รองผู้ว่าฯกาญจนบุรีนั่งหัวโต๊ะ ถกแก้ปัญหาที่ดินพิพาทระหว่างทหารและประชาชนแปลง 6 พันไร่หลัง กมธ.การทหารลงพื้นที่ ส่วนการตัดไม้สัก รอความชัดเจจนจากเจ้าของพื้นที่คือกรมป่าไม้
วันที่ 23 พ.ค.68 เมื่อเวลา 09.30 น. นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานการประชุมครั้งที่ 1 เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดินระหว่างทหารกับประชาชนในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ ณ ห้องประชุมกัลปพฤกษ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี โดยได้รับมอบหมายจากนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี
การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากหลายภาคส่วน อาทิ นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี v.อ.สุรเดช เมฆานุวงศ์ รองเสนาธิการ กองกำลังสุรสีห์ พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี นายสุรชิต บัวทอง ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี นายวัชระ ละอออ่อน ผู้อำนวยการส่วนจัดการพื้นที่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) นายภูวพล รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองลู นายสถาพร บุญสมจิตร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ และผู้แทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่มีสำนักงานอยู่ในพื้นที่พิพาท 6,000 ไร่
โดยนายสุรชิต บัวทอง ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ชี้แจงถึงประเด็นการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ รวมถึงหนังสือเร่งด่วนจากคณะกรรมาธิการการทหารที่ขอให้พิจารณาแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินในความครอบครองของทหารและประชาชนในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ แปลง 6,000 ไร่
สำหรับบ้านพระเจดีย์สามองค์ ตั้งอยู่ที่หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก และมีแนวเขตติดกับประเทศเมียนมา ซึ่งยังไม่มีการปักปันเขตแดนที่ชัดเจน
พื้นที่นี้เคยได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้จัดตั้งหมู่บ้านป้องกันตนเองชายแดนไทย-พม่า เนื้อที่ประมาณ 6,000 ไร่ เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยสิ้นสุดการอนุญาตเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีทั้งอาคารบ้านเรือน สถานประกอบการ วัด โรงเรียน สำนักงานส่วนราชการต่าง ๆ รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรม เช่น สวนยางพารา ป่าสัก สวนผลไม้ และแปลงผัก
ต่อมา กองทัพบกได้ยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก เนื้อที่ 7,126-2-49 ไร่ เพื่อใช้เป็นพื้นที่ด้านความมั่นคง โดยได้รับความเห็นชอบจากสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองลู เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 อย่างไรก็ตาม กรมป่าไม้ยังไม่ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากขอให้จังหวัดตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงตรวจสอบการทับซ้อนกับพื้นที่ที่หน่วยงานราชการอื่น ๆ เช่น กรมปศุสัตว์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เข้าทำประโยชน์และยื่นคำขออนุญาตตามมติคณะรัฐมนตรีไว้ก่อนหน้า
คณะกรรมาธิการการทหารพิจารณาแล้วว่า หากกรมป่าไม้อนุญาตให้กองทัพบกใช้พื้นที่เพื่อความมั่นคง อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและหน่วยงานราชการเดิมในพื้นที่ จึงมีมติเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ให้กองทัพบก จังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนและจำแนกพื้นที่การขออนุญาตให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดความทับซ้อนในอนาคต
นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดกาญจนบุรีจะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อทำความเข้าใจกับกรมป่าไม้ในฐานะเจ้าของพื้นที่และหน่วยงานทหาร โดยจะพิจารณาว่าพื้นที่ด้านความมั่นคงที่ทหารต้องการนั้นจะดูแลอย่างไร และพื้นที่ส่วนราชการต่าง ๆ ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันจะต้องดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ร่วมกับทหาร
สำหรับที่ดินส่วนที่เหลือ จังหวัดกาญจนบุรี โดยคณะกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) คณะที่ 1 จะดำเนินการขอใช้พื้นที่เพื่อนำมาจัดสรรให้กับประชาชนต่อไป โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ในการตรวจสอบแผนที่ที่ดินที่ใช้ด้านความมั่นคง พื้นที่ราชการ และพื้นที่ที่จะจัดสรรให้ประชาชนอย่างชัดเจน
ในส่วนของคำขอจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ที่ขออนุญาตให้ชาวบ้านสามารถตัดไม้สักเพื่อนำไปขายสร้างรายได้นั้น รองผู้ว่าฯ ชี้แจงว่า เป็นนโยบายที่กรมป่าไม้สนับสนุนให้ชาวบ้านปลูกไม้สักในอดีต ซึ่งขณะนี้กรมป่าไม้กำลังหารือแนวทางการดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใหญ่บ้าน โดยต้องรอความชัดเจนจากกรมป่าไม้ต่อไป - 001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี