วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เจออีก 5 ศพใต้ซากตึกสตง.  เร่งออกลุยค้นหา  ยังสูญหายอีก 74 ราย

เจออีก 5 ศพใต้ซากตึกสตง. เร่งออกลุยค้นหา ยังสูญหายอีก 74 ราย

วันพุธ ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568, 06.20 น.
Tag : ตึกถล่ม ตึกสตง. แผ่นดินไหว
  •  

เจออีก 5 ศพใต้ซากตึกสตง.

เร่งออกลุยค้นหา

ยังสูญหายอีก 74 ราย

ระดมเครื่องจักรหนัก

เคลียร์ซากปรักหักพัง

หวังพบเหยื่อรอดชีวิต

 

กทม.ประกาศยกเลิกกองอำนวยการฯ แผ่นดินไหว ชี้สถานการณ์คลี่คลาย สำนักเขตดูแลได้ ด้านกรมอุตุฯสรุปเกิดอาฟเตอร์ช็อกรวม 236 ครั้ง ขนาดแผ่นดินไหว 3.0-3.9 จำนวน 108 ครั้ง ขนาดแผ่นดินไหว 5.0-5.9 เกิดขึ้น 7 ครั้ง ส่วนทีมกู้ภัยเร่งค้นหา ผู้ติดใต้ซากตึกต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ปรับแผนเข้มข้น หวังพบผู้รอดชีวิตเพิ่ม โดยยกระดับใช้เครื่องจักรหนักเข้าเคลียร์ซากปรักหักพัง จากปฎิบัติการเจออีก 5 ศพ หลังชุดกู้ภัยอิสราเอลพบสัญญาณกลิ่นไม่พึงประสงค์


ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 8.2 ศูนย์กลางอยู่ที่เมียนมา ทำให้เกิดความเสียหายวงกว้างหลายจังหวัด โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ที่เกิดตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่กำลังก่อสร้างถล่มลงทั้งหลัง มีผู้สูญหายกว่า 80 คน เสียชีวิตจำนวนมา ขณะที่การค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึกสตง.ที่ถล่มยังดำเนินการต่อเนื่อง

กทม.ยกเลิกกองอำนวยการฯดินไหว

เมื่อวันที่ 1เมษายน กรุงเทพมหานคร ประชาสัมพันธ์การยกเลิกกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร หลังจากช่วงกลางดึกวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร (กทม.) เผยแพร่หนังสือยกเลิกประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เรื่อง เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ลงนามโดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กทม.มีเนื้อหาโดยสรุปว่า ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ประเมินสถานการณ์แล้ว เห็นว่าสถานการณ์ในภาพรวมได้คลี่คลาย อีกทั้งผลกระทบต่อประชาชน ความเสียหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน เส้นทางคมนาคม และการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่กลับสู่ภาวะปกติ โดยศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตสามารถดำเนินการจัดการสาธารณภัยในพื้นที่ได้

‘ศูนย์เอราวัณ’สรุปเสียชีวิต19ราย

ด้านศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร รายงานตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบด้านชีวิตและร่างกายจากเหตุแผ่นดินไหวตามจุดต่างๆในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ข้อมูลเมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 31 มีนาคม ได้แก่อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีผู้บาดเจ็บ 18 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 11 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย รวมเสียชีวิต 12 รายเครนก่อสร้างถล่มที่แยกบางโพ มีผู้เสียชีวิต 1 รายในที่เกิดเหตุ บาดเจ็บ 4 ราย ยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 1 ราย กลับบ้านแล้ว 3 รายอาคารลีลมคอมเพล็กซ์ ลิฟต์ขาด มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย กลับบ้านแล้วทั้ง 3 รายเครนล้ม ย่านดินแดง มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย กลับบ้านแล้วทั้ง 4 รายอาคารทิปโก้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย กลับบ้านแล้วทั้ง 2 รายไซต์งานตึกไซมิส รามอินทรา 64 มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย

คอนโดฯ เดอะเบสการ์เด้น พระราม 9 มีเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 รายคอนโดฯ เดอะเบส พระราม 9 มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาลคอนโดฯ เมโทรโพลิส สุขุมวิท 39 มีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 รายคอนโดฯ วิทยุคอมเพล็กซ์ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย คอนโดฯ ไลฟ์วัน ถ.วิทยุเหนือ มีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 รายไซต์งานก่อสร้าง พระราม 9 มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 รายทางด่วนบูรพาวิถีหล่นใส่ เลยจุดพักรถบางนา-ตราด ผู้บาดเจ็บ 1 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาลสรุป มีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 33 ราย กลับบ้านแล้ว 21 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 12 ราย

เจอเพิ่ม5ศพ-กู้ภัยเร่งค้นหา24ชม.

ส่วนความคืบหน้าในการค้นหาผู้เสียชีวิต และผู้ที่ติดอยู่ในซากตึกถล่ม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังเดินเท้าค้นหาผู้สูญหายที่เหลืออีก 74 ราย เป็นการทำงานต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนายอภิวัฒน์ จันทานี ทีมค้นหาจากมูลนิธิเพชรเกษมเผยว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา ทีมกู้ภัยปฏิบัติการค้นหาต่อเนื่อง จัดกำลังทีมกู้ภัยและทีม USAR (Urban Search and Rescue) เดินเท้าค้นหาเพิ่มเติมในพื้นที่ประสบเหตุ ซึ่งความคืบหน้าสำคัญช่วงเย็นของวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมาคือ ทหารอิสราเอลที่เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหา ได้ตรวจพบสัญญาณกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในพื้นที่โซนหนึ่ง และตรวจสอบกระทั่งพบลักษณะเป็นกางเกงช่วงท่อนล่างของร่างผู้เสียชีวิตจึงประสานให้ทีมกู้ภัยเข้าดำเนินการเปิดทาง และยืนยันการพบร่างผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าว เบื้องต้นมีการยืนยันการพบร่างผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน Cลักษณะพื้นที่ที่พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นปูนของซากอาคารที่ถล่มทับร่างผู้เสียชีวิตอยู่ เป็นชั้น ๆ ซึ่งการนำร่างออกมาค่อนข้างยาก ทำให้ยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ในทันที เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความอันตรายต่อทีมกู้ภัย

ระดมเครื่องจักรหนักยกซากเศษปูนออก

นายอภิวัฒน์เผยต่อว่า วันนี้ทีมกู้ภัยปรับแผนการค้นหาให้เข้มข้นขึ้น วางแผนนำเครื่องจักรหนักเข้ามาเปิดพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเคลียร์ซากปรักหักพังออก และเข้าถึงจุดที่คาดว่า อาจจะยังมีผู้สูญหายติดอยู่ เนื่องจากคาดว่าอาจอยู่ในโซน B และโซน C อีกหลายคน ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าตามหลักการแล้ว หากการค้นหายาวนานเกินกว่า 72 ชั่วโมง โอกาสรอดชีวิตจะลดน้อยลงอย่างมาก แต่ทีมกู้ภัยยังมีความหวังอยากให้พบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม

สรุปเกิดอาฟเตอร์ช๊อค236ครั้ง

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน สรุปอาฟเตอร์ช็อก แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ซึ่งมีการปรับปรุงข้อมูลเวลา 07.00 น. วันที่ 1 เมษายน รวมเกิดอาฟเตอร์ช๊อคทั้งสิ้น 236เหตุการณ์ มีรายละเอียดดังนี้ สรุปอาฟเตอร์ช็อกแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ขนาดแผ่นดินไหว 1.0-2.9 จำนวน 65ครั้ง ขนาดแผ่นดินไหว 3.0-3.9 จำนวน 108 ครั้ง ขนาดแผ่นดินไหว 4.0-4.9 จำนวน 55ครั้ง ขนาดแผ่นดินไหว 5.0-5.9 จำนวน 7 ครั้งขนาดแผ่นดินไหว 6.0-6.9 จำนวน 0 ครั้ง ขนาดแผ่นดินไหว 7 ขึ้นไป 1ครั้ง

กสทช.ปรับรูปแบบรวมการเฉพาะกิจฯ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า การประชุมแก้ปัญหาการแจ้งเตือนภัยพิบัติ ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ประชุมให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไปกำหนดแนวทางการประกาศสำคัญผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) และวิทยุกระจายเสียง ภายใต้อำนาจของ กสทช. หลังวันเกิดเหตุแผ่นดินไหวยังไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ทำให้บางสถานีโทรทัศน์ และ วิทยุไม่ทราบแนวทางปฏิบัติกรณีเกิดเหตุสำคัญของประเทศทำให้บางสถานีฯไม่ได้ตัดสัญญาณเข้าการประกาศ สำคัญของประเทศ

ทั้งนี้ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาราชการแทนเลขาธิการ (กสทช.) รายงานสรุปผลการประชุมทำความเข้าใจและกำหนดแนวทางปฏิบัติการถ่ายทอดสด กรณีเกิดเหตุภัยพิบัติ ฉุกเฉิน หรืออื่นๆ ที่สำคัญของชาติ ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ทุกสถานี และสถานีโทรทัศน์ ช่อง NBT กรมประชาสัมพันธ์ โดยนายไตรรัตน์กล่าวว่าที่ประชุมสรุปข้อมูลเป็นแนวทางยึดถือปฏิบัติ ดังนี้

1. กรณีเกิดเหตุภัยพิบัติรุนแรง ฉุกเฉินเร่งด่วนทันที หรือเหตุอื่นของชาติ การแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีดำเนินการ หรือโดยผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ให้ทุกสถานีโทรทัศน์ต้องเชื่อมโยงสัญญาณถ่ายทอดสดพร้อมกันจากสถานีแม่ข่ายทันที เมื่อขึ้นเพจหน้าจอว่า “โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท)”2. กรณีเหตุภัยพิบัติหรืออื่นใด เมื่อระดับความรุนแรงลดลง แถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่สำคัญต่อเนื่องโดย “นายกรัฐมนตรี” ให้สถานีฯ เชื่อมโยงสัญญาณสดพร้อมกันเมื่อขึ้นเพจว่า “นายกรัฐมนตรีแถลงการณ์” ทั้งนี้แม่ข่ายต้องแจ้งเวลาล่วงหน้าให้สถานีต่างๆ ทราบก่อนไม่น้อยกว่า 10-15 นาที เว้นแต่มีเหตุความจำเป็นให้แจ้งได้โดยทันที

3. กรณีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร การแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ ความคืบหน้าการดำเนินงาน หรือเรื่องสำคัญอื่น โดย “รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือหน่วยงานรัฐ ตลอดจนบุคคลอื่น ๆ ให้ถ่ายทอดสด โดยสถานีโทรทัศน์ช่อง NBT กรมประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์อื่นๆ สามารถเชื่อมสัญญาณหรือนำเนื้อหาไปเผยแพร่ต่อในรูปแบบของข่าว หรือสื่ออื่นต่อเนื่องตามความเหมาะสม เมื่อมีการขึ้นเพจที่หน้าจอว่า “สำนักนายกรัฐมนตรี”

“การแถลงการณ์ตามข้อ 3 จะกำหนดประเด็นสำคัญในการแถลงการณ์ขึ้นก่อนในภาพรวม และกระชับประเด็นเพื่อให้ประชาชนรับรู้ได้อย่างรวดเร็วและมีระยะเวลาไม่เกิน 10 นาที” นายจิรายุ กล่าว

และว่า นายกฯรับทราบแนวทางของ กสทช. แล้ว โดยขอให้ยึดถือปฏิบัติทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติหรือเรื่องอื่นใดที่มีความสำคัญของชาติ ที่ต้องแจ้งเตือนหรือให้ข้อมูลกับประชาชน

โยธาฯการันตีศูนย์ราชการฯแข็งแรงปลอดภัย

ส่วนนายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองให้สัมภาษณ์ยืนยันอาคารในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯผ่านการตรวจโดยวิศวกร และพบว่าโครงสร้างอาคารแข็งแรงสามารถเปิดใช้อาคารได้ตามปกติ แต่ด้วยเหตุที่วันนี้กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อก (aftershock) มากถึง 15 ครั้ง ในบางคนอาจรับรู้ได้ ซึ่งเป็นปกติหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งไม่เกี่ยวกับโครงสร้างอาคารที่แข็งแรงอยู่ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น กรมฯจะส่งวิศวกรเข้ามาตรวจซ้ำอีกครั้ง เพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้น ซึ่งเท่าที่เดินดูวันนี้ที่อาคาร A ยังไม่พบความผิดปกติ ส่วนอาคารในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งอาคาร A และ อาคาร B ออกแบบให้เป็นอาคารผนังเอียงอยู่แล้ว ไม่ใช่เอียงเพราะแผ่นดินไหวอย่างที่เป็นข่าว

ผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกรกล่าวว่า สภาฯเข้าร่วมตรวจสอบอาคารในศูนย์ราชการฯร่วมกับที่ปรึกษาของบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ผลตรวจสอบโครงสร้างอาคารแข็งแรงเข้าใช้อาคารได้ตามปกติ ส่วนรอยแยกของอาคารที่เห็น คือส่วนเชื่อมรอยต่อระหว่างอาคารแต่ละหลัง ซึ่งใช้ Expansion Joint เป็นวัสดุที่ยืดหยุ่นเป็นหลักของการออกแบบอยู่แล้วเพื่อให้อาคารมีความยืดหยุ่น ส่วนรอยร้าวที่เห็นก็เป็นจุดเดิมๆ ที่เกิดขึ้นมาหลายปี เป็นรอยแตกที่ซ่อมแซมได้ ตนก็นั่งทำงานอยู่ที่อาคาร A มาเป็น 10 ปี และวันนี้ก็จะกลับไปนั่งทำงานที่อาคารนี้ต่อ

ดร. นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด กล่าวยืนยันว่า ผลตรวจสอบของทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ไม่พบความเสียหายต่อโครงสร้างอาคาร ผู้ใช้อาคารสามารถใช้อาคารได้ตามปกติ ระบบลิฟต์ บันไดเลื่อน ใช้ได้ปกติและมีความปลอดภัย

’วุฒิสภา‘เข้มซ้อมอพยพหนีดินไหว

เวลา09.30น.ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคน1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยภายหลังจากที่เปิดให้สมาชิกหารือความเดือดร้อนของประชาชน ก่อนเข้าระเบียบวาระทั่วไป พล.อ.เกรียงไกร ได้แจ้งสมาชิกทำการซักซ้อมเสมือนจริงการอพยพกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหว หลังจากที่พล.อ.เกรียงไกร ประกาศแจ้งสมาชิกจบ หน้าจอโทรทัศน์ได้ขึ้นสัญญาณเป็นจอสีไม่มีสัญญาณ จากนั้นมีเสียงประกาศว่า“ขณะนี้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขอให้สมาชิกและข้าราชการทุกคนออกไปรวมตัวกันที่บริเวณจุดรวมพล”ก่อนที่ สว.และข้าราชการจะวิ่งออกจากตึกไปรวมตัวกันที่จุดรวมพลบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยสมาชิกแต่ละคนได้สวมหมวกนิรภัย เสื้อสะท้อนแสง นกหวีด และมีบางคนที่ถือไฟฉายลงมาด้วย และได้มีการสอบถามว่าเพื่อนสมาชิกแต่ละคนมีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมเรือไว้สำหรับพาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาลใกล้เคียงไว้ด้วย

หลังการซักซ้อมเสร็จสิ้น พล.อ.เกรียงไกร ได้เดินไปกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารรัฐสภา และให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เราซักซ้อมโดยมีอุปกรณ์พร้อม ซึ่งได้มีการเตรียมไว้สำหรับสมาชิกทุกคน เนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มีนาคม สมาชิกได้มีการหารือไว้ เพราะอาจมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นได้ในภายหลัง เราต้องไม่ประมาท โดยภายหลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนแล้วก็รีบอพยพมาที่จุดรวมพล ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที แต่หากเป็นในสถานการณ์จริง และเราได้ซักซ้อมแล้วตนคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามนี้อย่างอัตโนมัติและรวดเร็วกว่านี้ ทั้งนี้ ทุกอย่างมีแบบแผนในการอพยพ เมื่อถามว่า จะมีการอพยพลงมาต้องมีการหลบใต้โต๊ะก่อนหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ตนคิดว่าจะชุลมุน แม้จะหลบใต้โต๊ะอย่างไรก็ต้องออกมาจากอาคารสูงให้เร็วที่สุด ส่วนไฟบริเวณบันไดหนีไฟที่ดับเป็นบางช่วงนั้น ทุกภาคส่วนต้องมีการตรวจสอบ แต่จากการที่วุฒิสภาได้มีการตรวจสอบแล้ว เราจึงได้มีการแจกไฟฉาย เพราะต้องคาดการณ์ว่าระบบสาธารณูปโภคต่างๆ จะไม่สามารถใช้การได้ รวมถึงไฟฟ้าอาจดับ และนกหวีดก็สามารถใช้เรียกหากันได้

เมื่อถามว่า ประตูทางออกฉุกเฉินบางจุดชำรุด พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า หากตรวจพบก็จะต้องมีการแก้ไขให้สมบูรณ์ และเมื่อซักซ้อมแล้วเห็นจุดบกพร่องตรงไหน ก็จะต้องมีการไปปรับแก้ ให้กลับไปสู่สภาพที่สามารถดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อเกิดเหตุ

เพื่อความพร้อมถ้าเกิดอาฟเตอร์ช็อก

เมื่อถามถึง กรณีที่จะมีการตั้งคณะกรรมการระหว่าง 2สภา เพื่อตรวจสอบอาคารรัฐสภาอย่างละเอียดในวันที่ 3เมษายน พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า เป็นโครงสร้างที่ต้องทำอยู่แล้ว ซึ่งอาคารรัฐสภาอยู่ในความรับผิดชอบของฝั่งสภาผู้แทนราษฎร โดยทางวุฒิสมาชิกต้องจัดคนเข้าไปร่วมด้วยเพื่อตรวจสอบอย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องโครงสร้างหรือระบบสาธารณูปโภค

เมื่อถามว่า มีความกังวลในเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ทุกภาคส่วนมีความกังวล แต่การซักซ้อมในวันนี้เป็นการเตรียมการหากเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นมา ซึ่งทุกภาคส่วนก็คงจะมีการซักซ้อมและทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว

พล.อ.เกรียงไกร กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการซักซ้อมอย่างจริงจังในครั้งนี้นั้น ที่จริงจะมีการซักซ้อมอยู่ 2 รูปแบบ คือที่เราเรียกว่าเต็มรูปแบบกับการซักซ้อมในแผน ซึ่งเป็นการทำความเข้าใจในแผนการ และเมื่อมีการทำแผนขึ้นมา ก็ต้องนำคนที่เกี่ยวข้องได้ทำความเข้าใจกันถือเป็นการซักซ้อม วันนี้ถือเป็นการซักซ้อมเสมือนจริงเต็มรูปแบบ ยืนยันว่า อุปกรณ์ต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐาน เมื่อถามว่า การขนย้ายคนไปทางน้ำที่จะเคลื่อนย้ายคนทางน้ำได้จริงหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า สามารถขนย้ายได้ แม่จะมีคลื่น เพราะเรือมีจังหวะของคลื่นอยู่แล้ว ยืนยันปลอดภัย และทางตำรวจน้ำก็ได้มีการยืนยันแล้วว่าสามารถ ขนย้ายทางน้ำได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ เรื่องการขนย้ายคนทางน้ำจะเน้นคนผู้ป่วยเป็นอันดับแรก ไปยังโรงพยาบาลวชิระหรือโรงพยาบาลใกล้เคียง เพราะหากผู้ป่วยเดินทางทางรถยนต์ในขณะที่เกิดแผ่นดินไหว รถก็จะติดเพราะทุกคนก็ต่างกันต้องการจะออกจากพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถขนย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลได้ทันการใช้เรือจึงเป็นทางออกที่เร็วที่สุด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'DSI\'ขนลังสำนวนฮั้วประมูลสัญญาตึก สตง.ส่ง\'ป.ป.ช.\' ไต่สวนฟัน\'บิ๊ก สตง.-70 ขรก.-6 ผู้บริหาร\' 'DSI'ขนลังสำนวนฮั้วประมูลสัญญาตึก สตง.ส่ง'ป.ป.ช.' ไต่สวนฟัน'บิ๊ก สตง.-70 ขรก.-6 ผู้บริหาร'
  • ‘ทวี-นายกทนายความ’มอบเช็คทายาทผู้เสียชีวิตเหตุ‘ตึก สตง.’ถล่ม 40 ราย เหลืออีก 48 ราย ‘ทวี-นายกทนายความ’มอบเช็คทายาทผู้เสียชีวิตเหตุ‘ตึก สตง.’ถล่ม 40 ราย เหลืออีก 48 ราย
  • \'DSI\'ลุยคดีตึก สตง. จ่อสอบ\'นอมินีภาค 2\'-เผยชื่อ 4 บริษัท 'DSI'ลุยคดีตึก สตง. จ่อสอบ'นอมินีภาค 2'-เผยชื่อ 4 บริษัท
  • DSI ลุยสอบคดีฮั้วประมูลสร้างตึก สตง. พบ 3 บิ๊ก สตง. พัวพัน จ่อส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. พิจารณา DSI ลุยสอบคดีฮั้วประมูลสร้างตึก สตง. พบ 3 บิ๊ก สตง. พัวพัน จ่อส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. พิจารณา
  • \'ดีเอสไอ\'เผยรู้พิกัดแล้ว! \'บินลิง วู\'อยู่ไหน เร่งติดตามนำตัวมาดำเนินคดีตึก สตง. 'ดีเอสไอ'เผยรู้พิกัดแล้ว! 'บินลิง วู'อยู่ไหน เร่งติดตามนำตัวมาดำเนินคดีตึก สตง.
  • ‘มท.1’ เผยมิ.ย.นี้รู้เรื่องผลสอบ ‘ตึก สตง.ถล่ม’ ‘มท.1’ เผยมิ.ย.นี้รู้เรื่องผลสอบ ‘ตึก สตง.ถล่ม’
  •  

Breaking News

'บี-น้ำทิพย์'นำทีมนักแสดงช่อง'one31'ร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายเดือน Pride Month

'ชิน-ลิลลี่'อยากอุ้มลูกร่วมงานวิวาห์ ฝ่ายชายฟาดยับป้องภรรยา ดราม่าร้องไห้ถ่ายคอนเทนต์

‘สอน.’ขับเคลื่อนพลาสติกชีวภาพ จัดกิจกรรม OCSB GREEN SWITCH TO BIG IMPACT

'หมอฟรัง นรีกุล'เตือน! กินผิดชีวิตพัง ล้วงคอนับแคลจนเครียด กว่าจะเข้าใจคำว่ากินดี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved