วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ซัดมติอนุนบข.3ข้อไม่ตรงข้อเรียกร้อง  ‘ชาวนา’ฮึ่ม รัฐบาล  ชง9คำถามคาใจถึงรัฐบาล

ซัดมติอนุนบข.3ข้อไม่ตรงข้อเรียกร้อง ‘ชาวนา’ฮึ่ม รัฐบาล ชง9คำถามคาใจถึงรัฐบาล

วันเสาร์ ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : ชาวนา ม็อบชาวนา
  •  

ซัดมติอนุนบข.3ข้อไม่ตรงข้อเรียกร้อง

‘ชาวนา’ฮึ่ม รัฐบาล

ชง9คำถามคาใจถึงรัฐบาล

ข้าวสดต้องได้ตันละ8พัน

ถ้ารบ.ทำไม่ได้พร้อมรุกต่อ

ม็อบชาวนาอุตรดิตถ์จี้แก้ไข

นายกสมาคมชาวนาไม่โอเค เห็นต่างมติอนุฯนบข. ชง 9 คำถามคาใจ ย้ำ “ชาวนา” ต้องขายข้าวสดได้ 8,000 บาทต่อตันด้าน “ประเสริฐ” โต้กระแส 7 พรรค เสนอญัตติด่วนแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำเขย่า “พิชัย” หลุดเก้าอี้รมว.พาณิชย์ ขออย่าโยงสภาฯขยับ แล้วปรับโครงสร้างฝ่ายบริหาร ชี้แค่สะท้อนปัญหาชาวบ้านให้รบ.ฟัง ขณะที่’ทสท’ระบุราคาสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่ง แต่สินค้าเกษตรตกต่ำ กระทบประชาชน-ผู้ประกอบการรายเล็ก จี้’พาณิชย์-เกษตร’ต้องไม่นิ่งเฉย เร่งออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน

จากกรณีเมื่อวันที่ 20ก.พ.2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด (คณะอนุกรรมการ นบข.ด้านตลาด) ก่อนมีมาตรการช่วยเหลือราคาข้าวนาปรังปี2568 3ข้อ ประกอบด้วย 1.ขยายโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปรัง ช่วยค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน ระยะเวลา1-5เดือน ในพื้นที่ 72จังหวัด ปริมาณ 1.5 ล้านตัน วงเงิน 1,219.13ล้านบาท 2.การเพิ่มช่องทางการตลาดในประเทศโดยเปิดจุดรับซื้อ รัฐสนับสนุนค่าบริหารจัดการตันละ 500 บาท ผู้ประกอบการช่วยซื้อในราคานำตลาด 300บาทต่อตัน เป้าหมาย 300,000ตัน ในพื้นที่ 72 จังหวัด งบประมาณ 150ล้านบาท เป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรที่ต้องการจะขายเลย 3.โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกข้าว ช่วยดอกเบี้ยผู้ประกอบการ6% สำหรับผู้ประกอบการเก็บสต็อก 2-6เดือน และผู้ประกอบการรับซื้อราคาสูงกว่าตลาด 200 บ./ตัน ขึ้นไป เป้าหมาย 2 ล้านตัน วงเงิน 524.40ล้านบาท โดยทั้ง 3มาตรการ ใช้งบประมาณรวม 1,893.53ล้านบาทนั้น


สมาคมชาวนาไม่เอาด้วยมติอนุกบข.

เมื่อวันที่ 21ก.พ.68 นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้ออกแถลงการณ์ ดังนี้ สมาคมชาวนาแเกษตรกรไทย ขอยืนยันว่า การประชุมคณะอนุกรรมการด้านการตลาด ข้อเสนอของสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย รวมถึงข้อเสนอของชาวนาที่ยื่นผ่านผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด ไม่ผ่านการพิจารณา โดยแจ้งว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากขัดกับมติ ครม.เมื่อวันที่ 21พ.ย.66และมติ นบข.เมื่อวันที่ 8พฤศจิกายน กำหนดว่า ในการจัดทำมาตรการ/โครงการ เพื่อสนับสนุน หรือให้ความช่วยเหลือภาคเกษตรกร ให้หลีกเลี่ยงการดำเนินการในลักษณะการให้เงินอุดหนุน ช่วยเหลือ ชดเชย หรือประกันราคาสินค้าเกษตรโดยตรงแก่เกษตรกร

ไม่มีข้อไหนเป็นของชาวนาที่เสนอ

ส่วนเรื่องที่ที่ประชุมนำขึ้นมาพิจารณา โดยฝ่ายเลขาฯเป็นผู้นำเสนอ ในเรื่องของมาตรการที่จะให้สหกรณ์ดำเนินการรับซื้อ หรือรับฝากโดยสหกรณ์ได้ 500บาท/ตัน ชาวนาได้1,000บาท/ตัน ราคาข้าวแห้งที่ 8,500บาท/ตัน สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยไม่ได้เป็นผู้นำเสนอและไม่ได้เป็นแนวคิดของสมาคม สมาคมฯ ขอยืนยันตรงนี้เพื่อความเข้าใจ เพราะสมาคมฯ คิดว่า หลายฝ่ายทราบดีถึงขีดความสามารถและจำนวนสหกรณ์ ว่า ไม่มีกำลังพอและส่วนที่จะเอาใครมาช่วยรับ สมาคมฯไม่แน่ใจ แต่คิดว่าอาจจะมีการเอาโรงสีมาเข้าโครงการและได้ค่าการจัดการ 500บาท/ตันและเงินชดเชยดอกเบี้ยอีก6% ให้โรงสีซื้อนำตลาด โดยทุกฝายทราบว่า สมาคมได้ท้วงติงไปในหลายประเด็น สรุป คือ มาตรการที่ออกมาทั้งหมด ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นของสมาคมชาวนา หรือของชาวนาที่ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯที่ได้นำเสนอเลย ส่วนเรื่องการเผาฟาง สมาคมได้นำเสนอต่อที่ประชุมเมื่อวานนี้ แต่ที่ประชุมบอกว่า ไม่มีความชำนาญเชี่ยวชาญพอ จึงขอให้กระทรวงเกษตรนำไปพิจารณาในคณะอนุกรรมการด้านการผลิตต่อไป

เสนอ9คำถามถึงรบ.ต้องตอบให้ได้

ประเด็นคำถาม ที่สมาคมฯตั้งประเด็นสอบถามในที่ประชุมมีดังนี้ 1.พื้นที่นาปรัง10ล้านไร่ ผลผลิต 6.5ล้านตัน แต่โครงการมีเป้าหมายซื้อเพียง1.5ล้านตัน คำถาม คือ ส่วนที่เหลือจะทำอย่างไรและชาวนาที่เกี่ยวไปแล้วจะทำอย่างไร 2.ราคาที่ตั้งไม่ต่างจากราคาตลาด ที่มีการซื้อขาย ข้าวแห้ง (คช.15%) ที่ 8,500-8,800 บ./ตัน ข้าวสด (คช.ประมาณ 25%) 7,200-7,500บ./ตัน 3.ต้องใช้หลักฐาน เช่น ใบขึ้นทะเบียนเกษตรกรและอื่นๆหรือไม่ เพื่อยืนยัน สิทธิ์และจำนวนข้าวที่ขาย จะป้องกันอย่างไร จะเชื่อได้อย่างไรว่า มีการซื้อขายข้าวจากชาวนาจริง ไม่เป็นการเอาข้าวของผู้ประกอบการมาสวม แล้วใช้สิทธิ์ของชาวนาในการรับส่วนต่าง 1,000บ./ตัน 4.ชาวนาที่ขายไปก่อนหน้านี้แล้ว จะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร 5.การขึ้นทะเบียนในฤดูนาปรัง มีจำนวนพื้นที่และจำนวนชาวนากี่ราย 6.ข้อเท็จจริงที่ในวงการค้าข้าวและชาวนารับรู้กันว่าณปัจจุบัน มีเกษตรกรนำข้าวที่ไม่เป็นพันธุ์ข้าวของไทยมาปลูกจำนวนมากในพื้นที่ภาคกลาง และภาคเหนือ เราใช้ให้เข้าใช้สิทธิ์ในการขายได้หรือไม่ หรือว่า จำกัดสิทธิ์ในการขายและเราจะขึ้นทะเบียนเกษตรกรอย่างไร พันธุ์ที่เพาะปลูกจริงกับการขึ้นทะเบียนจะตรงกันหรือไม่

