ใกล้เปิดเทอมแม่ค้าตรังโอด! ยอดขายชุดนักเรียนซบเซา

วันนี้ 28 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจำหน่ายชุดนักเรียนใน จ.ตรัง เริ่มมีผู้ปกครองนำบุตรหลานมาเลือกซื้อชุดและอุปกรณ์การเรียนกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่คึกคักเท่าที่ควร บางรายที่มีเงินเดือนก็จะรอให้เงินเดือนออกก่อนจึงจะพาบุตรหลานมาซื้อชุดนักเรียน ส่วนประชาชนที่เป็นเกษตรกรแทบจะไม่มีมาซื้อ เนื่องจากขณะนี้ราคาพืชผลทางเกษตรโดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมันตกต่ำ เนื่องจากประชาชนนั้นไม่มีสวนเป็นของตัวเอง ต้องรับจ้างกรีดยางพาราหรือรับจ้างเก็บปาล์มน้ำมันจึงจะมีรายได้ หากเจ้าของสวนไม่จ้างก็ทำให้ขาดรายได้ ซึ่งก็ต้องหาทางแก้โดยการกู้หนี้มาซื้อชุดนักเรียนให้กับบุตรหลาน เพื่อสวมใส่ไปโรงเรียน

นางยุพา เพชรคง เจ้าของร้านนครรัตน์ ที่จำหน่ายเสื้อผ้าชุดนักเรียน รองเท้า กระเป๋านักเรียน บอกว่า บรรยากาศการจำหน่ายในปีนี้เงียบเหงาเป็นอย่างมาก มีประชาชนพาบุตรหลานมาซื้อชุดนักเรียนกันบางตา เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่รอเงินเดือนออกก่อนถึงจะพาบุตรหลานมาซื้อ ทั้งนี้ยอดการจำหน่ายสินค้ามียอดการจำหน่ายลดลงต่อเนื่องมา 2-3 ปีแล้ว สาเหตุเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนมีรายได้ลดลง ยกเว้นข้าราชการ พนักงานบริษัท ที่มีเงินเดือนประจำเท่านั้น ที่ยังไม่ได้รับผลกระทบเท่าที่ควร 

ส่วนประชาชนที่ทำงานรับจ้างเงินเดือนไม่แน่นอนจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำ จึงทำให้ประชาชนซื้อสินค้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ในขณะที่ผู้ประกอบการร้านค้าไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าแต่อย่างใด ซึ่งผู้ปกครองที่มาซื้อก่อนล่วงหน้า บางรายก็ซื้อเฉพาะเสื้อ หรือกางเกง หรือกระโปรงเท่านั้นในส่วนของเด็กนักเรียนที่เข้าใหม่ไม่ว่าจะเป็นระดับอนุบาล ไปจนถึงระดับปริญญานั้น มีความจำเป็นต้องซื้อชุกนักเรียนนักศึกษาใหม่ โดยเสื้อผ้าชุดนักเรียนทั้งชุดอยู่ที่ประมาณ 200-600 บาท

อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองที่มาซื้อชุดนักเรียนสามารถนำใบเสร็จไปเบิกกับทางโรงเรียนได้ 400-600 บาท ส่วนการที่กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายการช่วยเหลือผู้ปกครองเรื่องการแต่งกายชุดลูกเสือและชุดเนตรนารี ที่ไม่ต้องซื้อทั้งชุดนั้น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองนั้น ขึ้นอยู่กับทางโรงเรียนมากกว่า ว่าต้องการให้นักเรียนใส่เต็มชุดหรือใส่บางส่วนเพื่อเป็นสัญลักษณ์