เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์ป่าลุ่มน้ำปายสนธิกำลังฝ่ายปกครอง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จับกุมไม้ประดู่ได้เป็นจำนวนมาก พบเป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมไม้ประดู่สามารถผ่านด่านตรวจในพื้นที่แม่ฮ่องสอน ออกไปเชียงใหม่ได้โดยสะดวก ทั้งนี้ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการจับกุมไม้ประดู่ 3 ราย ในพื้นที่ เชียงใหม่ 1 ราย และ พื้นที่แม่ฮ่องสอน 2 ราย

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผอ.สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับรายงานจาก นายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ว่าได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีการลักลอบตัดไม้ในเขตพื้นที่ป่าห้วยโลลา ต.แม่นาเติง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จึงได้จัดกำลัง เจ้าหน้าที่สายตรวจและปราบปรามที่ 1 อ.ปาย และ เจ้าหน้าที่สายตรวจและปราบปรามที่ 2 อ.ปางมะผ้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย เข้าตรวจสอบเมื่อ วันที่ 17 พ.ค. 2568 เวลา 00.22 น. ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบพบรถยนต์ต้องสงสัยจอดอยู่ตามที่สายแจ้งมาจึงเข้าตรวจสอบ พบคนขับรถยนต์คันดังกล่าวชื่อนายชัยวัฒน์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 260 หมู่ 3 ต.แม่นาเติง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จึงทำการควบคุมตัว โดยนายชัยวัฒน์  ให้การว่าตนและเพื่อนอีก 2 คน คือ นายไมค์ อยู่ บ้านแม่นาเติง และ นายโย่ง อยู่บ้านสันติชล อ.ปาย มารอขนลำเลียงไม้ประดู่จากพื้นที่ ไปส่งที่บ้านสันติชล เมื่อได้ไม้ครบแล้วจะลำเลียงส่งไปให้นายทุนที่ จ.เชียงใหม่

นอกจากนี้ยังมีการตั้งโรงงานแปรรูปไม้ บริเวณสวนยางพารา ในพื้นที่บ้านม่วงสร้อย จึงได้ขอสนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอปาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ขสป.ลุ่มน้ำปาย เข้าตรวจสอบ พบเลื่อยวงเดือน ไม้ท่อนและไม้แปรรูปจำนวนมาก จากการตรวจสอบนับจำนวนคำนวณปริมาตรไม้หวงห้ามทั้งหมดได้ (จุดที่ 1) ไม้ประดู่จำนวน 2 ท่อน ปริมาตรรวม 1.060 ลูกบาศก์เมตร (จุดที่ 2) ไม้แปรรูปและไม้ท่อนจำนวน 69 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตรรวม 10.205 ลูกบาศก์เมตร รวมเป็น 11.265 ลูกบาศก์เมตร เป็นเงินค่าเสียหายของรัฐ รวมทั้งสิ้น 522,770 บาท (ห้าแสนสองหมื่นสองพันเจ็ดร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) รวมของกลางการกระทำผิดทั้งหมด 11 รายการ พร้อมจัดทำบันทึกเรื่องราวและรวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปาย เพื่อสอบสวนนายชัยวัฒน์ วิชาธร และสืบหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เป็นที่น่าสังเกตว่าในห้วงระยะนี้ ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมกลุ่มลักลอบตัดไม้และลำเลียงไม้ประดู่ออกจากแม่ฮ่องสอน ไปยัง จ.เชียงใหม่ บ่อย โดยเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 68 จนท.อช.ออบหลวง เชียงใหม่ จับกุมไม้ประดู่ขณะแหกด่านตรวจและสามารถจับกุมได้เนื่องจากรถพลิกคว่ำ ยึดของกลาง  ไม้ประดู่ จำนวน 33 แผ่น  ปริมาตร 2.917 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าความเสียหาย 204,190 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 17 พ.ค.68 จนท.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยทหารพราน จับกุมไม้ประดู่ใน ป่าห้วยมะอูม บ้านเมืองปอน  หมู่ที่ 2 ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้ของกลาง ไม้ประดู่ 10 แผ่น และ ไม้ประดู่ท่อนอีก 4 ท่อนคิดเป็นปริมาตร 15.293 ลบ.เมตร ค่าเสียหายรวม 630,525 บาท และล่าสุดในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมให้ข้อสังเกตว่า ทำไมกลุ่มขบวนการค้าไม้ประดู่ จึงสามารถนำไม้ประดู่ ผ่านด่านตรวจในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้โดยสะดวก โดยไม่ถูกจับกุม แต่สุดท้ายมักจะถูกจับกุมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่เล็ดลอดออกไปคงมีจำนวนมากกว่าที่ถูกจับอย่างแน่นอน จนทำให้ชาวบ้านไม้กลัวกฎหมายและลักลอบตัดไม้ประดู่อย่างต่อเนื่อง

.012