วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ทีมนักวิจัยตรวจเยี่ยม ‘การจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตร’ เพื่อลดจุดความร้อน-ฝุ่นจิ๋ว

ทีมนักวิจัยตรวจเยี่ยม ‘การจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตร’ เพื่อลดจุดความร้อน-ฝุ่นจิ๋ว

วันเสาร์ ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2568, 19.02 น.
Tag : hotspot จุดความร้อน ฝุ่นจิ๋ว น่าน
  •  

ทีมนักวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เข้าตรวจเยี่ยมพื้นที่เครือข่ายชุมชนด้านการจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรเพื่อลดจุดความร้อน ‘hot spot’ และฝุ่นละออง PM2.5

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมนักวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ นำโดยนางสาวนัติฐา ครุฑหมื่นไวย และนายสรศักดิ์  ใจตุ้ย นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการพิเศษร่วมกับเครือข่ายนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาน่าน สำนักงาน บริษัทไฟฟ้าหงสา จำกัด และองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำมวบ องค์การบริหารส่วนตำบลส้าน อำเภอเวียงสา และสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดน่าน ได้เดินเข้าตรวจเยี่ยมพื้นที่เครือข่ายชุมชนด้านการจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรเพื่อลดจุดความร้อน hot spot และฝุ่นละออง PM2.5 ในอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยการตรวจเยี่ยมพื้นที่เกษตรกรกลุ่มเป้าหมายครั้งนี้ คณะนักวิจัยมุ่งเน้นการหาแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกับเครือข่ายชุมชนและหน่วยงานราชการในระดับท้องถิ่น อำเภอเวียงสา โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ 1. พัฒนาระบบการจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรอย่างเป็นระบบ โดยเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรและภาคเอกชนที่รับซื้อ รวมถึงการพัฒนากระบวนการแปรรูปเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ 2. ส่งเสริมการปลูกพืชทางเลือกที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาด เพื่อทดแทนการปลูกข้าวโพด ลดพื้นที่การเผา และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับเกษตรกร 3. สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรลดการเผาผ่านระบบการรับรองการผลิตพืชแบบไม่เผา (no-burn certification) ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และ 4. สร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนที่ต้องการรับซื้อผลผลิตที่มาจากระบบการเกษตรแบบยั่งยืน โดยพัฒนาช่องทางตลาดใหม่ และส่งเสริมพื้นที่ต้นแบบ (best practice) สำหรับการพัฒนาเกษตรกรรมแบบครบวงจร


โดยมีเป้าหมายหลักในการลดจำนวนจุด hotspot ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากการเผาในที่โล่งให้น้อยกว่า 4,000 จุด/ปี ในพื้นที่เป้าหมาย 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยเน้นการบริหารจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรอย่างยั่งยืน ลดการเผา ลดการปล่อยฝุ่น PM2.5 ลงสู่บรรยากาศ ซึ่งช่วยควบคุมมลพิษทางอากาศ ลดผลกระทบจากฝุ่นละออง ลดความเสี่ยงของไฟป่า การสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ และ ลดอัตราการเกิดโรคทางเดินหายใจที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากโครงการ คือ สิ่งแวดล้อมดีขึ้น โดยช่วยลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ลดผลกระทบต่อคุณภาพอากาศและสุขภาพ  เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็งโดยเกษตรกรได้รับโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ผ่านการปลูกพืชทดแทนและพัฒนาช่องทางการตลาด เกิดต้นแบบการจัดการเกษตรยั่งยืน โดยพื้นที่เป้าหมายได้รับการพัฒนาเป็น Best Practice สำหรับเกษตรกรรมปลอดการเผา เกิดความร่วมมือข้ามภาคส่วน เกิดการบูรณาการระหว่างชุมชน ภาคเอกชน และหน่วยงานรัฐในการจัดการปัญหามลพิษ สรุปภาพรวม โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดฝุ่น PM2.5 และควบคุม hotspot เท่านั้น แต่ยังเป็น ต้นแบบการพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ที่สามารถต่อยอดไปยังพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทยได้ การพัฒนาเครือข่ายชุมชนและภาคธุรกิจร่วมกันช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม และเป็นก้าวสำคัญในการป้องกันปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศในระยะยาว ///-026

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • น่านพบโคตายที่อำเภอปัว ปศุสัตว์แจงเป็นไข้เห็บ ไม่ใช่แอนแทรกซ์ น่านพบโคตายที่อำเภอปัว ปศุสัตว์แจงเป็นไข้เห็บ ไม่ใช่แอนแทรกซ์
  • ‘นายกเล็กแม่สา’ ลงพื้นที่ปรับสภาพแวดล้อม-สิ่งอำนวยความสะดวกผู้สูงอายุ ‘นายกเล็กแม่สา’ ลงพื้นที่ปรับสภาพแวดล้อม-สิ่งอำนวยความสะดวกผู้สูงอายุ
  • \'วุฒิสภา\'ลงพื้นที่น่าน ศึกษาปัญหาไฟป่า PM 2.5 เผยจุดความร้อนลดลงกว่าร้อยละ 7 'วุฒิสภา'ลงพื้นที่น่าน ศึกษาปัญหาไฟป่า PM 2.5 เผยจุดความร้อนลดลงกว่าร้อยละ 7
  • จนท.สนธิกำลัง ‘ส่งตัวชาวลาว-กลับภูมิลำเนา 8 ราย’ ที่จุดผ่านแดนถาวรห้วยโก๋น จนท.สนธิกำลัง ‘ส่งตัวชาวลาว-กลับภูมิลำเนา 8 ราย’ ที่จุดผ่านแดนถาวรห้วยโก๋น
  • ดาวเทียมตรวจพบ‘จุดความร้อน’เมืองแม่ฮ่องสอน-จนท.เร่งดับไฟ-หวั่นควันพิษกลับมา ดาวเทียมตรวจพบ‘จุดความร้อน’เมืองแม่ฮ่องสอน-จนท.เร่งดับไฟ-หวั่นควันพิษกลับมา
  • สงกรานต์คึกคัก! ชาวน่าน-นักท่องเที่ยวร่วมทำบุญ ขนทรายเข้าวัด ปักตุงรับปี๋ใหม่เมือง สงกรานต์คึกคัก! ชาวน่าน-นักท่องเที่ยวร่วมทำบุญ ขนทรายเข้าวัด ปักตุงรับปี๋ใหม่เมือง
  •  

Breaking News

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันศุกร์ที่ 9​ พฤษภาคม พ.ศ. 2568

‘อุ๊งอิ๊งค์‘เลี่ยงตอบ! มติแพทย์สภา พักใบอนุญาต 3 หมอ เซ่นปม ชั้น 14

‘สว.โชคชัย’ ท่องไม่รู้-ไม่เห็นหมายเรียก ‘คดีฮั้วสว.’ ขอดูรายละเอียดก่อน

'รุจิระ บุนนาค' เขียนบทความ 'ความต่างของ สิงคโปร์ กับ ไทย'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved