ไอ้เปี๊ยกทาสยาหลอนมีดแทงยายวัย 71 ปี เจ้าของร้านของชำดับ คิดว่ายายพาแม่ไปโดนล่วงละเมิดทางเพศ ตำรวจตาม รวบตัวได้คาบ้านพัก
1 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท. ภักดีภูมินทร์ ดาวล้อมจันทร์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายจนมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ภายในบ้าน พัก ซึ่งหน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายของชำ ภายในซอยพระราชวิริยาภรณ์ 2/1 ถนนพระราชวิทยาภรณ์ หมู่ที่ 5 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จากนั้นจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.พระประแดง พร้อมด้วย ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง รีบเดินทางไปตรวจสอบ
จุดเกิดเหตุ เนื้อที่ประมาณ 25 ตารางวา เป็นบ้านไม้สองชั้น ส่วนด้านหน้าทำเป็นร้านขายของชำชั้นเดียวพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 รายทราบชื่อต่อมา นาง ชื้น อำนวยผล อายุ 71 ปี ที่อยู่ 20/2 หมู่ที่ 5 ถนนพระราชวิริยาภรณ์ ซอยพระราชวิทยาภรณ์ 2/1 หรือซอยผัดไทยต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เสียชีวิตในลักษณะนอนหงายหน้า แต่งกาย ใส่เสื้อเชิ้ตลายดอก สีแดงเทา กางเกงขายาวสีน้ำเงิน ผ้ากันเปื้อนสีแดง(ผ้าเอี๊ยมกระเป๋า) ตรวจสอบมีบาดแผลที่ หน้าอกข้างซ้ายจำนวน 1 แผลยาว ประมาณ 10 ซม ลึกประมาณ 5 เซนติเมตร นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพเดิม จากนั้นทาที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุ พบมีร่องรอยเลือดหยดเป็นทางตั้งแต่บริเวณกลางร้านขายของชำตรงโต๊ะนั่งเก็บเงิน จนไปถึงจุดที่พบศพ ซึ่งเป็นระยะทางยาวประมาณเกือบ 2 เมตร ส่วนในที่เกิดเหตุพบร่องรอย การข้าวอาหารกระจายอยู่เต็มพื้น
จากนั้นทางที่ตำรวจจึงได้ รีบหาข้อมูลผู้ก่อเหตุ จึงทราบตัวผู้ก่อเหตุซึ่งหลบหนีไปพักอยู่ในบ้านห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 ม. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าควบคุมตัวไว้ได้ทันทราบชื่อ นายจตุลภัทร (เปี๊ยก) เรืองเสมอ อายุ 45 ปี ที่อยู่ 20 หมู่ที่ 5 ต.บางพึ่งอ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยผู้ก่อเหตุยังมองตาขวางและพูดจาไม่รู้เรื่องวกไปวนมาและปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้ทำ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปตรวจค้นภายในบ้านพัก พบเสื้อที่ใส่ในตอนก่อเหตุ เป็นเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเหลือง และมีคราบเลือดติดอยู่ที่เสื้อด้านหน้า อยู่ในตะกร้าผ้าที่ใส่แล้ว และพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุเป็นมีด ทำครัวไปแหลมยาวประมาณ 30 เซนติเมตรด้ามสีดำ แก้วพลาสติกข้างตู้กับข้าวภายในห้องครัว
จากนั้นทางที่ตำรวจพยายามสอบปากคำ สุดท้ายเปี๊ยกให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง โดยใช้อาวุธมีดแทงเข้าไปจำนวน 1 ครั้ง ส่วนสาเหตุในการเกิดเหตุในครั้งนี้ ผู้ก่อเหตุหรือเปี๊ยกให้การว่า คาใจผู้ตาย ก่อนหน้านี้ตนเห็นว่าผู้ตายพาแม่ตนเองเข้าไปในบ้าน เพื่อไปทำไม่ดีไม่ร้าย(ข่มขืน)
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทางบ้านผู้ตายและบ้านผู้ก่อเหตุ ส่วนเจ้าที่ชุดจับกุมพยายามจะนำตัวผู้ก่อเหตุไปที่สภ.พระประแดง ตรวจสอบปากคำเพิ่มเติมขณะนำตัวออกมาถูกทางญาติและชาวบ้านที่ไม่พอใจพยายามเข้าทำร้ายร่างกาย(รุมประชาทัณฑ์)
นายจตุลภัทร เรืองเสมอ อายุ 45 ปี หรือนายเปี๊ยก ผู้ก่อเหตุ ได้ให้คำสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตรงเองไปซื้อเหล้าขาวมาจากข้างนอกเนื่องจากร้านค้าของคุณป้าไม่มีเหล้าขาวขายจากนั้นจึงเดินไปซื้อสปอนเซอร์ที่ร้านของคุณป้าพร้อมกับน้ำแดงหนึ่งขวด จากนั้นจึงจ่ายตังค์และเดินทางกลับมาเมื่อหลายวันก่อนตนเองเห็นป้าร้านค้าได้พาแม่ของตนเองเข้าไปภายในบ้านเพื่อให้คนอื่นข่มขืนและไม่สบายใจในวันที่แม่ได้เดินออกมาจากร้านค้า
'ในวันนี้ตนเองนึกขึ้นได้จากที่ซื้อของร้านค้าเรียบร้อยแล้วเดินกลับบ้านและได้พกมีกอีกมาด้วยอีกครั้งเพื่อมาที่ร้านค้า ได้พบป้ายืนอยู่จึงนำมีดที่พกติดตัวมาด้วยแทงไปที่หน้าอก เพียง 1 ครั้งจากนั้นจึงรีบเดินกลับบ้านพักโดยเร็วและไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไรต่อ'
ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ผู้ก่อเหตุได้เดินไปที่ร้านขายของชำหรือที่เกิดเหตุไปซื้อน้ำสปอนเซอร์ 1 ขวด และน้ำอัดลมสีแดง 1 ขวด ได้เดินกลับมาที่บ้านพัก จนถึงเวลาประมาณ 15.17 น. ผู้ก่อเหตุเดินวนไปมาบริเวณหน้าบ้านของตัวเอง เวลา 15.18 น. ผู้ก่อเหตุได้เดินไปที่ร้านของชำที่เกิดเหตุ และไปลงมือก่อเหตุ เวลา 15.19 น ผู้ก่อเหตุได้เดินหนีกลับมาที่บ้านพักของตัวเอง ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้อยู่กับนายทองย้อย อำนวยผล อายุ 77 ปี (สามี) และช่วงตอนเกิดเหตุ ผู้ตายอยู่เพียงลำพังคนเดียวบริเวณในร้านส่วนสามี ได้ไปเข้าห้องน้ำ และได้ยินเสียงผู้ตายร้อง รีบออกมาก็เห็นภรรยาหรือผู้ตายนอนอยู่กับพื้นแล้ว โดยมีเลือดไหลออกมา
สอบถาม นายทองย้อย อำนวยผล อายุ77 ปี สามีผู้ตาย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนเองได้เข้าไปหลังบ้านสักพักได้ยินเสียงร้องดังของภรรยาตนเองร้องจึงรีบออกมาดู ซึ่งตอนแรกตนเองคิดว่าภรรยาล้มลงและหัวฟาดพื้น ตนเองจึงมากอดภรรยาและพบว่ามือและเท้าหงิกมีเลือดไหลช่วงบริเวณหน้าอกและที่ปาก ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นเพราะไม่มีใครเห็นเหตุการณ์หลังจากนั้นจึงเดินไปถามเพื่อนบ้านและพบว่ามีคนเดินผ่านคาดว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุชื่อนายเปี๊ยก ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุก็ถูกจับส่งตำรวจไปสาเหตุไปขโมยพระของเพื่อนบ้านและแม่ของผู้ก่อเหตุจะได้ไปประกันตัวออกมา ส่วนสาเหตุที่นายเปี๊ยกหรือผู้ก่อเหตุมาทำร้ายป้าเพราะคาดว่าน่าจะมาเอาสตางค์หรือเงิน ที่อยู่ในกระเป๋าของคุณป้า ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุก็เคยมาบุกเข้าไปภายในบ้านของตนเองมาแล้วและตนเองก็ได้ไล่ออกมา ซึ่งในวันนี้ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุและทำร้ายภรรยาของตนจนเสียชีวิต
ทางด้านนายไชยา ยินดีทรง 55 ปี ลูกเขยผู้ตาย เล่าว่า ตนเองมีความรู้สึกโกรธมาก ไม่โดนกับตัวก็คงจะไม่รู้ว่าอย่าไปทำ คนแบบนี้ไม่ควรที่จะอยู่ในชุมชนอีกต่อไปเค้าเพิ่งออกจากคุกเพราะแม่ไปประกาศตัวผู้ก่อเหตุมาขนาดแม่เขาแท้แท้ยังไม่กล้าเข้าบ้านพักเลย บ้านของตัวเองเปิดเป็นร้านค้า ทุกคนเงินมาซื้อเราก็ต้องเอาเงินเขา และตนเองก็ไม่คิดว่าเค้าเมายาและจะมาก่อเหตุเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้ ซึ่งผู้เกิดเหตุกล้าเดินเข้าออกอยู่ในซอยเป็นประจำตนเองเวลาเจอหน้าก็คอยปรามอยู่ตลอดเวลา แผนกทราบข่าวของลูกสาวโทรมาแจ้งว่ายายถูกแทงเสียชีวิตที่บ้านพักแล้ว
ส่วนนางสาวชลธิชา ทะราช อายุ 31 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุเป็นคนในชุมชนไม่ได้ทำงานโดยอาศัยอยู่กับแม่ลำพังเพียงสองคน โดยก่อนเกิดเหตุตนเองได้เห็นผู้ก่อเหตุเดินผ่านหน้าบ้าน หลังจากนั้นสามีของผู้ตายได้เดินมาถามตนเองว่ามีใครเดินผ่านบริเวณนี้ไหมและบอกว่ายายถูกแทง ได้รับบาดเจ็บ ตนเองจึงตอบไปว่ามีหนึ่งคน จากนั้นคุณลุงจึงแจ้งกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ซึ่งพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุเป็นคนที่ชอบโวยวายส่งเสียงดังอยู่บ่อยครั้ง บ้านของผู้ก่อเหตุก็อยู่ตรงข้ามบ้านกับตนเอง ขณะที่ผู้ก่อเหตุเดินผ่านตนเองไม่เห็นอาวุธหรือพกติดตัวมาซึ่งอาจจะแนบไว้ที่ลำตัวหรือพกไว้ที่บริเวณอื่นก็ได้แต่เดินมาและในลักษณะที่ชิวและทำตัวแบบปกติ
เบื้องต้นทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติ พบเคยถูกจับหลายครั้งในคดีทำร้ายร่างกายและลักทรัพย์ ส่วนประวัติป่วยจิตเวชหรือไม่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยล่าสุดตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุและคำรับสารภาพของผู้ก่อเหตุไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ผู้ก่อเหตุหรือนายจตุลภัทร เรืองเสมอ อายุ 45 ปี จำนวน 2 ข้อหาคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดไปในเมืองชุมชนที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรจึงนำตัวผู้ก่อเหตุพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี