังทุกนายต้องพักค้างคืนเพื่อเฝ้าระวังแนวไฟอย่างต่อเนื่อง

2. บริเวณป่าห้วยจองคร่อง บ้านปากเหมือง หมู่ 7 ต.แม่กระบุง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 8 นาย เข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน โดยได้ทำการควบคุมกลุ่มไฟไม่ให้ลุกลามเพิ่มเติมและจัดทำแนวกันไฟโดยรอบพื้นที่ และได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านปากเหมือง บ้านดงเล็ก บ้านดงใหญ่ เข้าร่วมดับไฟและทำแนวกันไฟในครั้งนี้ด้วย

3. ป่าองจุ หมู่ 1 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ มีกำลังเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าเขื่อนศรีนครินทร์ 7 นาย เข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน สามารถควบคุมไฟและดับไฟได้ทั้งหมด

4. ป่าเขาโกเต็ง หมู่ 1 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 12 นาย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าเขื่อนศรีนครินทร์ 5 นาย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (เสือไฟ) จ.ชุมพร 10 นาย เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ 7 นาย รวมทั้งสิ้น 34 นาย เข้าพื้นที่ปฏิบัติงานต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. ผลการปฏิบัติ กลุ่มไฟได้ชนแนวกันไฟที่เจ้าหน้าที่ทำสกัดไว้ บางส่วนไฟได้ไหลลงไปบริเวณชายน้ำ และเจ้าหน้าที่ยังคงทำแนวสกัดไฟทางด้านบนเพื่อไม่ให้ไฟลุกลามเป็นวงกว้างและพักค้างคืนเพื่อเฝ้าระวังแนวไฟต่อไป

5. ป่าน้ำพุ หมู่ 2 ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 12 นาย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าเขื่อนศรีนครินทร์ 10 นาย เจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวัง 15 นาย รวมทั้งสิ้น 39 นาย เข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน ผลการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่และชาวบ้านน้ำพุได้ร่วมกันดับไฟ โดยไฟบางส่วนได้ดับลงแล้ว และมีบางส่วนไหม้ขึ้นไปบนพื้นที่ยอดเขาสูงชัน เจ้าหน้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับได้โดยตรง จึงได้จัดทำแนวกันไฟเพื่อสกัดไม่ให้กลุ่มไฟลุกลามเป็นวงกว้าง

6. เจ้าหน้าที่จุดเฝ้าระวังแม่ปลาสร้อย เห็นกลุ่มควันไฟ บริเวณป่าแม่ปลาสร้อย จำนวน 1 จุด จึงจัดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ เขตห้ามล่าฯจำนวน 3 นาย ชุดเฝ้าระวัง 4 นาย รวม 7 นาย เข้าดำเนินการดับไฟ และควบคุมไฟบริเวณดังกล่าว จนสามารถควบคุมไฟเอาไว้ได้ 

และ 7. บริเวณ 4 โซน ป่าวังน้ำเขียว หน่วยฯ แม่ละมุ่น หน่วยฯ หม่องกระแทะ หน่วยฯ แม่ปลาสร้อย และชุดเฝ้าระวังไฟป่า รวม 20 คน ได้นำกำลังเข้าควบคุมไฟป่า ในบริเวณพิกัด 47P 0521383E 1601184N อย่างต่อเนื่องและพบไฟป่าเกิดขึ้นที่ป่าเขาตรอกผู้ใหญ่ชัย พิกัด 47P 0519177E 1595 505N สามารถควบคุมไฟไว้ได้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องลมเป่าไฟ ต้องสูดดมฝุ่นละอองและเขม่าไฟอยู่ทุกวันนั้น อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเจ้าหน้าที่ทุกนายรวมถึงชาวบ้านทุกคนที่ร่วมกันดับไฟป่า โดยเฉพาะเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจได้ เพราะการเข้าไปปฏิบัติภารกิจพบว่าเจ้าหน้าที่ยังขาดอุปกรณ์ป้องกัน โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ด้วยความเป็นห่วงจึงอยากให้นำงบประมาณที่มีอยู่ มาจัดซื้อหน้ากาดอนามัยที่มีคุณภาพสูง มอบให้กับเจ้าหน้าที่เอาไว้เพื่อป้องกันตัวเองให้พ้นจากโรคทางเดินหายใจที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top