รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้าฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคมชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น...ฉบับนี้ขอพูดถึงเรื่องที่ใหญ่หลวง อีกเรื่องสำหรับรัฐบาล และประเทศไทย นั้นคือเรื่องของไฟใต้ ที่การแก้ปัญหาของไฟใต้ ผ่านไปแล้ว 21 ปี แต่ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ทำได้แค่การเลี้ยงไข้ มีการให้ยาแก้ปวด ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะ แต่ไม่มีการผ่าตัด ทั้งที่รู้ว่าอาการของดินแดนปลายด้ามขวาน คือมะเร็งร้าย ที่อยู่ในระยะที่ 2 หรือ 3 ที่ต้องมีการผ่าตัด หรือการทำคีโม เพื่อการช่วยชีวิต แต่ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าที่จะลงมีด เพื่อการผ่าตัด วันนี้เชื้อร้าย มีการลุกลามเพิ่มขึ้น แต่สหายใหญ่ อย่างภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ยังคงเงื้อง่าราคาแพง และยังหันรีหันขวาง ไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับปัญหาของไฟใต้....ที่ล่าสุด แกนนำฝ่ายทหาร ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ที่นำโดยยานิง แวมามุ สั่งการให้กองกำลังติดอาวุธ ในพื้นที่ปลิดชีพของชาวไทยพุทธ เพื่อเป็นการตอบโต้ ทั้งในส่วนของรัฐบาล ที่มีทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้สั่งการ ในการดับไฟใต้ โดยให้ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดำเนินการกดดัน ให้บีอาร์เอ็น ทำการยุติการก่อการร้าย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ บีอาร์เอ็น กำลังเอาคนไทยพุทธ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นตัวประกัน เพื่อให้รัฐบาลสั่งการให้กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า หยุดการปฏิบัติการในการปิดล้อม ตรวจค้น
และจับกุม แนวร่วม และกองกำลังติดอาวุธของบีอาร์เอ็น ด้วยการกราดยิง และซุ่มยิงชาวไทยพุทธ ในพื้นที่เปราะบาง ที่เจ้าหน้าที่รัฐดูแลรักษาความปลอดภัยไม่ทั่วถึง เช่น การยิงชาวไทยพุทธที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส วันเดียว 4 ศพ รวมทั้งการทิ้งใบปลิว เพื่อข่มขู่ ว่าจะเอาชีวิตของคนไทยพุทธ ทั้งที่เป็น ครู เป็นพระ เป็นเจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการให้เกิดความหวาดกลัว ที่อาจจะได้ผล เพราะด้านหนึ่ง
เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการคุ้มครอง ชาวไทยพุทธไม่ได้รัฐบาล โดยภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ทางหนึ่งอาจจะเล่นบทที่แข็งกร้าว เอาใจชาวพุทธ ด้วยการสั่งการ ให้ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ในการไล่ล่า ติดตามจับกุม ผู้ก่อเหตุมารับโทษ แต่อีกทางหนึ่งอาจจะส่งซิก ให้กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าหยุดปฏิบัติการทางทหาร เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของบีอาร์เอ็น เพื่อให้กองกำลังติดอาวุธ หยุดการปลิดชีพ และคุกคามคนไทยพุทธในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าความรุนแรงลดลง....ส่วนที่ จ.สงขลา มีประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนสายบ้านคลองแงะ อ.สะเดา - บ้านระตะ ไฟฟ้าส่องสว่างกลางเกาะถนนดับสนิทมาเป็นปีๆ แล้ว ไม่เห็น เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงจะหาทางแก้ไขทำให้ไฟส่องสว่างบนเกาะกลางถนนติดให้แสงสว่างทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้นมองเห็นดีขึ้นเวลาขับรถผ่านไปมา....และที่บ้านโคกเนียน - บ้านเกาะโอน หมู่ 4 ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา ก็เหมือนกันตั้งแต่หัวขโมยไปขโมยหม้อแปลงไฟทำให้ไฟส่องทาง ถนนสายนั้นดับมืดไปเป็นเดือนๆ แล้ว แต่ เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงก็ยังไม่เห็นมีวี่แวว ว่าจะเอาหม้อแปลงลูกใหม่มาเปลี่ยนเพื่อให้ไฟส่องสว่างให้ความสว่าง ทำให้เวลาผู้คนขับรถผ่านไปมา จะได้มองเห็นถนนที่สว่างขึ้นก็ฝากกรมทางหลวง ช่วยดำเนินการให้ไฟส่องสว่างถนนให้ใช้ได้เหมือนเดิมด้วยครับ...นายทุนน้ำมันเถื่อนยังคงใช้รถหัวลาก รถเก๋ง รถกระบะ และรถกระบะตู้ทึบ ดัดแปลงถังลับ ขนน้ำมันเถื่อนจากพื้นที่ชายแดนบ้านด่านนอก อ.สะเดา ไปส่งให้โรงงาน และผู้ค้าน้ำมันเถื่อนรายย่อยทั่ว จ.สงขลา และ พื้นที่ใกล้เคียง วางขายให้ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ โดยนายทุนชื่อ บ. แปลกที่เจ้าหน้าที่ มองไม่เห็น....เช่นเดียวกับ ตู้เกมไฟฟ้าพนัน ที่วางให้เด็กและเยาวชนไปเล่นกันบริเวณ
ข้างโรงแรมโอลิเวอร์ บ้านด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งมีการวางตู้เกมไฟฟ้าพนันกว่า 50 ตู้ ให้เล่นการพนันทุกๆ วัน แต่เจ้าหน้าที่ ที่นั้น กลับมองไม่เห็น นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ...
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี