ทาสยาคนเดิมหลอนคลั่งจุดไฟเผาโรงเรียน อ้างเครียดทำโดยไม่ได้สติ ชาวบ้านเอือมระอา เคยก่อเหตุทำร้ายครูมาแล้ว

วันที่ 21 เม.ย.68 ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้นำตัวนายธานินทร์ ไชยบัวรินทร์ หรือนิน อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาคดีเสพเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ส่งฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดนครพนม ซึ่งหลังเสพก็ได้ก่อเหตุลักลอบจุดไฟเผาห้องเก็บของ อุปกรณ์การเรียนการสอนและเป็นที่ซ้อมรำนาฏศิลป์ของโรงเรียนบ้านหนองปลาดุก หมู่ 22 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.วันที่ 18 เม.ย.68 ที่ผ่านมา โดยขณะสิบเวรนำตัวนายนินออกจากห้องควบคุม เพื่อส่งศาลจังหวัดฯผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงสาเหตุที่แอบไปจุดไฟเผา นายนินอ้างว่าเกิดจากความเครียดและยอมรับว่าเป็นมือเผาจริง ขณะก่อเหตุควบคุมสติไม่ได้

เหตุเกิดที่โรงเรียนบ้านหนองปลาดุก ซึ่งอยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่ ทราบจากนายสมควร ยางาม อายุ 41 ปีนักการภารโรงว่า จุดเกิดเหตุอยู่ชั้นล่างของอาคารเรียน 2 ชั้น ขณะนั้นเวลาประมาณทุ่มเศษของวันที่ 18 เมษายน ศิษย์เก่าผ่านมาเห็นควันโขมงพร้อมปลิวไฟ ออกมาจากห้องเก็บอุปกรณ์ จึงรีบไปบอกชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้น นำน้ำมาช่วยกันดับจนเพลิงสงบ ตรวจสอบสิ่งของที่เสียหายส่วนมากเป็นอุปกรณ์สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าใครเป็นมืดเผา แต่ทุกคนต่างพุ่งเป้าไปที่นายธานินทร์ หรือนิน โดยมีบ้านอยู่ด้านหลังอาคารหลังดังกล่าว ห่างกันเพียงถนนลาดยางกั้นเท่านั้น เพราะมีประวัติเสพยาบ้าและคลุ้มคลั่งก่อเหตุทำร้ายครูมาแล้ว จากนั้นก็แจ้งตำรวจเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ต่อมาวันที่ 19 เม.ย.68 ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้เข้านำตัวนายนินจากบ้านพักหลังโรงเรียนมาตรวจหาสารเสพติดพบเป็นสีม่วง เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาเสพยาบ้าก่อน แต่นายนินก็เปิดปากสารภาพเองว่าเป็นคนลงมือเผาห้องเรียน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องสอบสวนเพิ่มเติม โดยนำตัวไปฝากขังต่อศาลไว้ก่อน เนื่องจากควบคุมตัวได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมงตามขั้นตอนของกฎหมาย

นอกจากนี้จากประวัติของนายนิน ผู้ต้องหารายนี้ เมื่อปลายปี 2565 เคยก่อเหตุอุกอาจมาแล้ว ด้วยการบุกขึ้นไปยังชั้น 2 ของอาคารในห้องเรียนชั้น ป.1/2 ปรี่เข้าชกใบหน้าของนางไสว ขณะสอนหนังสือเด็กนักเรียนต้องหมอบหลบกันอยู่ใต้โต๊ะ พร้อมส่งเสียงร้องไห้ดังลั่น ภายหลังถูกติดตามจับกุมมารับโทษ เพิ่งออกจากเรือนจำได้ไม่นาน และปลายปี 67 นายนินก็ก่อเหตุอีกครั้ง โดยขว้างขวดใส่ห้องเรียน โดยอ้างว่าเสียงดังรำคาญ ครูจึงไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ศาลท่านเมตตาให้โอกาสสำนึกกลับตัวกลับใจ โทษจึงให้รอลงอาญาไว้ก่อน

กระทั่งคืนวันที่ 18 เม.ย.68 นายนินเสพยาบ้ากลับมานอนบ้าน เกิดอาการหลอนคลุ้มคลั่ง จึงปีนกำแพงด้านหลังงัดหน้าต่างเข้าไปจุดไฟเผาสิ่งของ เพราะห้องนี้จะมีนักเรียนมาซ้อมเต้นซ้อมรำกันประจำ ทำให้นายนินหูแว่วว่ามีคนเอะอะหวังมาทำร้าย จึงลอบเข้าไปจุดไฟเผาดังกล่าว

จากการสอบถามนายสง อายุ 82 ปี คุณตาที่มีบ้านอยู่ใกล้กับบ้านของนายนินทาสยารายนี้ ยอมรับว่าหวาดกลัวเหมือนกัน ส่วนพ่อแม่ของเขาหนีไปอยู่ทุ่งนากันหมด เพราะขืนอยู่บ้านเดียวกันจะถูกลูกชายอาละวาดทำร้ายข้าวของ เนื่องจากขอเงินไปซื้อยามาเสพไม่ได้

ตรวจสอบสภาพบ้านรกรุงรังจากการไม่เอาใจใส่ พื้นบ้านมีจานตกแตก 1 ใบ มีเต็นท์ซึ่งเป็นที่นอน 1 หลัง โดยชาวบ้านต่างหวาดกลัว ต้องการให้นายนินออกจากชุมชนไป เพราะขืนอยู่หากเสพยาแล้วก็จะหูแว่วก่อเหตุซ้ำซากอีก ที่ผ่านมาครูนักเรียนเห็นนายนิน ก็จะไม่กล้าส่งเสียงดังกัน เพราะกลัวจะถูกทำร้ายอย่างที่มีประวัติมาแล้ว