รวบสาวสมุทรสาครหัวใส่ขึ้นป้ายขายน้ำตาลสดโปรซื้อ 10 แถม 1 บังหน้าขายน้ำท่อม สารภาพขายให้กลุ่มวัยรุ่น มีรายได้วันละกว่า 4,000 บาทคนแห่ซื้อจนรถติด

วันที่ 25 เม.ย.68 นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภายใต้การอำนวยการของนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้มอบหมายให้ทางฝ่ายปกครองร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดยนายคนึง ทองเที่ยง ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองสมุทรสาคร นายสิริพงษ์ กลัดเจริญ ปลัดอำเภอเมืองสมุทรสาคร และ พ.ต.ท.โสภาส ถนนทิพย์ สว.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมเจ้าพนักงานสาธารณสุข เข้าจับกุมตัวนางสาวกุหลาบทอง นามสมมุติ อายุ 27 ปี พร้อมของกลางน้ำต้มพืชกระท่อมบรรจุในขวดพลาสติกจำนวนมาก

สืบเนื่องจากก่อนการจับกุมทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบแอบจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อมริมถนนพระราม 2 โดยผู้ที่มาซื้อได้จอดรถกีดขวางการจราจรส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนที่สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก

เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งพบว่ามีการปลูกเป็นเพิงไม้ โดยมีป้ายเขียนว่าจำหน่ายน้ำตาลสด พร้อมโปรโมชั่นซี้อ 10 ขวดแถม 1 ขวดเจ้าหน้าที่จึงเกิดการสงสัยเนื่องจากไม่ตรงกับที่รับแจ้งว่าขายน้ำกระท่อม เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตดูพบว่าเวลาซื้อขายกันจริงๆ คนขายกลับส่งน้ำต้มใบกระท่อมแทนน้ำตาลสด เพื่อหวังตบตาเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเข้าทำการจับกุม โดยนางสาวกุหลาบทอง ยอมรับว่าตนเป็นเจ้าของร้าน

จากการตรวจค้นพบน้ำต้มพืชกระท่อมบรรจุขวดพลาสติกขนาด 1,000 มิลลิลิตร และขนาด 500 มิลลิลิตรจำนวนมากอยู่ภายในลังโฟมสีขาวพร้อมจำหน่ายและถุงพลาสติกสีแดง ซึ่งไว้สำหรับใส่ขวดน้ำต้มพืชกระท่อมให้แก่ผู้ซื้อและคิวอาร์โค้ด สำหรับรับชำระสินค้าและสมุดจดรายการจำหน่ายน้ำกระท่อม

นางสาวกุหลาบทอง ผู้ถูกจับให้การว่าแอบลักลอบจำหน่ายน้ำพืชใบกระท่อมบรรจุขวดพลาสติกมาเป็นเวลา 1 เดือน ช่วงนี้จัดโปรโมชั่นซื้อ 10 ขวดแถมฟรี 1 ขวดทุกครั้งที่ลูกค้ามาซื้อ 1 ขวดก็จะประทับตราให้ 1 ดวง เมื่อครบ 10 ดวงเมื่อไรก็ได้ฟรี 1 ขวดจึงทำให้มีลูกค้ามาซื้อกันแน่นร้าน จอดรถเกะกะเต็มถนนไปหมดจนถูกชาวบ้านร้องเรียนจนมาทำให้ต้องโดนจับ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ได้แก่กลุ่มของผู้ใช้แรงงานที่มาซื้อกินรายได้ถือว่าดีพอสมควรจากการจำหน่ายน้ำกระท่อมดังกล่าวประมาณวันละ 4,000 บาท

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวพร้อมของกลางและพยานหลักฐานมาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสาคร และส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป