สะเก็ดล้านนา : 28 พฤษภาคม 2568

■■ “สืบสานมวยไทย จากรากหญ้าสู่สากล” คลัสเตอร์ 5.2 เชียงราย เตรียมจัดชกเดือนมิถุนายนนี้ “รัตนา จงสุทธานามณี” นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย “ชญาณ์นันท์ เชื้อศิริถาวร” ผอ.กกท.เชียงราย “ทนงศักดิ์ อ่วมสิงห์” ผู้จัดการแข่งขัน ร่วมกันแถลงข่าวและจับสลากประกบคู่มวยในโครงการ “สืบสานมวยไทย จากรากหญ้าสู่สากล” ครอบคลุมพื้นที่เชียงราย, พะเยา, แพร่ และน่าน ณ ห้องประชุมสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงราย โครงการนี้จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย มอบหมายให้สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ดำเนินการร่วมกับ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงราย มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมนักมวยรุ่นใหม่ให้มีเวทีแข่งขัน พัฒนาทักษะ และเข้าสู่วงการมวยอาชีพอย่างมั่นคง สำหรับรูปแบบการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ : รอบคัดเลือกระดับจังหวัด (ทั้ง 77 จังหวัด แบ่งเป็น 16 คลัสเตอร์) รอบชิงชนะเลิศระดับภาค รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ การแข่งขันแบ่งออกเป็น 6 รุ่น สำหรับจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นเจ้าภาพของคลัสเตอร์ 5.2 กำหนดจัดการแข่งขันดังนี้ รอบคัดเลือกระดับจังหวัด วันที่ 7 มิถุนายน 2568 และรอบชิงชนะเลิศระดับจังหวัด วันที่ 28 มิถุนายน 2568 โดยทั้งสองรอบจัดขึ้นที่สนามเวทีมวยชั่วคราว ค่ายมวยสามเหลี่ยมยิมส์ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ชนะเลิศระดับประเทศ จะได้รับเงินรางวัลรวมไม่ต่ำกว่า 400,000 บาท พร้อมเข็มขัดแชมเปี้ยนและถ้วยรางวัล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการสืบสานศิลปะมวยไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากลต่อไป..

■■ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กำชับจังหวัดเร่งบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในทุกมิติ ย้ำนายอำเภอต้องตื่นตัวตลอด เพราะสาธารณภัยเกิดขึ้น ไม่เลือกเวลา “ภาสกร บุญญลักษม์” อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่เชียงราย ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย การให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยมี “ชรินทร์ ทองสุข” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้บริหารกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ ทั้งในห้องประชุมและผ่านระบบการประชุมทางไกล ย้ำต้องติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว ให้นายอำเภอทุกอำเภอ ให้ความสำคัญกับการติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝนและระดับน้ำในแหล่งน้ำอย่างใกล้ชิด แจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ทราบอย่างต่อเนื่อง ผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของจังหวัด เพราะสถานการณ์ภัยเกิดขึ้นได้โดยไม่เลือกเวลา และหากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ประเมินแล้วพบว่าเข้าเกณฑ์การแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินด้วย Cell Broadcast ปภ. จะทำการแจ้งเตือนภัยด้วย Cell Broadcast ไปยังประชาชนที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทันที...■■

อังคณา จิระดา