ชาวบ้านรวมมิตรผวา! "สารหนู" แม่น้ำกกซึมบ่อน้ำตื้น ทัวร์ช้างทรุด ช้างเกิดผื่นติดเชื้อ ชาวบ้านหยุดหาปลาหันไปทำอาชีพอื่นแทน
วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาพถ่ายมุมสูงบริเวณแม่น้ำกก ช่วงบ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชนเรื่องการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำกก พร้อมแจกจ่ายแนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยง โดยเน้นห้ามสัมผัสน้ำโดยตรงและห้ามจับปลามาบริโภค
โดยนายสีทน คำแปง ชาวบ้านบ้านรวมมิตร และผู้จัดการปางช้างบ้านรวมมิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวหายไปกว่า 80% เนื่องจากไม่สามารถจัดกิจกรรมทัวร์นั่งช้างลุยแม่น้ำกก ได้เหมือนเดิม เพราะกังวลเรื่องสารหนู ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการจองเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ กิจกรรมล่องแพในแม่น้ำกกก็ต้องยุติไปหมด ตั้งแต่มีข่าวการปนเปื้อน ตอนนี้เหลือช้าง 9 เชือก รายได้ไม่เพียงพอค่าใช้จ่าย
นายสีทน ยังระบุว่า ทางปางช้างห้ามไม่ให้ช้างลงเล่นน้ำ และหันมาใช้น้ำจากประปาภูเขาแทน ส่งผลให้ต้องจำกัดปริมาณการดื่มน้ำของช้าง จากเดิมวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 12-15 คำ (ประมาณ 8-10 ลิตรต่อคำ) เหลือเพียงครั้งละ 5-6 คำ โดยต้องให้ช้างต่อคิวกันดื่มน้ำจากบ่อพัก ทั้งนี้ ได้ดำเนินการต่อท่อประปาระยะทาง 4 กิโลเมตร เพื่อให้ช้างได้เข้าถึงน้ำสะอาดมากขึ้น โดยในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ควาญช้างได้นำช้างไปอาบน้ำในแม่น้ำกก หลังจากนั้น 2-3 วันพบว่าช้างมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล ส่วนควาญช้างเองก็มีอาการติดเชื้อบริเวณหัวเข่า ปัจจุบันทั้งช้างและควาญ ยังมีแผลตกสะเก็ดอยู่
นายสีทน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่บ้านรวมมิตรและบ้านผาเสริฐ ต่างวิตกกังวลว่าสารหนูในแม่น้ำกกอาจซึมเข้าสู่บ่อน้ำตื้นที่ใช้สำหรับอุปโภคบริโภค จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบคุณภาพน้ำ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน
ด้านชาวบ้านในพื้นที่บ้านป่าอ้อแม่ยาว หมู่ 5 ตำบลแม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเคยใช้แม่น้ำกกในการหาปลา เลี้ยงชีพและขายตามหมู่บ้าน ต่างก็หยุดกิจกรรมทั้งหมดมานานกว่า 2 เดือน
โดยนางจินดา อิ่นคำ ชาวบ้านป่าอ้อแม่ยาว เปิดเผยว่า เดิมทีตนหาปลาในแม่น้ำกกเป็นอาชีพหลัก แต่หลังมีข่าวเรื่องสารหนู ทำให้ไม่สามารถจับปลาได้อีกต่อไป เพราะกังวลเรื่องสารพิษตกค้าง ทั้งยังไม่สามารถขายปลาได้ เพราะไม่มีคนกล้าซื้อ จนตอนนี้ต้องเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นแทน หารายได้เลี้ยงครอบครัว เพราะกลัวอันตรายจากสารหนู และไม่มีใครซื้อปลาแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าร้านค้าและแผงขายอาหารริมแม่น้ำกก ซึ่งเคยตั้งไว้รองรับนักท่องเที่ยวช่วงหน้าร้อน ต่างได้รับผลกระทบเต็มที่ บางรายลงทุนตกแต่งร้านไปกว่าหนึ่งแสนบาท แต่ต้องหยุดกิจการเพราะไร้นักท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันแม่น้ำกกตลอดเส้นทางยังคงมีความขุ่นแตกต่างจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนๆ ซึ่งน้ำจะใสและเหมาะกับกิจกรรมทางน้ำชาวบ้านจึงเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก และแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนอย่างเร่งด่วน เพื่อคืนความมั่นใจให้กับประชาชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจในชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
ล่าสุดอาจารย์นิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของแลผู้อำนวยการสถาบันองค์ความรู้ท้องถิ่นโฮงเฮียนแม่ของ ได้นัดผู้ที่สนใจไปรับฟังข้อมูลกรณีปัญหาดังกล่าวจากภาคประชาชน ณ บริเวณสวนตุงและโคมนครเชียงราย บนถนนธนาลัยในวันเสาร์ที่ 5 พ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าวจัดขึ้นในงานเทศกาลถนนคนเดินซึ่งจัดขึ้นทุกคืนวันเสาร์ของสัปดาห์นั่นเอง เนื่องจากเครีอข่ายฯ ต้องการให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ถึงสภาพปัญหาและสาเหตุที่ทำให้แม่น้ำเกิดการปนเปื้อนดังกล่าว รวมทั้งเป็นการนำร่องในการเชิญชวนให้ประชาชนไปร่วมกิจกรรมวันที่ 5 มิ.ย.2568 นี้ ณ สนามหน้าศาลากลาง จ.เชียงราย ติดกับแม่น้ำกกพื้นที่ ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย ต่อไป
อาจารย์นิวัฒน์ กล่าวว่าในช่วงที่มีการรณรงค์ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนได้ติดริบบิ้นสีเขียวไว้ตามรถหรือที่ต่างๆ เพื่อเป็นการร่วมแสดงออกเพื่อเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขปัญหา ทำให้เห็นทุกฝ่ายเห็นว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่และทำให้ระดับรัฐบาลจะต้องรับรู้ละเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ต่อไป โดยริบบิ้นสีเชียวเราก็จัดทำกันเองตามสะดวก
สำหรับกิจกรรมในวันที่ 5 มิ.ย.2568 นอกจากจะเป็นการแสดงพลังถือป้าย จัดนิทรรศการ พิธีสืบชะตาแม่น้ำกกที่อยู่ใกล้ศาลากลางจังหวัด พิธีกรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าๆ ยังจะมีการเสวนา และขอยื่นหนังสือต่อทางรัฐบาลไทย สถานเอกอัคราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย สถานเอกอัคราชฑูต สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย ฯลฯ เพื่อให้รับรู้ถึงปัญหาและหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่ฝ่ายทหารโดยคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-เมียนมา ซึ่งฝ่ายไทยมีแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานจะประชุมร่วมกับประธาน RBC ฝ่ายเมียนมาและคณะช่วงเดือน ก.ค.2568 ซึ่งจะมีการบรรจุเรื่องผลกระทบที่คาดว่ามาจากเหมืองต่างๆ ในรัฐฉานให้ฝ่ายเมียนมาได้รับทราบด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี