“อนุทิน”เผยน้ำท่วมแม่สาย เอาอยู่ ไม่ต้องประกาศเขตภัยพิบัติ ระดมสรรพกำลังช่วยเต็มที่ ด้าน ปภ.เร่งฟื้นฟู ขณะที่เชียงใหม่ เร่งสูบน้ำชุมชนศรีปิงเมือง ลำปางเฝ้าระวังน้ำป่าดอยขุนตาล กรมชลฯเตือน7จังหวัดภาคกลางริมเจ้าพระยา รับมือน้ำเหนือฝนตกเพิ่ม
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่ารับทราบสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา แล้ว ขณะนี้สถานการณ์อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ เราได้ระดมบุคคลกรเข้าไป ทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายทหาร ซึ่งเจ้ากรมทหารช่าง อยู่ในพื้นที่พอดี ทำให้สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ในระดับหนึ่ง การช่วยเหลือก็เข้าไปพร้อมซึ่งเราควบคุมสถานการณ์ได้ จึงไม่ถึงขั้นจะต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ ผู้ว่าฯ ก็อยู่ในพื้นที่ตลอดเวลา ขณะนี้ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ก็อยู่ในพื้นที่เช่นกัน ก็ขอให้อธิบดี ปภ.ไม่เดินทางไปต่างประเทศ เพราะมีภารกิจที่สำคัญ ให้ประจำอยู่ที่เชียงราย คอยบัญชาการ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ ก็เช่นกัน ผู้ว่าฯ ได้เร่งระดมกำลังกำจัดวัชพืชบริเวณทางผ่านของน้ำ เพื่อไม่ให้ติดตรงคอสะพาน ขวางเส้นทางน้ำ เหมือนที่ผ่านมา และปีนี้ต่อให้มีปริมาณฝนมาก ถ้าเราสามารถทำให้การระบายน้ำไม่มีอุปสรรค ก็จะทำให้น้ำระบายไปที่เขื่อนภูมิพล ได้เต็มที่
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมชายแดนไทย-เมียนมา โดยเฉพาะที่ตลาดสายลมจอย ย่านเศรษฐกิจสำคัญใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบว่าปัจจุบันสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้า ต่างนำสินค้าออกมาทำความสะอาด ชำระคราบดินโคลนข้าวของเครื่องใช้ เพื่อนำมาจำหน่ายลดราคา เพื่อนำทุนคืนกลับมาได้บ้าง เพราะมีสินค้าที่ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
ด้านนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ.พร้อมด้วย นายชรินทร์ ทองสุข ผวจ.เชียงราย พล.ท.สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 และเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย โดยส่งกำลังเข้าปฏิบัติงานช่วยนำดินโคลนออกจากบ้านเรือนประชาชน บริเวณตลาดสายลมจอย อ.แม่สาย
นายภาสกร กล่าวว่า นายกฯ รวมถึงรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ได้สั่งการให้ลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งสาเหตุของน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากฝนตกหนักช่วงวันที่ 23-24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขน และเหมืองแดง ยังสามารถจัดการได้ อย่าไรก็ตาม สำหรับชุมชนสายลมจอย และถ้ำผาจม ยังเป็นจุดที่น่าห่วง เมื่อน้ำมาแต่ละรอบ เราต้องทำความสะอาดพื้นที่เพื่อให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
“ขณะนี้กรมการทหารช่าง ได้ทำพนังกั้นน้ำ เพื่ออุดช่องว่างตามจุดต่างๆ ไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่เขตเศรษฐกิจและชุมชน ซึ่งการก่อสร้างได้หยุดชะงักชั่วคราวเนื่องจากเหตุน้ำท่วม แต่ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าฝนจะตกอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นฝนจะทิ้งช่วง ทางทหารจะเร่งทำการก่อสร้างพนังกั้นน้ำตามแผนได้ต่อไป” นายภาสกร กล่าว
ที่ จ.เชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ มอบหมายให้ นายศิวกร บัวป้อง รอง ผวจ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในการระบายน้ำท่วมขัง ในชุมชนศรีปิงเมือง-กาดก้อม ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ เกิดน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง โดยช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกหนัก ทำให้มีปริมาณน้ำสะสม จึงมีการประสานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ เข้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำ อัตรา 31,500 ลิตร/นาที และเครื่องสูบน้ำของเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อสูบน้ำจากพื้นที่ท่วมขัง ออกสู่คลองแม่ข่า ก่อนไหลลงแม่น้ำปิง
สำหรับพื้นที่กาดก้อม ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนศรีปิงเมือง และเป็นย่านชุมชนเป็นที่ตั้งตลาดสด วิทยาลัย และมีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น รอง ผวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งประจำไว้ในพื้นที่แล้ว หากมีฝนตกและน้ำท่วมขัง ก็จะเร่งสูบน้ำระบายออกทันที ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ปฏิบัติตามข้อสั่งการ ทำความสะอาดท่อ ตะแกรงระบายน้ำ ไม่ให้มีขยะอุดตัน และพร้อมช่วยเหลืออพยพประชาชนหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น
ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่เสี่ยงเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะดินถล่ม เนื่องจากบนยอดเขาอุ้มน้ำไว้จำนวนมาก และหากยังมีฝนตกซ้ำอีก อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำปาง จึงเน้นย้ำให้ประชาชนเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ทางน้ำไหลผ่านและที่ราบเชิงเขา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เครือข่ายเฝ้าระวังภัยหมู่บ้านห้วยเรียน ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้แจ้งเตือนภัยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องบนยอดเขาสูง เขตอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ได้ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากลงมาแล้ว โดยน้ำมีสีขุ่นมากและไหลเชี่ยวลงสู่ลำน้ำแม่ตาล ขอให้หมู่บ้านท้ายน้ำ โดยเฉพาะ ต.แม่สัน และ ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร ที่มีบ้านเรือนนับพันหลัง เตรียมความพร้อม รับมือสถานการณ์น้ำป่า
ขณะที่หมู่บ้านห้วยเรียน และหมู่บ้านปางปง–ปางทราย ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร ซึ่งตั้งอยู่เชิงเขา ใกล้อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ก็ต้องเฝ้าระวังภัย เพราะปีที่ผ่านมา เมื่อเกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าทะลักซัดบ้านเรือนเสียหายหลายหลัง ถนนและสะพานตัดขาด โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในบ้านที่ตั้งอยู่ริมลำน้ำ ซึ่งบ้านได้พังเสียหายไปทั้งหลัง
วันเดียวกัน สำนักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ออกประกาศเตือน 7 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี ให้ระวังน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 26-30 พฤษภาคมนี้ เนื่องจากคาดว่าปริมาณน้ำเหนือจะไหลมาถึงเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ไปถึง อ.อินทร์บุรี จ.ลพบุรี เข้าสู่พื้นที่ จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1.00-1.20 เมตร ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ และผู้ประกอบการธุรกิจหรือสิ่งก่อสร้างต่างๆ พื้นที่ริมน้ำ ควรเฝ้าระวังและสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และขอให้ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากฝนตกหนักทางตอนบนของประเทศ คาดว่าจะมีมวลน้ำไหลลงมาถึงเขื่อนฯ ช่วง 4-5 วันนี้ โดยขณะนี้น้ำเหนือไหลผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้น ตรวจวัดได้ 880 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ส่วนระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เริ่มเพิ่มขึ้น โดยตรวจวัดได้ 15.51 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าเกณฑ์กักเก็บ (16.50 เมตร) ซึ่งเขื่อนเจ้าพระยา ปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได อยู่ที่ 490 ลบ.ม./วินาที เพื่อเพิ่มที่ว่างรองรับปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงมาเติม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี