พายุลูกเห็บซัดถล่มนครพนม 3 วันซ้อน อาคารเรียนไม้หลังคาหายทั้งแถบ "อำเภอวังยาง" อ่วมโดนรอบสอง สรุปบ้านเรือนเสียหายทั้งจังหวัดรวมเกือบ 1 พันหลัง

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 15.00 น.ได้เกิดพายุฤดูร้อนในหลายหมู่บ้านของพื้นที่ ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม อิทธิพลของพายุลูกนี้ มีลูกเห็บตกลงมาด้วย โดยซัดถล่มนานประมาณครึ่งชั่วโมง ทำให้บ้านเรือนราษฎร รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคง ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านปากบัง หมู่ที่ 2 ซึ่งเป็นอาคารไม้เก่าสร้างยกพื้นสูง ด้วยความรุนแรงของพายุ ได้งัดหลังคาอาคารเรียนปลิวหายไปทั้งแถบ แต่เป็นช่วงปิดเทอมพอดี จึงไม่มีครูหรือนักเรียนอยู่ภายในอาคารหลังนี้ ปกติเวลาดังกล่าวนี้โรงเรียนยังไม่เลิกเรียน หากเกิดตอนเปิดเทอม คาดจะโกลาหลหนักมาก

นอกจากนี้มีเสาไฟฟ้าหักโค่นราว 30 ต้น เป็นเหตุให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง รวมทั้งมีต้นไม้หักทับทาง แม้แต่โครงเสาเหล็กหอกระจายข่าวหมู่บ้าน ก็ยังต้านความรุนแรงของลมไม่ได้ พังพับลงมาฟาดใส่หลังคา แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต หลังพายุสิ้นฤทธิ์ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก

ต่อมา พ.อ.อธิป แก้วดวงใหญ่  ผู้บังคับการหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 (นพค.22) อ.นาแก จ.นครพนม นำกำลังพลพร้อมเครื่องจักรกลเข้าพื้นที่สมทบกับนายบัญชา ศรีชาหลวง นายก อบต.พิมาน นำชุดป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุวาตภัยทันที สำรวจเบื้องต้นพบบ้านเรือนประมาณ 80 หลังคาเรือนถูกพายุถล่มเสียหาย โดยชาวบ้านส่วนหนึ่งได้อพยพไปนอนกันที่ศาลาวัดเป็นการชั่วคราว ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.นาแก จะนำเครื่องปั่นไฟมาให้ความสว่าง ส่วนอำเภอนาแกนำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นมาช่วยเหลือ

จากการสอบถาม นายทองใบ วงศ์สุขะ อายุ 57 ปี นักการภารโรง ถือว่าเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เกิดลมพายุพัดเข้ามางัดเอาหลังคาปลิวว่อน และเป็นช่วงปิดเทอมจึงไม่มีเด็กนักเรียน ส่วนความแรงลมตนแทบจะยืนไม่อยู่ ด้วยความตกใจตนก็ทำอะไรไม่ถูดก วิ่งขึ้นวิ่งลงอาคารจนลูกสาวเรียกให้ลงมา ทางด้าน พ.อ.อธิป แก้วดวงใหญ่ ผบ.นพค.22 เปิดเผยว่าเบื้องต้นได้นำคนและเครื่องมือมาช่วยตัดต้นไม้ หรือเศษซากต่างๆที่ตกค้าง ต่อไปก็เป็นการช่วยเหลือซ่อมแซมร่วมกับทางท้องถิ่น  เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเวลาไล่เลี่ยกัน พายุได้พัดถล่ม อ.วังยาง จ.นครพนมเป็นรอบที่สอง หลังเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา เกิดฝนฟ้าคะนองมีลมกระโชกแรง และฟ้าผ่าควายแม่ลูกตาย 2 ตัว

ทั้งนี้ พายุฤดูร้อนพัดถล่ม จ.นครพนม ซ้ำติดต่อกันเป็นวันที่สามแล้ว ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน และช่วงตอนเกิดลมพายุก็เป็นเวลาใกล้เคียงกัน โดยมีประมาณ 9 อำเภอจาก 12 อำเภอของจังหวัด พบบ้านเรือนประชาชน ได้รับความเสียหายรวมๆแล้วเกือบ 1 พันหลังคาเรือน ซึ่งทางมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) และ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) จัดกำลังพลเข้าซ่อมแซมบ้านเป็นการเร่งด่วนแล้ว