ข้าวสดต้อง8พัน-ไม่ได้เคลื่อนไหวต่อ

7.ในการที่ชาวนาเพาะปลูกข้าวในฤดูนาปรังมีหลายสายพันธุ์ เช่น ข้าวหอมปทุม พันธุ์ข้าวกลุ่มข้าว5% กข.79พื้นนุ่ม ข้าวเหนียว จะดูแลแต่ละกลุ่มข้าวอย่างไร ควรจะกำหนดมาตราใน คราวเดียวกัน 8.สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้นำเสนอจ่ายตรงชาวนา 500บ./ไร่ หรือที่ชาวนาที่ออกเรียกร้องเสนอประกันรายได้ เพราะเหตุผลใดจึงไม่นำมาพิจารณา ทำไมไม่จ่ายตรงให้ชาวนาเลย ทำไมต้องซื้อข้าวไปเก็บแล้วจ่ายค่าฝากให้ชาวนา 1,000บ/ตันและจ่ายให้สหกรณ์และหรือโรงสี ที่เข้าร่วม 500บ/ตัน ทั้งที่เกษตรกรได้รับประโยชน์ไม่ทั่วถึง 9.โครงการชดเชย ด/บ. ให้โรงสีที่เก็บฝาก เดิมที่ให้3% เพิ่มชดเชยอีก3% รวมเป็น6% หรือว่าขึ้นโครงการใหม่เป็น6%โดยรัฐจะต้องใช้วงเงินเพิ่มอีก 500 กว่าล้านบาท ประโยชน์จะถึงชาวนาจริงหรือไม่ และมีคำถามจากในที่ประชุมว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ประกอบการจะซื้อนำตลาด 200 บาทจริง ที่ประชุมคณะอนุฯ ด้านการตลาด สรุปว่า การเห็นด้วยในหลักการ ส่วนรายละเอียดต่าง จะมีกรรมการชุดย่อยดำเนินการ และนำเสนอ นบข. และสมาคมฯ เน้นย้ำว่าชาวนาต้องขายข้าวสด 8,000บาท/ตัน ถ้าไม่ได้ตามที่เ0รียกร้องจะมีการเคลื่อนไหวต่อไป

ชาวนาอุตรดิตถ์จี้รบ.รีบแก้ปัญหา

ที่บริเวณหอประชุมที่ว่าการอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ กลุ่มตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่อำเภอพิชัยกว่า 200 คนนำโดยนายจีรพงศ์ แป้นเพชร แกนนำเกษตรกรรวมตัวชุมนุมและยื่นหนังสือผ่านนายนิตย์นิชัย บุญสุวรรณ นายอำเภอพิชัย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวอำเภอพิชัย โดยมีการเขียนป้ายเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยข้อความสะท้อนถึงความเดือดร้อนในเรื่องของสถานการณ์ราคาข้าวเปลือก มันสำปะหลัง และโค-กระบือ

นายจีรพงษ์ แป้นเพชร แกนนำตัวแทนเกษตรกร เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาข้าวเปลือกตกต่ำมาก น้ำหนักอยู่ที่ราคา 6,000 - 7,000 บาทต่อตัน ราคามันสำปะหลังอยู่ที่ 1,500 บาทต่อตัน และราคาโค-กระบือ ตกต่ำเกิน 50% ทำให้เกษตรกรชาวนาชาวไร่และเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกษตรกรได้เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือและแทรกแซงราคาข้าว มันสำปะหลัง และโค-กระบือ โดยมีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลประกันราคาข้าวเปลือก ข้าวจ้าวอยู่ที่ราคา 12,000 บาทต่อตัน ซึ่งหากเกษตรกรขายข้าวไปแล้วให้รัฐบาลชดเชยส่วนที่ขาดไป ให้รัฐบาลควบคุมต้นทุนการผลิตโดยการควบคุมราคาปุ๋ย ราคายา และราคาน้ำมันเพื่อเป็นการลดต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว รวมถึงให้รัฐบาลแทรกแซงราคามันสำปะหลังโดยเปอร์เซ็นต์แป้ง 25% ราคา2.50บาทต่อกิโลกรัม ผ่านกลไกของสหกรณ์ หากเกษตรกรขายมันสำปะหลังไปแล้วให้รัฐบาลชดเชยส่วนที่ขาดไป พร้อมขอให้รัฐบาลแทรกแซงราคาโค-กระบือที่ตกต่ำให้มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนมาก จึงเรียกร้องรัฐบาลช่วยเหลืออย่างจริงจังและเร่งด่วน

นอกจากนี้ กลุ่มตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่มาร่วมยื่นหนังสือต่างมีความเดือดร้อนเช่นกัน เนื่องจากราคาข้าวมีราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งสวนทางกับราคายา ราคาปุ๋ยที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวต้องไปกู้หนี้ยืมสินจนทำให้เป็นหนี้เพิ่มมากขึ้น ถ้าหากรัฐบาลได้มีมาตรการเร่งเข้ามาช่วยเหลือในราคาข้าวก็จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นด้าน นายนิตย์นิชัย บุญสุวรรณ นายอำเภอพิชัย กล่าวว่า หลังรับหนังสือจากตัวแทนเกษตรกรอำเภอพิชัยจะนำหนังสือมอบไปยังผู้ว่าฯเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

พท.โต้7พรรคเสนอญัตติเขย่า’พิชัย’

ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี7พรรคการเมือง เสนอญัตติด่วนให้สภาพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่เพาะปลูกข้าว เนื่องจากราคาตกต่ำ เกี่ยวข้องกับการเขย่าก้าวอี้รัฐมนตรีของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ หรือไม่ ว่า ต้องแยกประเด็น เนื่องจากการเสนอญัตติขึ้นมาเนื่องจาก สส.ไปรับฟังปัญหาจากประขาชน โดยเฉพาะราคาข้าว ที่สะท้อนจากหลายจังหวัดและเห็นว่า พรรคแต่ละพรรคน่าจะมีการเห็นพ้องต้องกัน เพราะปัญหาเหล่านี้ต้องนำมาพูดกันในเวทีของสภาฯ เพื่อให้ฝ่ายบริหารได้รับทราบและแก้ไข ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ นายประเสริฐ มองว่า ไม่น่าเกี่ยวข้องกัน เพราะเมื่อมีปัญหาก็แก้ไขกันไป เมื่อฝ่ายนิติบัญญัติรับฟังปัญหามากก็สะท้อนให้ฝ่ายบริหาร เพราะฉะนั้นเรื่องไหนเข้าสภาฯก็ขออย่าไปมองว่าจะกระทบต่อการปรับโครงสร้างทางฝ่ายบริหาร

ทสท.ห่วงสินค้าราคาพุ่งกระทบปชช.

นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) แสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วน ปัจจุบันราคาสินค้าหลายประเภทปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรง และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารสด ได้รับผลกระทบโดยตรงจากต้นทุนวัตถุดิบและโลจิสติกส์ที่สูงขึ้น ทำให้ราคาเนื้อสัตว์ ผักและอาหารทะเลปรับตัวขึ้นตามไปด้วย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนและร้านอาหารที่ต้องรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น

แต่สินค้าเกษตรตกต่ำ-รบ.ต้องแก้ไข

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์นมก็มีราคาสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากราคาน้ำนมดิบที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เนยและนมมีราคาสูงขึ้น ซึ่งกระทบต่อภาคครัวเรือนและธุรกิจที่ใช้ผลิตภัณฑ์นมเป็นวัตถุดิบ สินค้าในกลุ่มเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดก็ปรับตัวขึ้นตามต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามอัตราแลกเปลี่ยนและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำอัดลม เป็นอีกกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบและโลจิสติกส์ที่สูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าในหมวดหมู่นี้ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลกระทบต่อร้านอาหารและผู้ประกอบการที่ต้องพึ่งพาสินค้าเหล่านี้ในการดำเนินธุรกิจ

กลุ่มผู้มีรายได้น้อยกระทบโดยตรง

“ของแพงเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว มิฉะนั้น ประชาชนจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก และผู้ประกอบการรายย่อยอาจต้องปิดกิจการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะที่ยากลำบากมากขึ้น” นายชัชวาล ระบุ นอกจากนี้ ปัญหาของเกษตรกรก็เป็นอีกประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข เกษตรกรต้องขายสินค้าเกษตรในราคาที่ตกต่ำ ขายได้ถูก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้และคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ปัญหานี้ต้องได้รับความสนใจจากรัฐบาลและผู้มีอำนาจในการบริหารประเทศ เพื่อให้เกิดมาตรการช่วยเหลือที่เป็นธรรมและยั่งยืนขอให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่นิ่งเฉยต่อปัญหานี้ และให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลควรมีมาตรการที่ชัดเจนและเร่งด่วนในการควบคุมราคาสินค้าและบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

พปชร.ชี้พท.ซื้อเวลาส่งศาลฯตีความ

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยได้เสนอญัตติด่วนเรื่องขอรัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา210 วรรคหนึ่ง(2)ว่า เป็นแค่การซื้อเวลาของพรรคเพื่อไทย เพื่อที่จะตอบคำถามกับประชาชนหรือมวลชนที่เขาไปหาเสียงจะแก้รัฐธรรมนูญ ว่าขั้นตอนการแก้ไขยังอยู่ในสภาฯ เรายังพยายามทำอยู่ แต่ต้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความก่อนเพื่อให้เกิดความรอบคอบ เพราะพรรคเพื่อไทยรู้ดีอยู่แล้วว่า ทันทีที่มีการพิจารณาเรื่องนี้ในวาระแรก ก็จะถูกตีตกไปทันที ก็เลยใช้เทคนิคเพื่อซื้อเวลาออกไป

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่า จะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญอีกเพื่ออะไร เพราะเคยยื่นไปแล้ว 2 ครั้ง โดยตนเป็นผู้ที่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตามแบบที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำ ตนเป็นคนดำเนินการคนแรก เพราะอำนาจที่รัฐสภามี ก็คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเท่านั้น ไม่ได้ให้อำนาจให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และเมื่อตนถามไป ศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยกลับมาว่า รัฐสภามีอำนาจในการดำเนินการ แต่ก่อนที่จะดำเนินการจะต้องไปถามความคิดเห็นของประชาชน ก็คือการทำประชามติเมื่อตีความแล้ว ก็คือ รัฐสภาไม่มีอำนาจนั่นเอง ”ประเด็นนี้มันชัดเจนมาตั้งแต่ปี2564แล้วและสมัยนั้นก็ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนั้นตกไป ต่อมาก็ในสมัยรัฐสภาชุดนี้ก็มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญในลักษณะเดียวกัน ศาลก็ตอบมาว่า เป็นเรื่องที่เคยตอบไปแล้ว ก็คือเรื่องซ้ำกับเรื่องเดิม และครั้งนี้ก็เช่นกัน ตนเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งยกคำร้อง เนื่องจากได้วินิจฉัยไปแล้ว สุดท้ายเพื่อไทยก็หน้าแตกเหมือนเดิม“นายไพบูลย์ กล่าว

หลายปัญหารุมเร้ารบ.อยู่ไม่ได้แน่

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า คำถามคือ ทำไมพยายามจะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ทำไมถึงไม่แก้รายมาตราทั้งที่ดำเนินการได้เลย นั่นเพราะว่า จะสามารถแก้ได้มั่วเลย โดยเฉพาะการสอดไส้เรื่องทำลายระบบองค์กรอิสระทิ้งทั้งหมด จึงเป็นเหตุผลที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยมี สสร.ร่างขึ้นมาใหม่ สิ่งที่พรรคเพื่อไทยคิดเอาไว้ต่อจากนี้ ก็คือการพยายามแก้กฎหมายประชามติให้เหลือแค่ชั้นเดียวให้ได้ ก็คือ ยึดเอาแค่เสียงข้างมากจากประชาชนที่มาใช้สิทธิ แต่ตอนนี้กฎหมายประชามติยังคงเป็น 2 ชั้น และมีเงื่อนไขระบุว่า ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง ซึ่งถือว่ายากมาก แต่ที่ยากยิ่งกว่า ก็คือ อายุของรัฐบาลชุดนี้คงอยู่ไม่ถึงวันที่จะได้แก้ สิ่งที่น่าห่วงกว่าการแก้รัฐธรรมนูญคือ อายุของรัฐบาลแพทองธาร ที่วันนี้สถานะ เสถียรภาพต่างๆ ฝีมือบริหารประเทศในเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้ารอบด้าน จนกลายเป็นปัญหาที่หมักหมม มีแต่เรื่องเสียหายเต็มไปหมด คือ ปัจจัยที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รบ.ชวนคนไทย  ร่วมเที่ยวชมงาน  วันข้าว-ชาวนา  4ถึง6มิถุนายน รบ.ชวนคนไทย ร่วมเที่ยวชมงาน วันข้าว-ชาวนา 4ถึง6มิถุนายน
  •  

Breaking News

'จู๊ด'ผ่าไหล่!ชวดช่วยราชันเปิดซีซั่น

สานรอยตำนาน! 'ยามาล'รับเบอร์10บาร์เซโลน่า

(คลิป) 'รักชนก'อารมณ์ค้าง! ฟาด'กปปส-รัฐประหาร' ไม่ยั้ง!

ค้นห้องเย็นซุกเนื้อสัตว์ลอบนำเข้า-แช่สารอันตราย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved