nn หลังจาก “ไผ่ฎำ” นำเสนอข่าวความคืบหน้าชายทะเลบางขุนเทียนซึ่งถูกน้ำกัดเซาะ ที่ถึงทุกวันนี้แนวทางแก้ไขลักษณะมาตรฐานมั่นคงถาวรกลับยัง “ลูกผีลูกคน” ทั้งๆ กทม.เองเดินหน้าวางแผนเต็มสูบมาตลอด มีการสำรวจ มีการประเมินรูปแบบกำหนดแนวทางต่างๆ ครบครัน แต่เพราะเป็นงานใหญ่ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูง ปัญหาจึงเกิดขึ้นด้วยสาเหตุที่ว่ากทม.ไม่มีงบประมาณจะดำเนินการ ดังนั้น ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกันแก้ไข โดยเฉพาะ สส.ทั้งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลต้องไม่เป็น “เตมีย์ใบ้”...

nn ปรากฏว่าพลันทันทีที่เป็นข่าวประชาชนคนบางขุนเทียนจำนวนไม่น้อยก็ออกมาแสดงความคิดเห็นสอดคล้องกันทั่วหน้า อยากให้ สส.ในสภาผู้แทนราษฎรตื่นตัวเป็นเดือดเป็นร้อนเสนอญัตติต่อสภาฯหาทางแก้ไขเร่งด่วน อย่าตื่นตัวแบบ “วัวหายแล้วคิดล้อมคอก” เพราะนั่นหมายถึงความเสียหายร้ายแรงที่ต้องทำในอนาคตและจะใช้งบประมาณมหาศาลแก้หรือไม่แก้แน่นอน...

nn หากปัญหาดังกล่าวอุบัติมากกว่าที่เป็นอยู่จนกระทบต่อชุมชนหนาแน่นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งทะเลบางขุนเทียนพินาศสิ้นใครจะรับผิดชอบตัวอย่างเลวร้าย “ชะตากรรมชะตาทราม” ที่เกิดกับชายฝั่งทะเลซึ่งเชื่อมต่อกับชายทะเลบางขุนเทียน(จังหวัดสมุทรปราการ) ตรงนี้เป็นสิ่งน่าสะพรึงกลัวสุดๆ เนื่องจาก วัด-เสาไฟฟ้า ปัจจุบันประจานกลายเป็นอนุสรณ์แห่งการวางเฉยของรัฐบาลอยู่กลางทะเล การจะให้เทศบาล, องค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือในส่วนของ กทม.ทำกันเองปลุกเสกกันเองเพียงลำพัง เชื่อแน่ไม่มีทางแก้ปัญหาได้ ทำได้ก็แค่แก้กันไปและถอยร่นประชาชนออกไปเหมือนที่ทำอยู่ในปัจจุบัน...nn ทั้งหมดนี้นับว่าการแสดงความคิดอ่านของประชาชนกับเรื่องดังกล่าวที่ความเข้าใจปัญหาหรือเข้าใจโคตรของปัญหาอย่างมากทีเดียว ที่สำคัญเป็นการตื่นตัวที่ควรค่ายกย่อง เสมือนหนึ่งที่หน่วยงานของ กทม.อย่างสำนักการโยธา (สนย.)สำนักการระบายน้ำ(สนน.) รับรู้ปัญหา และร่วมกันเสนอแนวทางแก้ไขมาตลอดทั้งเฉพาะหน้าและถาวรมีมาตรฐานเสมอต้นเสมอปลาย แต่สิ่งที่ขาดก็เหมือนกับที่ประชาชนเข้าใจ คือ “เงิน” การวางเฉยของภาครัฐฯที่ตายังบอดสี หูยังหนวก มองไม่เห็นรวมถึงการไม่รับรู้ใดๆ เป็นเรื่องทุรยศยิ่งทีเดียว ดังนั้น ตรงนี้ปัญหานี้ไม่ใช่ปล่อยวางให้ กทม.เพียงลำพังกระเสือกกระสนแก้ไข เพราะมันกลายพันธุ์เป็นปัญหาระดับชาติต้องใช้งบฯสูงเกินตัว กทม.แล้ว...

nn อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนสิ่งหนึ่งที่ประชาชนคนชายทะเลบางขุนเทียนเขตบางขุนเทียนพูดสอดคล้องกับที่ “ไผ่ฎำ” นำเสนอ คือ อยากเห็น สก., สข., สส. ตลอดถึง สว.ใช้สมองพูดสะท้อนปัญหาในสภาฯให้เกิดเป็นแรงขับเคลื่อนเดือดร้อนกันบ้าง เนื่องจากกระแสดังกล่าวทุกวันนี้เงียบเหมือนเป่าสาก โดยเฉพาะ สก.สมควรอย่างยิ่งที่จะแสดงวิสัยทัศน์ปัญญารุกเร้ารัฐบาล เพราะนั่นคือความรับผิดชอบ ส่วน สส. สว. บางขุนเทียนชาวบ้านเขา “อาราธนา” แนะนำว่าอย่าดีแต่ร่ายรำเรื่องไกลตัว ชาวบ้านกำลัง “โคตรอัปมงคลโคตรแย่” กับน้ำกัดเซาะชายทะเลฝั่งทะเลบางขุนเทียน...nn
 

ไผ่ฎำ