จี้รัฐบาลตรวจใหญ่คนสัตว์พืชลุ่มน้ำกก-น้ำสาย กระแสความไม่พอใจของประชาชนคุกรุ่น ชวนคนเชียงรายร่วมแสดงออกดีเดย์วันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิย.-วัฒนธรรมจังหวัดเผยสถานการณ์น่ากลัวกว่าผลกระทบจากเหมืองคลิตี้
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ที่ลานกิจกรรมสะพานริมกก-เวียงเหนือรวมใจ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย ได้มีกิจกรรม ฮอมปอยนิทรรศการบทสนทนา “ธาราไร้พรมแดน:เสียงจากแม่น้ำกกและชุมชน” โดยนางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวเปิดงานว่า แม่น้ำกกคือหัวใจของคนเชียงรายและเชียงใหม่ จึงควรได้รับการอนุรักษ์รักษาไว้และแม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำแห่งอารยะธรรมเพราะอยู่ร่วมกันหลากหลายชาติพันธุ์ โดยทุกๆปีแม่น้ำกกใส แต่ปีนี้ขุ่นข้น เมื่อทราบสาเหตุจากการบอกเล่าของชาวไทใหญ่ที่ต้นน้ำว่าถูกทำลายจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวและการทำเหมืองที่ไม่มีมาตรฐาน โดยพบสารพิษปนเปื้อนโดยเฉพาะสารหนู
นางเตือนใจ กล่าวว่า การแก้ปัญหาคือต้องแก้ที่ต้นเหตุ และปัญหานี้เป็นปัญหายิ่งใหญ่ที่รัฐบาลต้องเร่งเจรจากับผู้ที่สร้างเหตุของมลพิษครั้งนี้ การจัดกิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้จะต้องจัดกันอย่างต่อเนื่องจนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข
ทั้งนี้ภายในงานได้มีการจัดเวทีเสวนาเรื่องอนาคตแม่น้ำกกโดย นายสายยัณน์ ข้ามหนึ่ง ผู้อำนวยการสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตกล่าวว่า ขณะนี้การปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำกก ส่งผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจแ สังคมและวัฒนธรรม เราพบว่าปลาในแม่น้ำกกบางชนิดมีความผิดปกติ จากการเก็บตัวอย่าง 4 ชนิด พบว่าปลาหนัง 2 ชนิดมีความผิดปกติและติดโรค
“ตอนนี้เรารู้ว่าค่าต่างๆเกินมาตรฐาน หน่วยงานต่างๆต้องเข้าร่วมตรวจแล้ว กรมประมงต้องตรวจปลาในลำน้ำกก ลำน้ำสาย ลำน้ำรวก รวมทั้งน้ำอิง น้ำงาวและน้ำโขง โดยตลอดสายแม่น้ำกกจากท่าตอนมาถึงปลายน้ำมีลำน้ำสาขา 28 สาย ซึ่งอนาคตจำเป็นต้องตรวจปลาในลำน้ำสาขาเหล่านี้ด้วย ดังนั้นจึงควรมีศูนย์ตรวจอยู่ที่เชียงราย”นายสายัณน์ กล่าว
นายสายยัณน์ กล่าวว่า ควรมีการตรวจเลือดประชาชนด้วยเพื่อวิเคราะห์สารที่ตกค้าง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นตรวจเลย ขณะเดียวกันคนเชียงรายต้องรวมตัวกันให้มากๆ เพราะมิเช่นนั้น รัฐบาลก็ไม่ให้ความสนใจในปัญหานี้เท่าที่ควร โดยในวันที่ 5 มิถุนายนซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ควรนัดเจอกันหน้าศาลากลาง หากรวมตั้วกันเป็นหมื่นคน เชื่อว่ารัฐบาลคงต้องรีบแก้ปัญหา”
นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สส.เชียงราย พรรคประชาชน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้พาหลานไปเล่นน้ำกก ปรากฏว่าเกิดผื่นขึ้นเต็มตัว จึงได้ลงพื้นที่และนำเรื่องสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกเข้าไปหารือในสภา ขณะนี้ประชาชนต่างได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
“ผมผลักดันในสภาและติดตามเรื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ คณะกรรมาธิการความมั่นคงฯจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามเรื่องนี้โดยมี สส.จุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม เป็นประธาน”นายชิตวัน กล่าว
น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ องค์การแม่น้ำนานาชาติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีแม่น้ำไหนในประเทศไทยที่น้ำปนเปื้อนสารหนูตั้งแต่ต้นจนถึงปลายน้ำเหมือนแม่น้ำกก ดังนั้นจึงเป็นปัญหาร้ายแรงและวิกฤตของชาวเชียงราย ทุกวันนี้เขาก็ยังกำลังเปิดเหมืองเถื่อนและเปิดหน้าดิน โดยคนไทยกำลังได้รับสารพิษ การแก้ปัญหาคือยุติที่ต้นตอที่ปล่อยสารพิษ ซึ่งในหลักการระหว่างประเทศ ที่สามารถนำมาใช้ได้คือ ปฏิญญาริโอว่าด้วยสิ่งแวดล้อม 1992 เช่น No Harm Principle หลักการไม่ก่อความเสียหาย Public Participation and Access to Information การมีส่วนร่วมของประชาชนและการเข้าถึงข้อมูล รวมทั้งข้อชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน UNGP on Business and Human Right ที่มีหลักการป้องกัน เคารพ และเยียวยา
“คนเชียงรายต้องโกรธมากกว่านี้ ออกมาๆ เพราะแม่น้ำกกเป็นแม่น้ำของเราที่ใช้และดื่มกิน เขาทำให้แม่น้ำเราขุ่นขุ้นและเต็มไปด้วยสารโลหะหนัก รัฐบาลปล่อยให้เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร จำเป็นต้องไปคุยกับฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นจีน พม่า หรือว้า” น.ส.เพียรพร กล่าว และว่าอนาคตหากมีการสร้างเขื่อนปากแบงกั้นแม่น้ำโขง ต่อไปสารโลหะหนักก็ต้องไปกองตามปากแม่น้ำและที่นั่น ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งแก้ไขปัญหาด่วน
“มีน้ำแต่ใช้ไม่ได้ ไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับชาวเชียงราย ถ้าเกิดในพม่าที่ไม่มีรัฐบาลก็พอรับได้ แต่นี่เกิดในประเทศไทยมที่มีรัฐบาล ดังนั้นวันที่ 5 มิถุนายน ของคนที่ห่วยใยแม่น้ำกกมาเจอกัน”
ในช่วงท้ายการเสวนาได้เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานแสดงความคิดเห็นโดย วรัญญา พรหมสาขา ณ สกลนคร อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย กล่าวว่า พื้นที่ ต.ริมกก ไม่ใช้ประปาภูมิภาค แต่ใช้ประปาหมู่บ้าน เราเห็นความตั้งใจของ อบต.ริมกก ที่พัฒนาให้น้ำคุณภาพดี แต่พื้นที่อื่นเกิดการตั้งคำถามว่ามีระบบอย่างไร หลายคนคิดง่ายๆว่าไม่ใช้น้ำประปาจากแม่น้ำกก แต่ใช้น้ำบาดาลแทน แต่รู้ได้อย่างไรว่าน้ำบาดาลมีคุณภาพดี ที่สำคัญคือเราไม่รู้ว่าน้ำจะท่วมอีกหรือไม่ หากน้ำท่วมด้วยปริมาณสารพิษที่เป็นอยู่มาก ความเสียหายจะแค่ไหน
นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตนเคยเป็นวัฒนธรรมกาญจนบุรี เคยเข้าไปพบชุมชนคลิตี้ซึ่งสภาพธรรมชาติของเขาได้รับสารโลหะหนักเกิดค่ามาตรฐาน จนประชาชนเกิดความพิการ แม่เด็กเกิดใหม่ก็พิการซึ่งน่ากลัวมาก แต่เชียงราย 2 ลำน้ำ ได้รับผลกระทบหมดเลยซึ่งร้ายแรงกว่านั้น อยากให้ตระหนักกันทุกคนและลุกขึ้นมา เพราะแม่น้ำทั้ง 2สายยังไหลลงแม่น้ำโขงด้วย เราต้องมีมาตรการอย่างจริงจังและมียุทธศาสตร์โดยเอาปัญหาเป็นที่ตั้งและวางแผนอย่างเป็นระบบ อยากให้ทุกองค์กรบูรณาการร่วมกัน
ทั้งนี้ในงานยังมีการจัดแสดงภาพวาดแม่น้ำกกโดยศิลปินจากขัวศิลปะ และการแสดงศิลปะแสดงสด performance art จากกลุ่มฮอมจ๊อยซ์ และศิลปินเชียงราย นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีจากวงนาคาสตูดิโอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี