ตำรวจ บก.ปอศ.กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB เปิดปฏิบัติการ CIB Nominee sweep ep.3 ทลายนอมินีจีน ฮุบที่ดินระยอง สร้างคอนโดฯ หรู 2 พันล้านบาท ตรวจสอบพบการบริหารยันก่อสร้างใช้คนจีนครบวงจร
วันนี้ (1 พ.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ พ.ต.อ.นิตติโชติ เพ็ญจำรัส รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.วิวิฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ติระพัฒน์ พ.ต.ท.สมชาย ศรพล พ.ต.ท.รัฐพร คงสุโข พ.ต.ท.ภาคิน ไกรกิตติชาญ รอง ผกก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย พ.ต.ท.วรวุฒิ คงรักษา พ.ต.ท.ณัฐดนัย บำรุงศิลป์ สว.กก.4 บก.ปอศ.นำกำลังเข้าตรวจค้นเครือข่ายบริษัทนอมินีชาวจีน ในเขตพื้นที่ จ.ระยอง และชลบุรี รวม 3 จุด ดำเนินคดีกับนิติบุคคล 4 ราย ประกอบด้วย 1.บริษัท กู๊ดวิวฯ จำกัด สัญชาติฮ่องกง 2.บริษัท เทอร์ร่าฯ จำกัด สัญชาติไทย 3.บริษัท สกายฯ จำกัด สัญชาติไทย และ 4.บริษัท โอเชียนฯ จำกัด สัญชาติไทย และจับกุมบุคคล 11 ราย ประกอบด้วย 1.นายหลีฟางฯ สัญชาติจีน (กรรมการบริษัท)
2.น.ส.รติ สัญชาติไทย (กรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้น) 3.นายประเสริฐ สัญชาติไทย (ผู้ถือหุ้น) 4.นายชายฤทธิ์ สัญชาติไทย (ผู้ถือหุ้น) 5.นายปุณณัตถ์ สัญชาติไทย (ผู้ถือหุ้น) 6.นายเต๋า สัญชาติจีน (คนคุมงาน) 7.นายเจียง สัญชาติจีน (ช่างประปา) 8.นายเซี้ยะ สัญชาติจีน (ช่างปูน) 9.นายหวัง สัญชาติจีน (คนคุมงาน) 10.นายเฮา สัญชาติจีน (ผู้ออกแบบ) และ 11.นายซวง สัญชาติจีน (ผู้ออกแบบ)
พร้อมกันนั้นได้ตรวจยึด 1.เอกสารทะเบียนบริษัท 10 ชุด 2.บัญชีธนาคาร 48 เล่ม 3.โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง 4.โฉนดที่ดิน 7 ฉบับ เนื้อที่ รวม 72 ไร่ 5.สัญญาซื้อขายที่ดิน 1 ฉบับ 6.ตราประทับบริษัท 6 ชิ้น และ 7.Token ธนาคาร 7 ชิ้น ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 , พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ พ.ร.ก.การบริหารการจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560
พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ กล่าวว่า ตามที่ บช.ก.และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” บูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลและทำงานร่วมกัน เพื่อป้องกันปราบปราม แก้ไขปัญหานอมินีต่างด้าว ตลอดจนกำกับดูแลและตรวจสอบนิติบุคคลให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย
ต่อมาทางตำรวจ บก.ปอศ.ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตรวจสอบพบกลุ่มนิติบุคคลชาวไทย 3 ราย ถือครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ จ.ระยอง และชลบุรี มีพฤติกรรมนำบุคคลสัญชาติไทย มาเป็นตัวแทนอำพราง หรือ “นอมินี” เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมาย และการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐ จากนั้นชุดสืบสวน กก.4 บก.ปอศ.ได้เร่งสืบสวนติดตามกลุ่มนิติบุคคลทั้ง 3 รายดังกล่าว พบว่ากลุ่มบริษัทดังกล่าวเริ่มจดทะเบียนในช่วงปี 2566-2567 มีวัตถุประสงค์ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และดำเนินกิจการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่ซับซ้อน มีการใช้พนักงานคนไทย เช่น พนักงานฝ่ายขาย คนขับรถตักดิน มาถือหุ้นและเป็นกรรมการ โดยไม่ได้ลงทุนจริงและไม่มีบทบาทในการบริหารแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้ว บริษัทได้กว้านซื้อที่ดินใน อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง และ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รวม 7 แปลง เนื้อที่กว่า 72 ไร่ เพื่อนำมาสร้างเป็นที่ตั้งบริษัทและโครงการที่พักอาศัย ในลักษณะอาคารชุด 8 ชั้น รวม 10 อาคาร เป็นห้องพักอาศัยกว่า 1,821 ห้อง รวมมูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างก่อสร้าง
ต่อมาวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ.ได้นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบริษัทพร้อมกัน 3 จุด ในพื้นที่ จ.ระยอง และชลบุรี โดยเข้าตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุที่สำคัญ เช่น โฉนดที่ดิน 7 แปลง มูลค่า 36 ล้านบาท บัญชีธนาคารทั้งไทยและจีน 48 เล่ม ยอดเงินรวม 72 ล้านบาท ตราประทับบริษัท 6 ชิ้น และสอบปากคำพยาน 14 ปาก ประกอบด้วย กรรมบริษัท พนักงานคนไทย และ แรงงานชาวจีน โดย พยานที่เป็นพนักงานของบริษัทให้การยืนยันว่า บริษัทถูกบริหารโดยบุคคลสัญชาติจีน และมีการนำชื่อพนักงานคนไทยไปเป็นผู้ถือหุ้นแทนคนจีน
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่ากลุ่มบริษัทดังกล่าวมีการส่งตัวแทนชาวจีนเข้ามาควบคุมสั่งการทั้งในด้านการบริหารและการดำเนินงานก่อสร้างของบริษัท มีการดำเนินกิจการและครอบงำจากนายทุนชาวจีนแบบครบวงจร โดยตั้งบริษัทผลิตคอนกรีตเอง เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างโครงการที่พักอาศัย โดยใช้วิศวกรคุมงาน ผู้ออกแบบ ช่างวางระบบไฟฟ้า ประปา และแรงงานกรรมกรเป็นชาวจีน และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัท พบว่ามีการรับโอนเงินจากบริษัทนายทุนจีน ซึ่งจดทะเบียนอยู่ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยพบเงินหมุนเวียนในบัญชีของบริษัทกว่า 500 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทดังกล่าวมีนายทุนจีนเป็นเจ้าของที่แท้จริง
จากการรวบรวมพยานหลักฐานจนแน่ชัด ทางตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. จึงพิจารณาดำเนินคดีกับนิติบุคคล 4 ราย และบุคคลทั้งสัญชาติไทยและจีน 5 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และ แรงงานชาวจีน 6 ราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารการจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ในส่วนของที่ดินที่บริษัทถือครองกรรมสิทธิ์อยู่นั้น จะได้ดำเนินมาตรการบังคับให้จำหน่าย ตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ต่อไป
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี