'สธ.'จับมือ'โฮปฟูล'จัดงาน UNLOCK YOUR HEALTH เสริมพลัง 3 อ. ปั้นที่ปรึกษาสุขภาพคนรุ่นใหม่ หวังลดภาระโรค NCDs
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2568 กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ บริษัท โฮปฟูล จำกัด ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ และองค์ความรู้สุขภาพ ภายใต้แบรนด์ HOPEFUL เปิดเวทีอบรมเชิงวิชาการ “UNLOCK YOUR HEALTH: Mastering Sustainable Well-being – ปลดล็อกศักยภาพสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน” ณ ห้องประชุมสัมพุทธเมตตา ประชารักษ์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
กิจกรรมดังกล่าวสะท้อนเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของบริษัท โฮปฟูล ที่มุ่งสนับสนุนภาครัฐในการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยอย่างเป็นรูปธรรม สอดรับกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและควบคุมโรค NCDs ผ่านการสร้างความตระหนักรู้ การส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพที่ดี และการพัฒนาบุคลากรให้สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชนได้
โดย นพ.รุ่งฤทัย มวลประสิทธิ์พร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า การสร้างสุขภาพดีให้เกิดขึ้นในสังคมไทย จำเป็นต้องเริ่มจาก ‘คน’ และ ‘ความรู้’ ซึ่งเป็นรากฐานของการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน กระทรวงสาธารณสุขจึงให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรทั้งในและนอกระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาให้สามารถเป็นผู้นำด้านสุขภาพในระดับครอบครัวและชุมชนได้อย่างแท้จริง
“โครงการในวันนี้ของบริษัทโฮปฟูล ถือเป็นต้นแบบของภาคเอกชนที่มีความตื่นตัวและร่วมขับเคลื่อนนโยบายของรัฐในด้านการป้องกันโรค NCDs ด้วยแนวคิด 3 อ. – อาหาร อารมณ์ และออกกำลังกาย ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนไทยให้ห่างไกลโรคเรื้อรังอย่างยั่งยืน”
นายอรรคพล หยกยิ่งยง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฮปฟูล จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ส่งบุคลากรกว่า 300 คนเข้าร่วมอบรมเชิงลึกภายใต้หัวข้อดังกล่าว เพื่อยกระดับสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพ ที่สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้จริง ทั้งกับตนเอง ครอบครัว และชุมชน
“เรามองว่าการส่งเสริมสุขภาพไม่ใช่เพียงความรับผิดชอบของภาครัฐ แต่เป็นพันธกิจร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะองค์กรเอกชนอย่าง HOPEFUL ที่ต้องการเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง เราเชื่อว่าหากพนักงานของเราเข้าใจหลักการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง พวกเขาจะกลายเป็นตัวแทนส่งต่อคุณค่าเหล่านี้ไปยังครอบครัวและสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม”
นายอรรคพล ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ไม่ใช่เพียงกิจกรรมครั้งเดียว แต่เป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวของบริษัท ที่มุ่งเน้นการสร้าง “องค์กรสุขภาพดี” และพร้อมขยายความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อร่วมกันสร้างสังคมสุขภาวะในอนาคต
ทั้งนี้ การอบรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนด้านเนื้อหาวิชาการจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมบรรยายและจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ NCDs อาทิ การโภชนาการเพื่อการป้องกันโรค การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับแต่ละวัย และแนวทางการเสริมสร้างสุขภาวะจิต โดยเน้นการประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้จริง
กรมอนามัยในฐานะหน่วยงานหลักด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ยังได้ออกแบบกิจกรรมเวิร์กช็อปให้สอดคล้องกับแนวทางที่ใช้กับชุมชนทั่วประเทศ เช่น การนับคาร์บ, การลดเบาหวานด้วยตนเอง, เทคนิคอ่านฉลากอาหาร และกิจกรรมสุขภาพแบบเกมที่เข้าใจง่าย ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้กลับไปประยุกต์ใช้ในชีวิต และกลายเป็นผู้นำด้านสุขภาพระดับครอบครัวและชุมชนต่อไป
เปิดองค์ความรู้ 3 อ. – อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย โดยภายในงานสัมมนา ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้จากหัวข้อสำคัญ ได้แก่
อาหาร – แนะแนวทางการลดโซเดียม เพิ่มโปรตีนคุณภาพสูง และเลือกไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก ปลา และถั่ว เพื่อปรับพฤติกรรมการกินอย่างเหมาะสม
อารมณ์ – เรียนรู้เทคนิคจัดการความเครียด และส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันสำคัญของร่างกาย
ออกกำลังกาย – ปรับพฤติกรรมให้เคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อป้องกันโรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็งบางชนิด
“UNLOCK YOUR HEALTH” จึงไม่ใช่แค่กิจกรรมอบรม แต่เป็นต้นแบบของความร่วมมือภาครัฐและเอกชนที่สามารถจุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในเรื่องสุขภาพ และเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้คนไทยห่างไกลจาก NCDs อย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี