ระเบียบใหม่กรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับการขังนอกเรือนจำ
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 " ราชกิจจานุเบกษา" เผยแพร่ ประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง กำหนดคุณสมบัติเฉพาะ ลักษณะต้องห้าม และวิธีการคุมขังผู้ต้องขังในสถานที่คุมขัง ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 พ.ศ. 2568 หรือที่เรียกว่า "การขังนอกเรือนจำ"
สำหรับสาระสำคัญของประกาศดังกล่าว หลักสำคัญที่ประชาชนรวมถึงผู้ต้องโทษสนใจอยู่ 3 ส่วนคือ วิธี คุณสมบัติ รวมถึง ขั้นตอน
ในตอนนี้ผู้เขียนจะขอสรุปประเด็นที่เกี่ยวกับ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ต้องขังดังนี้
คุณสมบัติ
(ก) ต้องเป็นผู้ต้องขังซึ่งได้รับการจำแนกลักษณะผู้ต้องขัง ตามคู่มือการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ว่าเป็นผู้ต้องขังในกลุ่มที่ 1 (มีแนวโน้มไม่กระทำผิดซ้ำ) หรือกลุ่มที่ 2 (แก้ไขได้) หรือเป็นผู้ต้องขังหญิงมีครรภ์ใกล้คลอด เพื่อให้เด็กได้คลอดนอกเรือนจำ ซึ่งเป็นการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงโดยคำนึงถึงสิทธิของมารดาและเด็ก และต้องระบุไว้ในแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล (Sentence Plan) ด้วยว่าจะใช้วิธีการคุมขังในสถานที่อื่นแทนเรือนจำ หากผลการประเมินเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้
(ข) เป็นนักโทษเด็ดขาด ต้องโทษจำคุกครั้งแรก ต้องโทษเพราะถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกไม่ว่าในกรณีความผิดเดียวหรือหลายคดี โดยมิได้ถูกศาลพิพากษาให้เพิ่มโทษฐานกระทำความผิดอีกตามมาตรา 92 หรือมาตรา 93 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือตามกฎหมายอื่น และไม่เป็นผู้กระทำความผิดซ้ำภายใน 5 ปี นับแต่วันที่พันโทษจำคุกคราวก่อน โดยความผิดทั้งสองคราวไม่ใช่ความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(ค) ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือนักโทษเด็ดขาดซึ่งเหลือโทษจำคุกต่อไปไม่เกิน 4 ปี หากมีการพระราชทานอภัยโทษหรือลดโทษให้ถือเอากำหนดโทษตามหมายแจ้งโทษเด็ดขาดหรือคำสั่งให้ลดโทษฉบับหลังสุด กรณีต้องโทษจำคุกหลายคดี ให้ใช้กำหนดโทษจำคุกรวมทุกคดี
(ง) ผ่านการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังจากคณะทำงานจำแนกลักษณะผู้ต้องขังประจำเรือนจำ เพื่อกำหนดแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล (Sentence Plan) หรือทบทวนแผนการปฏิบัติ โดยนักโทษเด็ดขาดสมัครใจในการออกไปคุมขังในสถานที่อื่นแทนเรือนจำ
(จ) มีผลการประเมินความเสี่ยงตามแบบประเมินความเสี่ยงในการกระทำผิดซ้ำของผู้ต้องขัง ก่อนได้รับการปล่อยตัว (Offender Pisk Assessment: OA) อยู่ใน
ระดับความเสี่ยงค่อนข้างน้อยหรือความเสี่ยงน้อย
ลักษณะต้องห้าม
(ก) ถูกขังระหว่างพิจารณา อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี หรือเจ้าพนักงานตำรวจมีหนังสือขออายัดตัวไว้ดำเนินคดี
(ข) มีประวัติกระทำผิดวินัยในเรือนจำ หรืออยู่ระหว่างรับโทษหรือดำเนินการทางวินัย
(ค) เคยถูกส่งออกไปคุมขังในสถานที่คุมขังอื่นและกระทำผิดเงื่อนไข หรือกระทำผิดอาญาขึ้นในระหว่างคุมขังในสถานที่คุมขังอื่นดังกล่าว
(ง) ถูกศาลพิพากษาลงโทษในความผิด ดังต่อไปนี้ (1) ความผิดตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565
(2) ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามมาตรา 135/1 มาตรา 135/2 มาตรา 135/3 และมาตรา 135/4
(3) ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ตามมาตรา 209 มาตรา 210 มาตรา 211 มาตรา 212 และมาตรา 213
(4) ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ตามมาตรา 337 มาตรา 338 มาตรา 339 มาตรา 339 ทวิ มาตรา 340 มาตรา 340 ทวิ และมาตรา 340ตรี
(5) ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งปรากฏผลการตรวจสอบจากสำนักงาน ป.ป.ส. ว่าเข้าข่ายเป็นผู้กระทำผิดรายสำคัญ หรือความผิดฐานผลิต นำเข้า หรือส่งออก หรือผลิต นำเข้า หรือส่งออกเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ กฎหมายว่าด้วยมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปถึงตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต หรือความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ตามมาตรา 1 แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท หรือความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งมีปริมาณหรือจำนวนของกลาง ดังนี้
เฮโรอีน น้ำหนักตั้งแต่ 1 กิโลกรัมขึ้นไป
ยาบ้า ตั้งแต่ 10,000 เม็ด หรือน้ำหนักตั้งแต่ 1 กิโลกรัมขึ้นไป
ไอซ์ น้ำหนักตั้งแต่ 200 กรัมขึ้นไป
เอ็กซ์ตาซี (ยาอี) ตั้งแต่ 1,000 เม็ด หรือน้ำหนักตั้งแต่ 250 กรัมขึ้นไป
โคเคน น้ำหนักตั้งแต่ 1 กิโลกรัมขึ้นไป
ฝิ่น น้ำหนักตั้งแต่ 10 กิโลกรัมขึ้นไป
กัญชา น้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัมขึ้นไป
คีตามีน น้ำหนักตั้งแต่ 1 กิโลกรัมขึ้นไป
มิดาโซแลม ตั้งแต่ 500 เม็ดขึ้นไป หรือความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ตามมาตรา 145 วรรคสอง และวรรคสามแห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ได้แก่ การกระทำเพื่อการค้า การก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจำหน่ายแก่บุคคลอายุไม่เกิน 18 ปี การจำหน่ายในบริเวณสถานศึกษา สถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด หรือสถานที่ราชการ การกระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย การกระทำโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ การกระทำโดยหัวหน้า ผู้มีหน้าที่สั่งการ หรือผู้มีหน้าที่จัดการในเครือข่ายอาชญากรรม การทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
036
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี