สสส. จับมือเครือข่ายทันตแพทย์ เปิดตัว'รถทำฟันเคลื่อนที่'เข้าถึงกลุ่มวัยทำงาน รพ.ระยอง นำร่องบุกให้บริการถึงโรงงานแก้ปัญหาฟันผุและสุขภาพช่องปาก พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตและลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง
ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผู้จัดการโครงการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านสุขภาพช่องปาก สสส. เปิดเผยว่าสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับเครือข่ายทันตแพทย์ทั่วประเทศและโรงพยาบาลระยอง เปิดตัวโครงการ “รถทำฟันเคลื่อนที่” นวัตกรรมเพื่อสุขภาพช่องปากที่มุ่งเป้าประชากรวัยทำงาน ซึ่งคนวัยทำงานเป็นกลุ่มใหญ่ของประเทศมีจำนวนมากถึง 40.25 ล้านคน โดยโครงการนี้เริ่มนำร่องที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาสุขภาพช่องปากรุนแรงที่สุดในประเทศไทย เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการทันตกรรมตามสิทธิประกันสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
“สุขภาพช่องปากเป็นด่านแรกที่สะท้อนสุขภาพโดยรวมของร่างกาย แต่จากการสำรวจอนามัยและสวัสดิการ พ.ศ. 2566 พบว่าวัยทำงานเพียง 10.2% เท่านั้นที่ใช้บริการทันตกรรมในรอบปี โดยจังหวัดระยองมีอัตราปัญหาสุขภาพช่องปากรุนแรงสูงสุด ด้วยประชากร 7.5 แสนคนและประชากรแฝงอีก 7.9 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานในโรงงานที่มีข้อจำกัดด้านเวลาและพฤติกรรมการบริโภค เช่น การรับประทานผลไม้หวานอย่างทุเรียน มังคุด และเงาะ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของฟันผุ ในขณะที่วัยทำงานเป็นกลุ่มที่ดูแลทั้งเด็กและผู้สูงอายุในครอบครัว หากสุขภาพช่องปากของพวกเขาดีขึ้น จะส่งผลดีต่อคนรอบตัวด้วย” ทพญ.ปิยะดา กล่าว
ทพญ.ปิยะดา กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพช่องปากมีความสัมพันธ์กับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคเบาหวาน ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคปริทันต์อักเสบ เหงือกอักเสบ และสูญเสียฟัน ในทางกลับกันการดูแลช่องปากที่ดีช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมและลดภาระค่ารักษาพยาบาลในระยะยาว รถทำฟันเคลื่อนจึงถูกพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงบริการ โดยเฉพาะในโรงงานที่มีตารางงานแน่นขนัด ดังนั้น การนำรถทันตกรรม”หรือ“รถทำฟันเคลื่อนที่” เข้าไปให้บริการถึงสถานประกอบการ จึงเป็นทางเลือกเพื่อลดอุปสรรคและพัฒนาขี้นเพื่อตอบโจทย์ให้บริการตรวจสุขภาพช่องปากที่เข้าถึงตัวกลุ่มเป้าหมายโดยตรง
ด้าน ทพญ.เกศยา ทรัพย์สมพล รองผู้อำนวยการด้านภารกิจทันตกรรม โรงพยาบาลระยอง กล่าวว่า ก่อนมีรถทันตกรรมเคลื่อนที่ เราเคยรณรงค์ให้คนมารักษาที่โรงพยาบาล แต่ผลตอบรับต่ำ การมีรถเคลื่อนที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและสร้างความตระหนักรู้ได้มากขึ้น ซึ่งโครงการสสส. จับมือเครือข่ายทันตแพทย์และรพ.ระยอง เปิดตัว “รถทำฟันเคลื่อนที่”ดังกล่าวนี้ผสานการทำงานเชิงรุกและเชิงรับ โดยเชิงรุกคือการนำรถทันตกรรมเข้าไปให้บริการถึงโรงงาน พร้อมให้ความรู้ด้านสุขภาพช่องปาก ซึ่งโรงพยาบาลระยองเป็นโรงพยาบาลนำร่องของโครงการฯ ใช้รถทันตกรรมเคลื่อนที่ 1 คัน ติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัยและเตียงทำฟัน 2 ยูนิต รองรับผู้รับบริการได้ 20 คนต่อวัน ครอบคลุมการตรวจสุขภาพช่องปาก ขูดหินปูน และอุดฟัน ภายใต้วงเงินสิทธิประกันสังคม 900 บาท ปัจจุบันให้บริการใน 5 โรงงาน โดยเน้นช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนของทุกปี เพื่อลดข้อจำกัดด้านบุคลากรและการวางแผนหลายด้าน จึงเลือกทำเฉพาะช่วงโรงเรียนหยุดเด็กปิดเทอมก่อน
ขณะที่คุณอัยยา มุ่งสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกทรัพยา กรบุคคล บริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในโรงงานที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า พนักงานจำนวนมากต้องการตรวจสุขภาพช่องปาก แต่ด้วยข้อจำกัดของโรงพยาบาล ทำให้ปีนี้ให้บริการได้เพียง 40 คนจากผู้ลงทะเบียนหลักร้อย ซึ่งเราเข้าใจว่าโรงพยาบาลมีข้อจำกัด แต่เราหวังว่าปีหน้าจะขยายวันให้บริการเพิ่ม เพราะสุขภาพพนักงานที่ดีนำไปสู่ผลผลิตที่ดีของบริษัท
ทพญ.ปิยะดา กล่าวในตอนท้ายว่า แม้รถทำฟันเคลื่อนที่ได้รับผลตอบรับดี แต่ยังเผชิญข้อจำกัดด้านบุคลากรและระยะเวลาให้บริการ สสส.และโรงพยาบาลระยองวางแผนขยายโครงการให้ครอบคลุมโรงงานอื่นๆ และเพิ่มความถี่ในการให้บริการ พร้อมส่งเสริมความรู้เรื่องการดูแลช่องปากอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดปัญหาสุขภาพช่องปากและยกระดับสุขภาพของวัยทำงานทั่วประเทศ หมายถึงการลงทุนในสุขภาพองค์รวมของประชากรไทยในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี