(แฟ้มภาพ)
ค้นวัดไร่ขิงรอบ2
สอบ10ปาก/มี6บัญชีต้องสงสัย
รองผบช.ก.นำทีมเข้าตรวจค้นวัดไร่ขิงรอบ 2 เผยสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องกว่า 10 ปาก เผย “ทิดแย้ม” รับสารภาพ บางส่วนยังให้การขัดกับหลักฐาน ซึ่งจะต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติม พบ 6 บัญชีของวัด ไม่ส่งรายละเอียดให้ พศ. ระบุ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง ลั่นหากพบความผิดเชื่อมโยงไปถึงใครจะดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด ชูศักดิ์”มอบผอ.พศ. คุย มส.หามาตรการป้องกัน หลังมีเสียงเรียกร้องให้ต่อยอดวัดอื่น พร้อมสั่งตรวจสอบละเอียด
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ร่วมกับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กว่า 50 นาย เข้าตรวจค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมเส้นทางการเงินที่ นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ ยักยอกนำออกไปใช้ โดยมีพระราชวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม วัดบางช้างเหนือ รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ร่วมในการตรวจสอบ
การตรวจค้นในครั้งนี้ แยกออกเป็นหลายจุด โดยจุดใหญ่มุ่งเน้นไปที่ห้องการเงินของวัดไร่ขิง จากการสังเกตการณ์พบว่าภายในห้องเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้น และอายัดเอกสารทางการเงินของวัด และการเบิกจ่ายหลายกล่องไปตรวจสอบ นอกจากนี้ยังมีเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน ซึ่งมีหลายแผ่นรวบรวมนำไปตรวจสอบด้วย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก ผบช.ก. ให้ดำเนินการโดยเด็ดขาด โดยประสานความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในการทำงาน ในการตรวจสอบเพื่อเป็นแนวทางในการตรวจสอบวัดต่างๆ ด้วย วันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่ สตง. เจ้าหน้าที่ ปปท. สำนักพุทธ ปปช. เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่จะมาตรวจสอบเส้นทางการเงิน ระบบการจ่ายเงินของบัญชีวัด บัญชีที่มีรายงานเข้ามาในสำนักพุทธ และบัญชีที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่ได้มีการรายงานเข้ามา
รองผบช.ก.เผยอีกว่าขณะนี้ได้สอบปากคำไปแล้ว กว่า 10 ปาก มีทั้งพระและฆราวาสที่มีหน้าที่ หรือมีความเกี่ยวข้องกับการเงินของวัด มีทั้ง นางเตย ซึ่งได้เข้ามาให้การไว้แล้วในเบื้องต้น ส่วนประเด็นของอดีตเจ้าคุณแย้ม ตอนนี้ก็ให้การรับสารภาพไปบางส่วน และยังมีบางส่วนที่ยังปิดบังให้การขัดกับหลักฐาน โดยจะมีการสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นการติดตามข้อมูลในเบื้องต้น
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ได้มีหลายหน่วยงานได้เข้ามาประสานงานและร่วมมือกันในการตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงินและบัญชีของวัดไร่ขิง เท่าที่ตรวจสอบทราบว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องมีมากกว่า 10 บัญชี ส่วนหนึ่งที่ถูกจัดทำไว้ทั้งที่ส่งรายงานต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) และยังไม่ได้จัดส่ง จากการตรวจสอบ มี 4 บัญชีที่มีการส่งรายละเอียดที่แจ้ง แต่อีก 6 บัญชี ต้องสงสัย เพราะไม่มีข้อมูลความเคลื่อนไหวของบัญชี ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ปปง. และ สตง. ในการตรวจสอบ เพื่อให้ได้ความชัดเจนของเส้นเงินทั้งหมด ก่อนนำไปประกอบสำนวนคดีเอาผิดกับผู้ที่ทุจริตทุกคน
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเข้าใจ และมั่นใจในศรัทธาต่อหลวงพ่อวัดไร่ขิง เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำจากบุคคลโดยทางตำรวจและทุกหน่วยงานพยายามจะเร่งรัดคดีให้จบเร็วที่สุดเพื่อทำให้วัดไร่ขิงเดินหน้าต่อไป
รอง ผบช.ก.กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาประชุมและตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดไร่ขิงทั้งหมด หลังจากที่มีการสอบสวนทิดแย้ม น.ส.อรัญญาวรรณ สาวคนสนิท รวมถึง นางเตย นายเอกพจน์ หรือ อดีตพระเอกพจน์ และอีกหลายปากไปก่อนหน้านี้ ใครที่มีเส้นทางเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินก็จะมีการพิจารณาเป็นรายไปตามหลักฐาน และมีการรายงานความคืบหน้าไปยังผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ซึ่งตอนนี้ได้มีการเร่งรัดการติดตามในการแก้ปัญหาให้กับวัดไร่ขิง เพื่อให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ซึ่งต้องวอนพี่น้องประชาชนให้เข้าใจและช่วยกัน แม้กระทั่งหน่วยงานรัฐก็ยังมีคนไม่ดีอยู่ในนั้น
“ในการตรวจค้นครั้งนี้ยังพบโฉนดที่ดินอีกหลายแปลงที่มีความสงสัย ต้องมีการติดตามมาทั้งหมด ซึ่งต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน โดยจุดเริ่มต้น เราได้มีการตรวจสอบข้อมูลทางเทคโนโลยี และมีความสงสัยจึงได้มีการสืบ เข้ามาเก็บข้อมูลจนแน่ชัด และมีการติดตามบุคคลต่างๆ ตามที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ตอนนี้ต้องทำงานอย่างหนักรวบรวมหลักฐานให้แน่น เพื่อส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการส่งฟ้องเพราะเวลาเรามีน้อย ฝากขังผู้ต้องหาก่อน จะต้องทำสำนวนการสอบสวนให้เร็วและรัดกุม ขอยืนยันว่าการกระทำเป็นเฉพาะตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับวัด ขอให้ประชาชนอย่าได้เสื่อมศรัทธา” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
ขณะที่ พระราชวชิรสุตาภรณ์ เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกหนักใจเพราะเป็นเพียงแค่รักษาการแต่ก็จะบริหารจัดการวัดให้ดีที่สุด จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ต้องโปร่งใสและให้ประชาชนเกิดความศรัทธา ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ หลายคนอาจจะหมดศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา แต่การกระทำครั้งนี้เกิดจากตัวบุคคลไม่ใช่เกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ควรจะแยก สาธุชนจะต้องอยู่ร่วมกันช่วยเหลือกัน บ้าน วัด โรงเรียน จะต้องพึ่งพาอาศัยกันไป แล้วทุกอย่างก็จะกลับมาสู่ความปกติ สำหรับคดีก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ใครผิดก็ว่ากันตามผิด ใครถูกก็ว่ากันไป ขณะนี้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าพบมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อหารือมาตรการป้องกันหลังเกิดกรณีของวัดไร่ขิงว่าได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการ พศ.ไปหารือกับ มส.แล้ว ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ตรวจสอบอีกหลายวัด เพื่อต่อยอดจากกรณีของวัดไร่ขิงนั้น ได้ให้ผู้อำนวยการ พศ.ไปคุยแล้ว ซึ่งตนได้มอบนโยบายไปแล้วว่า ให้ไปตรวจสอบกันโดยละเอียด เมื่อถามย้ำว่า พศ.ต้องทำงานเชิงรุก ไม่ได้ทำพิธีกรรมอย่างเดียวใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ใช่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี