ชาวบ้านบ่นอุบด่านพรหมบุรี ตร.เตรียมถอดคลิป หาช่องเอาผิดแอดมินกดดันนายดาบ

ชาวบ้านบ่นอุบด่านพรหมบุรี ตร.เตรียมถอดคลิป หาช่องเอาผิดแอดมินกดดันนายดาบ

วันพฤหัสบดี ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2568, 17.09 น.

 เพจดังไลฟ์ คุกคามกดดัน จนท.ตำรวจ ตั้งกล้องจับความเร็ว จนเกิดอาการเครียด เส้นเลือดในสมองแตก กล้ามเนื้ออ่อนแรง

วันที่ 20 มีนาคม 2568 จากกรณีที่ ด.ต.ศุภมิตร พวงประเสริฐ ผบ.หมู่ งานจราจร สภ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อายุ 49 ปี กำลังปฏิบัติหน้าที่ใช้กล้องตรวจจับความเร็วสำหรับรถที่ขับในอัตราความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อยู่ที่เกาะกลางถนน ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อยู่นั้น ได้แอดมินของเพจดั พร้อมพวกรวม 3 คน  ได้มาตั้งกล้องหน้าและถ่ายคลิปใกล้   ด.ต.ศุภมิตร ฯ พร้อมด้วยคำพูดยั่วยุ เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ในขณะที่ ด.ต.ศุภมิตร ฯ นิ่งเงียบ ใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง ต่อมา พ.ต.ท.ภูษิต ก้อนทอง หัวหน้าชุดงานจราจร ได้ดูคลิปไลฟ์สดอยู่ในขณะนั้น สังเกตเห็น ด.ต.ศุภมิตรฯ เริ่มมีอาการแขนข้างขวาอ่อนแรง และไม่ดูกล้องตรวจจับความเร็ว เลยรีบโทรหารถพยาบาล 1669 พร้อมสั่งลูกน้องให้ไปช่วย ด.ต.ศุภมิตร เพื่อนำส่งโรงพบาล ซึ่งต่อจากนั้น ด.ต.ศุภมิตร ได้ทรุดล้มลงมีอาการชักเกร็ง รวม 2 ครั้ง ไม่นานรถพยาบาลก็ได้นำตัว ด.ต.ศุภมิตร ส่งโรงพยาบาลทันที


ล่าสุด ที่จุดสกัดพรหมบุรี หมู่ที่ 5 ต.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ในส่วนของผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.ศุภวัฒน์ ได้มีการประชุมในเรื่องแนวทางการรักษาตัวของ ด.ต.ศุภมิตร โดย พล.ต.ต.จักรภพ สุคนธราช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี ได้ประสานทางโรงพยาบาลตำรวจเพื่อส่งตัว ด.ต.ศุภมิตร เข้ารับการรักษาตัวอย่างเร่งด่วน  สอบถาม นางพิมพ์พัฒน์ พวงประเสริฐ ภรรยา ของ ด.ต.ศุภมิตรฯ ได้เล่าว่า “การรักษาตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ในส่วนของกล้ามเนื้อด้านขวายังอ่อนแรงอยู่ ยังมีเลือดซึมออกที่สมองอยู่ เส้นเลือดไม่ตีบ แต่จำคนอื่นได้แล้ว ในเรื่องการทำงานสามีของตนไม่เคยมาบ่นว่ามีเรื่องกดดันอะไร จะมีคนที่มาไลฟ์สดเพจ อย่าหาทำ ซึ่งเคยมาไลฟ์สดก่อนหน้านี้แล้ว แต่สามีตนบอกว่าไม่เป็นไร อดทนได้ โดยสามีของตนมีโรคประจำตัวคือ ความดันสูงนี่แหล่ะค่ะ เพราะเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วเคยวูบไปครั้งหนึ่ง แล้วความดันขึ้นสูง แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอาการให้เห็นอีกจึงไม่ได้เช็คให้ละเอียด สำหรับอุปนิสัยของสามีตนคือ จริงจังกับการทำงาน ไม่ชอบให้ใครมายุ่งตอนทำงาน จนสามีตนมาเจอคนที่มาไลฟ์สด 3 คน มารุมพูดใส่เขา ตนคิดว่าสามีของตนอดทนมากที่ไม่ตอบโต้ และกดดันจนสามีเครียดและเส้นเลือดในสมองแตกต้องมารักษาตัวดังกล่าว”

ต่อมาเวลา 11.00 น. รถพยาบาลของโรงพยาบาลตำรวจได้มารับตัว ด.ต.ศุภมิตร เพื่อไปรักษาต่อ โดยมี ผู้บัญชาการคือ พ.ต.ท.ภูษิต ก้อนทอง หัวหน้าชุดงานจราจร และ พ.ต.อ.สุเมธ โภชนา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี มาคอยดูแลด้วยความห่วงใย และได้ให้สัมภาษณ์ว่า “อาการของ ด.ต.ศุภมิตร ยังคงที่อยู่ อยู่ในความดูแลของคุณหมอ แต่โชคดีตอนที่เกิดเหตุได้รับยารักษาเร็วอาการเลยไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ในส่วนของการเยียวยา ทางโรงพักมีงบสะสมให้ตรงนี้อยู่แล้ว และทางผู้บังคับการและผู้บังคับบัญชาการทุกระดับได้มีการดูแลค่าใช้จ่ายอย่างเต็มที่ สำหรับหน้าที่ของคนที่ตรวจจับความเร็วของรถ เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่แทนกันได้ และเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆ ที่มาทำงานตรงนี้ ซึ่งนอกจากจะจับความเร็วของรถแล้ว ยังได้ในส่วนของคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการจับคนร้ายจากคดีต่างๆ สามารถสกัดจับได้ที่ด่านมาหลายคดี จับตรวจทะเบียนรถที่ถูกขโมยมาหรือเปล่าเป็นต้น ในส่วนของเครื่องแบบตำรวจซึ่งเป็นชุดเครื่องแบบใหม่ รองเท้าก็จะเป็นรองเท้าที่ใส่แล้วต้องคล่องตัวตามหน้าที่ของการปฏิบัติงานของแต่ละคน ในส่วนของคดีความตั้งแต่ผู้บังคับการฯ ลงมาให้ความเป็นห่วงและประสานกันตลอดและคงต้องถอดคลิปเพื่อดูว่าในส่วนไหนที่จะดำเนินดดีกับผู้ไลฟ์สดได้บ้าง แต่ในเบื้องต้นผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นอันดับ 1 ก่อน ส่วนในเรื่องของคดีก็จะทำให้รัดกุมที่สุด”

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้มาที่จุดสกัดพรหมบุรี หมู่ที่ 5 ต.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พบผู้ที่ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “ได้เดินทางกำลังจะไปเชียงใหม่ได้ขับรถผ่านมาครั้งแรก โดนจับความเร็วและโดนปรับ 500 บาท น่าจะโดนกันหลายคน” 

ส่วน อาศัยอยู่ละแวกด่านซึ่งเป็นแม่ค้าขายของ บอกว่า “ไม่เห็นด้วยในการตั้งด่านเพราะผู้ที่มาทำบุญบ่นให้ฟังว่ามาทำบุญกันยังไม่ถึงวัดเลย โดนปรับ 500 บาท บ้าง 1000 บาทบ้าง ขอให้เบาๆ หน่อยอย่าไปปรับเขามาก เขาเสีย 500 แล้วเขาก็เสียความรู้สึก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้ยกเลิก”

ด้าน เจ้าของร้านขายของชำบริเวณด่านซึ่งเปิดให้บริการแล้วกว่า 20 ปี ก่อน จะมีด่านแห่งนี้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าพอจะทราบไหมว่ารายได้จากค่าปรับเยอะหรือไม่  นายศิริวัฒน์ตอบว่า “เท่าที่ผมทราบมา  เมื่อก่อนตั้งอยู่แยกสิงห์บุรีก็ดีอยู่แล้วย้ายมาอำเภอพรหมบุรีทำไม สิงห์บุรีมันได้แค่ 30% มาอยู่พรหมได้ 50% อยากฝากถึงตำรวจที่ตั้งด่านว่า เลิกได้ก็เลิกเหอะ ถ้าจะตั้งให้ไปตั้งอื่น ตั้งกล้องไปเลย จะมาให้เจ้าหน้าที่แอบซุ่มยิงความเร็วทำไม หรือว่าถ้าไม่ซ่อนตัวก็ไม่มีรายได้ เพราะถ้ายืนให้เห็นเด่นชัด คนใช้รถก็ขับเบากันเองแหละ เมื่อก่อนรถไม่เคยติด ตอนนี้มาติดทุกเช้า รถบรรทุกขยาดกันหมดแล้ว ประมาณ 06.00 – 07.00 น. ติดทีนึง 3-4 กิโล แล้วจะมาไล่รถที่จอดหน้าร้านผม แต่ก่อนจับแต่ความเร็ว เดี๋ยวนี้เดินรอบรถเลย ผมสังเกตอยู่ ผมคนที่นี่ พอรายได้น้อยก็เล่นรถใหญ่ (รถบรรทุก) ตอนนี้ผมทำอะไรมากไม่ได้ลงทุนไปก็เจ๊ง ช่วงนี้ยังดีที่ช่วงบ่ายเลิกตั้งด่าน เราก็อาศัยขายช่วงบ่ายและก็ช่วงเย็น”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ดาบตำรวจ'ทรุดกลางไลฟ์ป่วน! ขณะปฏิบัติหน้าที่ ผู้บังคับบัญชาเชื่อถูกกดดันจนเครียด

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top