กทม. เปิดรับคนพิการเข้ารับราชการ “ครูผู้ช่วย” / จัดการศึกษาพิเศษ(เรียนร่วม) มีครูสอนเด็กมีความบกพร่องครบ 437 รร.ในสังกัด
นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวในการตรวจเยี่ยมการคัดเลือกคนพิการเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ครั้งที่ 1/2567 ว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้อนุมัติให้มีการสอบคัดเลือกครั้งนี้ซึ่งถือว่าพิเศษมากๆ ที่กทม.เปิดโอกาสให้กับคนพิการได้เข้ามาพิสูจน์ความรู้ความสามารถมิใช่การสงเคราะห์หรือสงสาร โดยได้กำชับผู้เข้าสอบทุกคนให้มุ่งมั่น ตั้งใจ และทำให้เต็มที่ เพราะกทม. เราอยากร่วมงานกับคนที่มีใจรักความเป็นครูอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ได้หารือกับทางคณะกรรมการและที่ปรึกษาฯ ในอนาคตเรื่องของการบรรจุเข้ารับราชการของคนพิการที่ขณะนี้ยังขาดแคลน เพื่อเปิดโอกาสรับคนพิการเข้ามาในตำแหน่งอื่นๆ อีก
สำหรับการสอบคัดเลือกในครั้งนี้ ประกอบด้วย10 กลุ่มวิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษภาษาไทย สังคมศึกษา ประถมศึกษา เทคโนโลยีทางการศึกษา บรรณารักษ์ คอมพิวเตอร์ และศิลปศึกษา-วาดเขียน โดยมีผู้ผ่านการสอบข้อเขียนมาทั้งสิ้น 24 คน ประกอบด้วย การพิการทางสายตา การได้ยิน และการเคลื่อนไหว และทางสำนักการศึกษาจะประกาศผลการคัดเลือกภายในวันที่ 13 มีนาคม 2568 ที่เว็บไซต์ https://teacherbkk.thaijobjob.com ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ ในส่วนของการส่งเสริมการศึกษาพิเศษ (เรียนร่วม) โรงเรียนสังกัดกทม. นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2567 โรงเรียนสังกัดกทม. ได้จัดการศึกษาพิเศษ (เรียนร่วม) 161 โรงเรียน และมีครูการศึกษาพิเศษครบทั้ง 437 โรงเรียน เพื่อรองรับและดูแลนักเรียนที่มีความบกพร่อง หรือมีความต้องการพิเศษ รวมทั้งสิ้น 4,383 คน ครอบคลุมระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วยเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้และเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย “เรียนดี” ของ กทม. ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษา
ขณะเดียวกัน เพื่อให้การศึกษาพิเศษมีคุณภาพและได้มาตรฐาน สำนักการศึกษา (สนศ.) กำหนดให้โรงเรียนดำเนินงานตามเกณฑ์ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) โดยเฉพาะมาตรฐานที่ 4 ด้านกระบวนการจัดการศึกษาพิเศษ (เรียนร่วม) ซึ่งกำหนดให้จัดทำแผน โครงการ และกิจกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนร่วมอย่างต่อเนื่อง กำกับ ติดตาม และตรวจสอบ การดำเนินงานตามแผนปฏิบัติงานประจำปี สรุปผลการประเมินและแจ้งผลให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแก้ไขและป้องกันข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นโดยโรงเรียนในสังกัดกทม. ใช้กระบวนการคัดกรองนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษผ่านแบบประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของเด็ก (Strengths and Difficulties Questionnaire : SDQ) และแบบคัดกรองเด็กพิการ 9 ประเภทของกระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทางการแพทย์ เช่น สำนักอนามัย หรือโรงพยาบาล เพื่อให้ความรู้ คัดกรอง ให้คำปรึกษา และติดตามพัฒนาการของเด็กอย่างเป็นระบบ รวมถึงการปรับพฤติกรรมและการส่งต่อเพื่อเข้ารับการรักษา
นอกจากนี้ โรงเรียนสังกัดกทม. ยังมีการจัดชั้นเรียนร่วมแบบเต็มเวลา เพื่อให้นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษได้เรียนร่วมในทุกระดับชั้น ร่วมมือกับผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องในการวางแผนการพัฒนาเด็กเป็นรายบุคคลรวมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษเข้าร่วมกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน การดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้โรงเรียนสังกัดกทม. สามารถพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครูสามารถออกแบบการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนและความต้องการของหลักสูตร มีระบบติดตามและช่วยเหลือนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อให้เด็กมีทักษะและความพร้อมสำหรับการเรียนร่วมกับนักเรียนทั่วไป อีกทั้งนักเรียนที่จบการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ยังสามารถเข้าศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในโรงเรียนอื่นได้ รวมทั้งมีการต่อยอดการพัฒนาการศึกษาพิเศษให้มีความต่อเนื่อง โดยยึดบริบทของเด็กเป็นสำคัญ เช่น แผนบริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัวของเด็ก แผนการงานอาชีพเฉพาะผู้เรียนรายบุคคล และแผนการดำเนินชีวิตตามศักยภาพของแต่ละคนเพื่อการส่งต่อ เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี