คลินิกสิ่งแวดล้อม

กฎหมายใหม่ มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ( ธนาคาร ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ ต้องร่วมรับผิด)

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2568 โดยในพระราชกำหนดดังกล่าวมีเนื้อหาบัญญัติไว้ 11 มาตราซึ่งมีสาระที่สำคัญคือ

มาตรา 8/10 ซึ่งมีใจความสรุปกำหนดให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น

ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ซึ่งน่าจะเป็นการเป็นการอุดช่องว่าง แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Call Center ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจัยสำคัญที่ประชาชนจำนวนมาก ได้เกิดความเสียหายและหลงเชื่อขบวนการ Call Center นั้น เกิดจากองค์ประกอบเรื่องของ การโฆษณาหรือ ชักชวนทางสื่อออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Application ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเสี่ยงโชค ชวนทำงาน รวมถึงกรณีหลักทรัพย์เช่น อ้างเป็นหน่วยงานราชการที่ติดตามคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงทางออนไลน์ทำให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกสำเร็จแล้ว กำลังหาวิธีแก้ปัญหาแต่กลับถูกหลอกซ้ำ นอกจากนี้ยังเป็นวิธีการใช้ระบบ SMS อ้างว่าเป็น หน่วยงานราชการหรือระบบขนส่งไปรษณีย์หรือ ระบบสาธารณูปโภคต่างๆเพื่อให้ประชาชน กดเข้าตามลิงค์รวมถึง รวมถึงการโทรที่เรียกว่าระบบ Call Center ไปจนถึงระบบของธนาคารที่ทำการอายัดบัญชีอย่างล่าช้า มาตรการตามกฎหมายใหม่นี้ เมื่อกำหนดให้ หน่วยงานหรือองค์กรดังกล่าวมีส่วนต้องร่วมรับผิดจากธุรกรรมด้วย

นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่นที่เป็นประโยชน์อีกหลายประการ อาทิเช่น การกำหนดหน้าที่ในการช่วยเหลือ สนับสนุน หรือเข้าร่วมปฎิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งกำหนดโทษในทางอาญาเอาไว้ (มาตรา 8/1 , 8/2 รวมถึง 8/11) ซึ่งจัดการอุดช่างว่างในการดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งเดิมไม่ได้มีสภาพบังคับทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนเอาไว้

กฎหมายดังกล่าวที่มีสภาพบังคับกับหน่วยงานองค์กรเอกชน หากได้ใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว น่าจะเกิดประโยชน์ต่อการ แก้ปัญหา Call Center ไม่น้อย

036