เร่งล่า‘ทาสยา’โหด บุกวัดดัง อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ พังกุฏิใช้คัตเตอร์กรีดร่าง‘หลวงตา’พิการเดินไม่ได้ ก่อนจุดไฟเผาซ้ำอาการโคม่า เผยประวัติเสพยาจนหลอน

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 20 เม.ย.68 ร.ต.อ.องอาจ มโนบาล รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเกิดเหตุสาวประเภทสองบุกเข้าไปใช้มีดคัตเตอร์กรีดร่าง และจุดไฟเผาพระพิการเดินไม่ได้ ขณะจำวัดในกุฏิ ภายในวัดแห่งหนึ่งใน ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรายงาน พ.ต.อ.จักรกฤษณ์ ศรีสุนทร ผกก.สภ.ห้วยราช และผู้บังคับบัญชารับทราบ 

จากนั้น ผกก.สภ.ห้วยราช พร้อมรอง ผกก.ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยราช เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นกุฏิของพระมหาศุภทิน หรือหลวงตาเทะ อายุ 70 ปี พระลูกวัดที่ถูกทำร้าย พบภายในกุฏิมีที่นอน ผ้าห่ม และจีวร ถูกไฟไหม้เสียหายบางส่วน และมีคราบเลือดติดอยู่ ส่วนตัวหลวงตาเทะ ญาติโยมที่ไปทำบุญที่วัด ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลห้วยราชแล้ว แต่อาการสาหัส จึงส่งไปรักษาต่อที่ รพ.บุรีรัมย์ 

เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายพิษณุ หรือ “เจ” อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ชาวบ้านจะเรียกว่า “กระเทยเจ” หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป 

จากการสอบถามพระหลวงตาฮั้ว อายุ 74 ปี เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ได้ไปเรียกหลวงตาเทะ ที่กุฏิ เพื่อไปฉันข้าวเช้า แต่ได้ยินเสียงหลวงตาเทะ ตอบกลับมาว่าไปไม่ได้ถูกไอ้เจฟัน จึงได้เข้าไปดู พบหลวงตาเทะ นอนเลือดไหลอยู่บนเตียง มีแผลถูกของมีคม คาดว่าเป็นคัตเตอร์ ที่ใบหน้า และแขน มีรอยไหม้ตามร่างกาย จึงได้บอกเจ้าอาวาส  และเรียกญาติโยมที่กำลังทำบุญในศาลามาช่วยกันนำตัวหลวงตาเทะ นำส่ง รพ.

ทั้งพระและญาติโยมรับไม่ได้กับการกระทำของนายเจ ที่บุกเข้าไปทำร้ายหลวงตาที่พิการไม่มีทางสู้ ทั้งยังจุดไฟเผาซ้ำอีก เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมและบาปกรรมมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวนายเจ มาดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด เพราะกลัวจะกลับมาก่อเหตุทำร้ายคนอื่นอีก 

ขณะที่ชาวบ้าน ให้ข้อมูลว่า เมื่อวาน (19 เม.ย.68) เห็นนายเจ ขี้รถจักรยานยานยนต์ (จยย.) เข้ามาวนเวียนในวัดหลายรอบ คาดว่าน่าจะมาดูลาดเลาเพื่อหาโอกาสก่อเหตุ แต่กลางวันเห็นว่ามีพระและโยมอยู่ในวัดจึงมาก่อเหตุตอนกลางคืน

ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากการเสพยาเสพติดจนหลอนหนัก ถึงขั้นกล้าก่อเหตุทำร้ายพระที่พิการไม่มีทางสู้ ถ้าคนธรรมดาไม่หลอนยาคงไม่กล้าทำร้ายพระขนาดนี้ ส่วนเรื่องเงิน 2 ล้านบาท ที่อ้างว่าได้จากรายการดัง แล้วนำไปฝาก แต่ไม่ได้คืน ก็ไม่ได้มีจริง แต่น่าจะเกิดจากอาการหลอนยา ซึ่งการที่บอกว่ามีคนมาฝากเงินไว้กับหลวงตาเทะ เอาไว้ให้นายเจ 2 ล้านบาท ทั้งที่ไม่มีใครเอามาฝากไว้ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำร้ายหลวงตาเทะ ขณะนั่งวีลแชร์ออกไปบิณฑบาตจนบาดเจ็บมาแล้ว ถือเป็นบุคคลอันตราย อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี  

จากการสืบสวนทราบว่านายพิษณุ หรือเจ มีประวัติเสพยาเสพติดจนเกิดอาการหลอน เคยกล่าวหาว่าหลวงตาเทะ เอาเงินที่มีคนมาฝากไว้ให้นายเจ 2 ล้านบาทไปใช้ ทั้งที่ไม่เป็นมีใครเอาเงินมาฝากไว้ จากนั้นก็จะตามระรานหลวงตาเทะหลายครั้ง และเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.67 นายเจ หรือกระเทยเจ เคยถีบรถวีลแชร์ของหลวงตาเทะขณะออกไปบิณฑบาต จนล้มคว่ำ แล้วใช้ไม้กระหน่ำตีซ้ำจนบาดเจ็บ ซึ่งมีการแจ้งความไว้ที่ สภ.ห้วยราช และตำรวจเคยไปติดตามตัวนายเจ แล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นนายเจ วนเวียนเข้าออกวัด เพื่อหาโอกาสจะทำร้ายหลวงตาเทะ กระทั่งเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุสลดดังกล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์) สั่งการตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ห้วยราช เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว  เพราะเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นตามรายงานทราบผู้ก่อเหตุมีประวัติติดยาเสพติดแล้วเกิดอาการหลอน ส่วนปมเหตุอื่นอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม 

-005