"อธิบดี DSI"เตรียมเรียกประชุมคณะ พงส.คดีนอมินี"ไชน่าเรลเวย์"-ติดตามคืบหน้าปมตึก สตง.ถล่ม 6 พ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ที่กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 7 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานความคืบหน้าว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 หรือคดีนอมินี บริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ว่า ภายหลังจากที่คณะพนักงานสอบสวนได้เร่งดำเนินการสอบสวนขยายผลในคดีนอมินีบริษัทไชน่าเรลเวย์ฯ รวมถึงตรวจสอบกระบวนการการได้มาซึ่งสัญญา 3 ฉบับ ได้แก่ สัญญาการรับเหมาก่อสร้าง , สัญญาการออกแบบ , สัญญาการควบคุมงาน ของโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ โดยได้มีการออกหมายเรียกพยานเชิญกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทต่างๆ และรายชื่อบุคคลที่มีอำนาจรับผิดชอบภายใต้สัญญานั้นๆ ได้แก่ กรรมการบริษัทของสัญญารับเหมาก่อสร้าง เช่น บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กรณีเป็นกิจการร่วมค้ากับบริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด หรือในส่วนกรรมการบริษัทของสัญญาการออกแบบ เช่น บริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด กรณีเป็นกิจการร่วมค้ากับ บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และในส่วนของกรรมการบริษัทของสัญญาควบคุมงาน คือ กิจการร่วมค้า PKW ประกอบด้วย 1.บริษัทพี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด 2.บริษัท ว.และสหายคอลซัลแตนตส์ จำกัด 3.บริษัท เคพี คอนชัลแทนส์ จำกัด รวมไปถึงการสอบปากคำพยานวิศวกรภายใต้กิจการร่วมค้า PKW ทั้ง 38 ราย ที่มีรายชื่อและลายเซ็นปรากฏในเอกสารการควบคุมงานก่อสร้างตึก สตง.สรุปรวมได้ว่า ถูกปลอมลายเซ็นควบคุมงาน 30 ราย และยอมรับว่าเซ็นควบคุมงานจริง 8 ราย
ทั้งนี้ เมื่อสอบสวนได้รายละเอียดพอสมควรแล้ว เป็นเหตุให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เตรียมเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน ติดตามอัปเดตความคืบหน้าทางคดีในวันอังคารที่ 6 พ.ค.เวลา 13.00 น.ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เพื่อจะได้กำหนดกรอบเวลาในการสรุปสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ ภายในระยะเวลาการฝากขังผู้ต้องหากลุ่มแรก (3 นอมินีไทย และ นายชวนหลิง จาง) ในช่วงผัดฝากขังที่ 1 - 3 เพื่อให้อัยการได้มีเวลาตรวจสอบสำนวนก่อนส่งไปยังศาลอาญารัชดาภิเษก
ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เผยอีกว่า สำหรับประเด็นที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจะใช้ในการติดตามความคืบหน้าทางคดี ได้แก่ คำให้การของพยานวิศวกรซึ่งถูกแอบอ้างชื่อและถูกปลอมลายเซ็นควบคุมงานก่อสร้างตึก สตง. , การลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานบริเวณไซต์งานก่อสร้างตึก สตง. , การพิจารณาพฤติการณ์ฐานความผิดตามกฎหมายฮั้วประมูล หรือ พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 โดยเฉพาะเรื่องการประมูลงานโครงการ และการควบคุมงานก่อสร้างโดยกิจการร่วมค้า PKW
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีดีเอสไอพบชื่อวิศวกรที่ปรากฏในเอกสารการควบคุมงานตึก สตง.รวม 51 รายชื่อ ขณะนี้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว 38 ราย จึงเหลือวิศวกรทั้งหมด 13 ราย ที่ต้องเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนภายในกรอบเวลาสัปดาห์หน้านั้น สำหรับในส่วนการลงพื้นที่ไซต์งานก่อสร้างเพื่อเก็บพยานหลักฐานลูกปูน คอริ่งปูนในส่วนของเสาตัวอาคารตึก สตง.และผนังปล่องลิฟต์ ก็ได้มีการบูรณาการกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ ปภ. เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เพื่อทำการเก็บเอาตัวอย่างปูน คอนกรีต อายัดส่งตรวจพิสูจน์ห้องแล็บ หาค่ากำลังอัดประลัยของคอนกรีตสำหรับโครงสร้าง โดยเสาปูนและผนังปูนจะต้องมีค่ากำลังอัดประลัยอยู่ที่ 500 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งหากทดสอบแล้วมีค่าน้อยกว่า 500 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร จะถือว่ามีการใช้วัสดุตกเกณฑ์มาตรฐาน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี