แจ้งข้อหาอ่วม!! ดาบตำรวจ ตรวจค้นเข้าเมือง เตะหน้ารองสารวัตรอาการสาหัสก่อนแย่งปืนหลบหนี แพทย์เผยพบเลือดคลั่งในสมองยังเฝ้ารอดูอาการ

วันที่ 25 มี.ค.2568 จากกรณีเมื่อเวลา 03.20 น. ของวันที่ 25 มี.ค.68 พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกก.สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้ง ร.ต.ต.พาสกร ภาชูระเบียบนา รอง สวป.สภ.สัตหีบ ปฏิบัติหน้าที่ ตู้ยามบ้านเตาถ่าน ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายอาการสาหัส ก่อนแย่งชิงอาวุธปืนประจำตัว ขนาด 9 มม.ไป บริเวณหน้าบ้าน ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังเข้าระงับเหตุ หญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือถูกอดีตแฟนหนุ่ม บุกรุกเข้ามาในบ้านทุบกระจกบ้านแตกหวังเข้าไปจะทำร้ายร่างกาย ก่อนถูกทำร้ายร่างกายและแย่งชิงอาวุธปีนไป ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ ดาบตำรวจ กิตติศักดิ์ อายุ 37 ปี สังกัดตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป ก่อนเข้ามอบตัวในเวลาต่อมา (คลิ๊กอ่านข่าวก่อนหน้านี้ : ดาบตำรวจรุดมอบตัว! หลังบุกพังของบ้านแฟนเก่า รองสวป.เข้าห้ามเจอเตะเสยหน้าเจ็บหนัก)

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.15 น. ของวันที่ 25 มี.ค.68  พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้นำตัว ดาบตำรวจ กิตติศักดิ์ เดชชู อายุ 37 ปี สังกัดตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่เข้ามามอบตัว มาสอบสวน พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา  ชิงทรัพย์, เข้าไปกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนการครอบครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข โดยใช้กำลังประทุษร้าย ในเวลากลางคืน, ทำให้เสียทรัพย์, ทำร้ายร่างกายเจ้า พนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ร่วมทั้งหมด 4 ข้อหา และอยู่ในระหว่างการสอบสวน หากพบความผิดเพิ่มเติมก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มทันที  ก่อนนำตัวเข้าห้องควบคุม เพื่อรอส่งฝากขังศาลจังหวัดพัทยาต่อไป

ส่วนอาการ ร.ต.ต.พาสกร อายุ 53 ปี รอง สวป.สภ.สัตหีบ ที่ยังรักษาตัวที่ ห้องฉุกเฉิน รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ แพทย์ตรวจพบเลือคลั่งในสมอง เนื่องจากถูกเตะบริเวณใบหน้าและศีรษะอย่างแรง และยังพบฟันหน้าหักอีกหลายซีก ซึ่งแพทย์ยังต้องตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง และยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดอยู่

ด้าน พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกก.สภ.สัตหีบ กล่าวว่า  พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้สั่งการมาให้ดูแล ร.ต.ต.พาสกร กำลังพลของเราอย่างใกล้ชิด ต้องการเรื่องอะไรให้แจ้งมาทันที เพราะถือว่าได้รับบาดเจ็บในขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วน ดาบตำรวจ กิตติศักดิ์ (ผู้ต้องหา) ให้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพราะเป็นตำรวจแล้วยังมาทำร้ายนายตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่จนอาการสาหัส และยังแช่งชิงอาวุธปืนประจำตัวไปอีก โดยมีการแจ้งไปยังต้นสังกัดของนายดาบรายนี้แล้ว เพื่อให้ลงโทษวินัยอย่างถึงที่สุดต่อไป ///-026