กทม. ติวเข้มนักเรียน ม.3 - ม.4 ตั้งเป้าผลการสอบ PISA สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ พร้อมดึง รร.สาธิต เป็นพี่เลี้ยง
วันที่ 12 มิ.ย.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 6/2568 โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า)
ที่ประชุมรายงานเรื่องแผนการเตรียมความพร้อมในการสอบประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล หรือ PISA (Programme for International Student Assessment) ที่จะมีขึ้นในปีนี้ ว่า การประเมิน PISA เป็นการประเมินเรื่องความฉลาดรู้ (Literacy) ใน 3 ด้าน ได้แก่ ความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ และความฉลาดรู้ด้านการอ่าน ดำเนินการประเมินทุก 3 ปี โดยผลการสอบ PISA ในรอบ 3 การทดสอบที่ผ่านมา พบว่าประเทศไทยมีคะแนนสอบต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศสมาชิก OECD (องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา) และโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของระดับประเทศ ซึ่งในรอบการสอบครั้งล่าสุด (ปี 2022) กรุงเทพมหานครมีคะแนนอยู่ในลำดับที่ 5 จาก 8 กลุ่มโรงเรียน โดย 8 กลุ่มโรงเรียน ประกอบด้วย กลุ่มโรงเรียนเน้นวิทย์ กลุ่มโรงเรียนสาธิต กลุ่มโรงเรียนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. (มัธยมศึกษา) กลุ่มโรงเรียนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. กลุ่มโรงเรียน กทม. กลุ่มโรงเรียน สพฐ. (ขยายโอกาส) กลุ่มโรงเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. และกลุ่มโรงเรียนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรือ สอศ.
กรุงเทพมหานครจึงได้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนระดับกรุงเทพมหานคร ซึ่งเริ่มดำเนินการขับเคลื่อนมาตั้งแต่ปีการศึกษา 2567 ในเดือน พ.ค. 67 โดยดำเนินการมาเรื่อย ๆ รวมถึงได้มีการวัดผล Pre-Test นักเรียนสังกัด กทม. ในโรงเรียนมัธยม ทั้ง 109 โรงเรียน เพื่อประเมินเบื้องต้นว่าหากสอบ PISA นักเรียน กทม. จะทำได้ขนาดไหน โดยใช้ข้อสอบของ สสวท. 20 ข้อ ผลคือคะแนนรวมผ่านเพียง 5 ข้อ จากนั้นได้มีการดำเนินการขับเคลื่อนต่อเนื่อง และมีการสอบ Post-Test เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 68 พบว่าคะแนนรวมเพิ่มขึ้นเป็น 9 คะแนน คือยังมีค่าเฉลี่ยไม่ถึงร้อยละ 50 ยังต้องได้รับการพัฒนาในทุกมิติ อาทิ ทักษะการคิดวิเคราะห์ การตีความข้อมูล การอธิบายเหตุผล เป็นต้น
สำหรับการสอบ PISA ที่จะเกิดขึ้นในเดือน ส.ค. 68 นี้ เด็กไทย (เกิดในช่วง 1 มิ.ย. 52 - 31 พ.ค. 53) จะถูกสุ่มเป็นตัวอย่างประมาณ 9,000 คน สังกัดกรุงเทพมหานครมีนักเรียนที่เข้าเกณฑ์ 1,942 คน คาดว่าจะถูกสุ่มประมาณ 800 คน คือระดับ ม.3 - ม.4 ประมาณ 31 โรงเรียน โดยในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสอบ กทม. ได้มีการจัดทำแผนติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ดำเนินการอย่างเข้มข้นในการสอนเด็กฝึกทำแบบทดสอบ โดยใช้ข้อสอบของ สสวท. ฝึกทำโดยใช้คอมพิวเตอร์ ฝึกทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ ให้คุณครูติดตามผลและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมรายงานผลทุก 2 สัปดาห์ และมีผู้บริหารติดตามผลและลงพื้นที่ให้กำลังใจ ทั้งนี้ โครงการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความฉลาดรู้ของนักเรียน ได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนสาธิตในกรุงเทพมหานคร 3 แห่ง ในการเป็นโรงเรียนพี่เลี้ยง ดังนี้ 1. โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) เป็นพี่เลี้ยงโรงเรียนเป้าหมาย ได้แก่ โรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ และโรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ 2. โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ฝ่ายมัธยม) เป็นพี่เลี้ยงโรงเรียนเป้าหมาย ได้แก่ โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม และโรงเรียนมัธยมปุรณาวาส 3. โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายมัธยม) เป็นพี่เลี้ยงโรงเรียนเป้าหมาย ได้แก่ โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ และโรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ คาดว่าภาพรวมคะแนนปีนี้จะดีขึ้น โดยตั้งเป้ายกระดับผลการสอบให้สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำด้วยว่า การเตรียมความพร้อมนี้ไม่ใช่หน้าที่ของสำนักการศึกษาเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วนทั้งผู้อำนวยการเขต ผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อสร้างความพร้อมให้กับนักเรียน 31 โรงเรียนที่ถูกสุ่มให้เข้าสอบ PISA ในเดือน ส.ค. ที่จะถึงนี้ โดยหัวใจหลักคือจะต้องให้ Feedback แก่เด็ก คือเด็กต้องรู้ว่าที่เขาทำผิดนั้นผิดอย่างไร
037
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี