ไฟไหม้‘โรงงานกระดาษ’ขนาดใหญ่ที่นนทบุรี ระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คันระงับเหตุ

16 มีนาคม 2568 ร.ต.อ.ศุภชัย ขอมคง รอง สว.สอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุไฟไหม้บริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 2 ถนนบางเลน-ปทุมธานี ต.ขุนศรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นโรงงานกระดาษรีไซเคิล ผลิตกระดาษไหว้เจ้าและบรรจุภัณฑ์ จึงประสานรถดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขุนศรี , อบต.คลองขวาง , อบต.ไทรใหญ่ , อบต.ทวีวัฒนา , อบต.ไทรน้อย , อบต.หนองเพรางาย , เทศบาลตำบลไทรน้อย , องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นนทบุรี และรถดับเพลิงจาก จ.นครปฐม ประมาณ 20 กว่าคัน เร่งเข้าดับไฟ

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานขนาดใหญ่เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ลักษณะปลูกเป็นโกดังติดต่อกันหลายหลัง พบไฟไหม้จากโกดังหลังรองจากโกดังหลังสุดท้ายไฟไหม้ลุกลามอย่างรุนแรงจำนวน 2-3 โกดัง เนื้อที่ถูกไฟไหม้ประมาณ 1 ไร่ จนหลังคาโกดังยุบตัวลงมา มีกลุ่มควันสีดำลอยสูง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำสกัดไฟ พบไฟไหม้เสียหายไป 2 โกดัง ส่วนโกดังที่ 3 ถูกไฟไหม้บางส่วน

เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำดับเพลิงประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง สามารถควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัด แต่เพลิงยังไม่สงบ เนื่องจากภายในโกดังมีกระดาษที่ผลิตแล้ว เศษไม้และสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตกระดาษอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับหลังคาโกดังยุบตัวลงมาไม่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปภายในอาคารได้ จึงได้ฉีดน้ำล้อมรอบไว้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ประชุมวางแผนร่วมกับ น.ส.อังคณา ยืนยงพานิช นายอำเภอไทรน้อย  นายกเทศมนตรีและนายกอบต.วางแผนร่วมกันประสานขอเครื่องสูบน้ำแรงดันสูงจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมาสนับสนุนน้ำให้รถดับเพลิง และรถแบคโฮ เพื่อคุ้ยเขี่ยกองกระดาษที่ไฟยังไหม้อยู่ในอาคาร

นายชนินทร์ สาอาจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงบรรเทาวิษณุนนทบุรี กล่าวว่า ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตกระดาษ จะมีเชื้อเพลิงประเภทไม้และไม้ที่นำมาทำกระดาษ เพลิงไหม้โกดังที่ 1 และลามไปโกดังที่ 2 ส่วนโกดังที่ 3 เป็นสารเคมียังไม่ทราบจำนวนว่ามีมากน้อยแค่ไหน เป็นสารโซเว้นท์ และสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตกระดาษ และเป็นกระดาษที่ผลิตแล้วถูกไฟไหม้เสียหายหมดรวมทั้งโครงหลังคาของโกดังก็ยุบตัวลงมา เป็นอุปสรรคที่จะเข้าไปดับเพลิง

เบื้องต้นได้มีวางแผนร่วมกันกับนายกเทศมนตรี นายกอบต.สรุปมีการร้องขอรถส่งน้ำแรงดันระยะไกลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาเพื่อลำเลียงน้ำให้กับรถน้ำที่จะเข้าไปดับเพลิงภายใน รวมทั้งรถแบคโฮ จนถึงขณะนี้ควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัด แต่ยังมีเพลิงลุกไหม้ภายในอยู่ ซึ่งต้องรอรถน้ำและรถแบคโฮมาเขี่ยเพื่อดับไฟให้สนิทอีกครั้ง