สภาผู้บริโภคไล่บี้

หารือสภาทนายฯ

เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง

เหตุ‘พระราม2’ถล่ม

เปิดการจราจรแล้ว ขาเข้าทางด่วนดาวคะนอง หลังกทพ.เคลียร์พื้นที่เสร็จ ยกคานสะพานย่าน ถ.พระราม 2 ที่พังถล่มออกหมด ไม่ให้ประชาชนเกิดความกังวลใจ ด้าน ปธ.สภาผู้บริโภค หารือนายกสภาทนายความ เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ยันต้องมีผู้รับผิดชอบ ด้านนายกสภาฯ รับลูกตั้งคณะทำงานพิจารณาใน1เดือน

ความคืบหน้าเหตุสะพานยกระดับย่านถนนพระราม 2 ถล่มเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมาจนมีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตหลายราย ล่าสุด เมื่อเวลา 06.00น.วันที่ 20มีนาคม2568 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดให้ประชาชนใช้เส้นทางจราจรถนนพระราม2 มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนดาวคะนอง ได้ตามปกติโดยเจ้าหน้าที่ได้นำคานที่ถล่มออกไปทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดความกังวลใจว่ามีคานหรือวัสดุที่ถล่มผ่านถนน และบริเวณพื้นถนนจุดเกิดเหตุได้ทำการลาดยางพื้นถนนเสริมขึ้นมาใหม่ เพื่อให้พื้นผิวการจราจรสม่ำเสมอ พร้อมกับตีเส้นจราจรช่วงก่อนถึงหน้าทางด่วนดาวคะนอง 3 ช่องทาง เพื่อให้ประชาชนใช้เส้นทางก่อนชั่วคราว

ด้าน นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่สร้างความไม่สะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนที่ผ่านมาก็พยายามมาโดยตลอดซึ่งหลังจากนี้ก็จะทำให้ดีที่สุด และจะเดินหน้าต่อไป ส่วนใต้คานที่เป็นลักษณะเดียวกันกับการที่ถล่มลงมา ซึ่งเป็นคานที่มีความมั่นคงสิ่งก่อสร้างที่สร้างเสร็จแล้วไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุแต่คิดว่า ความเสี่ยงจริงๆคือในเรื่องของการก่อสร้างซึ่งตั้งแต่วันที่เกิดเหตุที่ผ่านมาได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ลงมาพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่มีลักษณะอย่างไร แต่จากการตรวจสอบ ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ไม่พบว่าถนนนั้นเกิดการยุบตัว ตามที่หลายคนมีการวิเคราะห์ออกมาซึ่ง กทพ.จะมีการชี้แจงทางเทคนิคเพื่อแสดงถึงข้อเท็จจริงให้กับประชาชน โดยตั้งกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบไว้ทั้งหมด 20 วัน และในวันนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับเหมา เพื่อเอาผิดทางกฎหมาย กฎหมาย เพราะทางการพิเศษก็ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน

เมื่อวานนี้ได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ก็รู้สึกผิดหลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ถึงแม้จะลาออกก็ไม่ทำให้คนตายนั้นฟื้นกลับมา” ยอมรับว่าตอนนั้นจิตใจหมกมุ่นอยู่กับการเยียวยาผู้เสียชีวิต และย้ำว่าพร้อมเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกมิติ ส่วนมาตรการที่มีอยู่ก็ครอบคลุมด้านความปลอดภัย แต่หลังจากนี้ต้องไปตรวจสอบว่าผู้รับเหมาก่อสร้างได้ปฏิบัติตามกฎหรือไม่

ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมป์ ถ.พหลโยธิน นางบุญยืน ศิริวรรณ ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค หรือสภาผู้บริโภค พร้อมคณะ เข้าพบ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เพื่อหารือแนวทางการฟ้องคดีเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุสะพานยกระดับย่านถนนพระราม 2 ถล่มว่า เหตุสะพานถล่มครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดซ้ำซากจนเราเห็นกันว่าเป็นเรื่องที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับการจ่ายเงินเยียวยาแล้วก็จบ แต่ความเป็นจริงเป็นสิ่งที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ ถ้าเราไม่ดำเนินการใด ๆ ให้เป็นคดีความ ตนก็ไม่มั่นใจว่าในอนาคตจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง จะต้องมีคนตายและบาดเจ็บอีกเท่าไหร่ ตนเชื่อว่าผู้รับเหมาไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องมีคนรับผิดชอบ คนที่รับผิดชอบควรจะเป็นใคร ทั้งนี้ความเสียหายกระทบต่อหลายด้านเช่น การเดินทาง ระบบขนส่งและกระทบกับเศรษฐกิจ อาทิ ย่านตลาดมหาชัย และตลาดแม่กลอง รวมไปถึงการท่องเที่ยว ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงประเมินค่าไม่ได้ และไม่เคยมีผู้ใดรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้นแม้แต่คนเดียว เราจึงต้องพูดคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวว่าจะมีแนวทางการแก้ไขอย่างไร

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า ตนอยากจะเสนอแนวทางการเยียวยาความเสียหายกับผู้บริโภคครั้งนี้ โดยเราจะยึดว่าเป็นการเยียวยาเพื่อความปลอดภัยทางสาธารณะ ซึ่งจากที่ทราบกันว่าถนนเส้นนี้เกิดอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตรวมกันมากกว่าร้อยราย และผู้บาดเจ็บกว่า 1,400 คน นี่เป็นข้อมูลที่เราดำเนินการสำรวจไว้ตั้งแต่ต้นปี 2566 ซึ่งประเด็นที่เราจะฟ้องเป็นสิทธิที่เกี่ยวกับผู้บริโภคที่เราจะมีสิทธิได้รับการเยียวยาในเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับการใช้สินค้าและบริการ รวมถึงได้รับการพิจารณาชดเชยความเสียหายเช่นเดียวกัน เราตั้งประเด็นในการฟ้องคดีเพื่อหารือกับสภาทนายความ และยึดหลักจากเหตุการณ์ 2-3 เหตุการณ์ เนื่องจากประเทศไทยเคยมีมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการเยียวยาความสูญเสียทางด้านจิตใจให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต 3 ล้านบาทต่อราย และเยียวยาค่าเสียโอกาสของผู้เสียชีวิต 4.5 ล้านบาท รวมถึงค่าปลงศพและค่ารักษาพยาบาล

“เราตั้งข้อสังเกตกับสภาทนายความว่า ผู้บริโภคจะสามารถฟ้องใครได้บ้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น รมว.คมนาคม ปลัดฯคมนาคม อธิบดีกรมทางหลวง ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)บริษัทที่ปรึกษาโครงการ บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างทั้งหมด ตัวแทนภาครัฐที่เป็นผู้ควบคุมงาน รวมถึงเรื่องที่ญาติของผู้เสียชีวิตจะได้รับการชดเชยเยียวยาจนไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดี ทำให้อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการฟ้องร้องหรือไม่ จะต้องเป็นรายละเอียดที่ต้องมาพูดคุยกันกับทางสภาทนายความอีกครั้งว่าบุคคลที่กล่าวมาข้างต้นจาก 7 องค์กรจะถูกฟ้องร้องแบบไหนอย่างไร” น.ส.สารี กล่าว

ด้าน ดร.วิเชียร กล่าวถึงแนวทางการดำเนินคดีกับหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งสภาทนายความเห็นถึงความจำเป็นเนื่องจากปัจจุบันการใช้เส้นทางดังกล่าว ประชาชนไม่เกิดความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย สำหรับการดำเนินคดีสภาทนายความจะลงไปดูรายละเอียดทั้งหมด ตนคิดว่าจะต้องหารือกับสภาวิศวกร เพื่อจะได้ลงถึงรายละเอียดของสาเหตุที่แท้จริงว่าสะพานถล่มเกิดจากอะไร เราต้องแยกแยะองค์ประกอบแต่ละประเภทที่เกิดขึ้นว่าเป็นความรับผิดชอบของใครบ้าง

อย่างไรก็ตามในภาพรวม ตนคิดว่าเมื่อเราได้ลงรายละเอียดข้อเท็จจริงทุกอย่างจะบ่งบอกว่ามีใครบ้างที่ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเราจะพิจารณาว่าสมควรที่จะดำเนินคดีกับใครแบบไหน อาจจะเป็นคดีผู้บริโภค คดีปกครอง ทั้งนี้ในมุมมองของตนมองว่าจะทำอย่างไรเพื่อเป็นเชิงป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ในการก่อสร้างสะพานยกระดับถนนพระราม 2 ตลอดเส้นทาง ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำกับที่ผ่านมา

ขณะที่ นายก้องศักดิ์ ธหะศักดิ์มนตรี อนุกรรมการฯ สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า ตนมองว่าสิ่งที่สภาทนายความเน้นไปที่เรื่องการป้องกัน ถอดบทเรียนสิ่งเหล่านี้ควรวางไว้ก่อน เพราะเวลาเดินทางทุกวัน อาจจะมีผู้ประสบเหตุเสียชีวิตหรือบาทเจ็บจากเหตุการณ์แบบนี้อีกก็ได้ ตนไม่เชื่อในประเด็นเหล่านี้ ตนขอถามว่าสามารถดำเนินคดีอาญากับผู้ที่รับผิดชอบได้หรือไม่ ตนคาดว่าสภาทนายความสามารถเรียกเอกสาร ทั้งหมดที่ดำเนินการในเชิงอาญา การว่าจ้าง ทุกหน่วยงาน เราจะเห็นถึงการทำงานและคุณภาพ ของบุคคลที่ เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่าเขานำบุคคลประเภทไหนมาทำงานจนทำให้เกิดความเสียหายมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากขนาดนี้ อยากรู้ว่าคนที่รับผิดชอบทำได้แค่กล่าวขอโทษเท่านั้นหรือ ตนจึงมองว่าจะต้องดำเนินคดีอาญาต่อคนพวกนี้ให้เด็ดขาด และผู้ควบคุมงานมีประสิทธิภาพแค่ไหน ทั้งคนของรัฐและคนของบริษัท อาจจะไม่ตรงกับที่มีชื่อในการดูแลรับผิดชอบงาน บางคนที่มาดูงานจริงอาจจะไม่มีวุฒิการศึกษา อย่างที่ควร ไม่มีชื่ออยู่ในใบงานนี้ อันนี้จึงเป็นที่มาของเหตุสลดทั้งหมด

เมื่อถามว่ากรณีแบบนี้สามารถฟ้องร้องแทนกลุ่มผู้บริโภคได้หรือไม่ ดร.วิเชียร กล่าวว่า สามารถฟ้องแทนผู้บริโภคได้ ซึ่งจะมี 2 รูปแบบคือ รูปแบบแรก ผู้เสียหายเป็นผู้ดำเนินการ และอีกส่วนหน่วยงานจะเป็นผู้ฟ้องเป็นคดีผู้บริโภค ซึ่งทางสภาทนายความไม่สามารถฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคได้เนื่องจากอยู่ในระหว่างการแก้ไขกฎหมายให้ทางสภาทนายความเป็นองค์กรที่สามารถฟ้องร้องแทนผู้บริโภคได้ ในส่วนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาฯหลังจากนี้ตนจะตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณาคิดว่าไม่เกิน 1 เดือนจะสามารถออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องได้