ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.ติดตามเหตุกลุ่มวัยรุ่นบุกรุกทำร้ายนักท่องเที่ยวในเมืองกรุงเก่า พร้อมมอบนโยบาย 4 แนวทางปฏิบัติ กวาดล้างอาชญากรและผู้มีอิทธิพลทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย
วันนี้ (29 พ.ค.) พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ตามนโยบายเร่งด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศนรด.ตร.) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และติดตามความคืบหน้าเหตุกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวในสถานบริการในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยตำรวจในสังกัดฯ เข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมนันทโชติ บก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ช่วยดูแลและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเรียกประชุมร่วมกัน เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีกลุ่มชายฉกรรจ์ 15 ราย ทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว และพยายามปล้นทรัพย์ ข่มขู่ และกระทำผิดกฎหมายหลายกระทง ต่างกรรมต่างวาระ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 13 ราย ส่วนที่เหลืออีก 2 ราย อยู่ในขั้นตอนการขออำนาจศาลออกหมายจับ ซึ่งผู้ต้องหา 12 ราย ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนการดำเนินคดีถือว่าคืบหน้าไปถึง 80% ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังคงต้องมีมาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน ให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
พล.ต.อ.อัคราเดช กล่าวต่อว่า สิ่งที่ได้กำหนดแนวทางในที่ประชุม ที่จะต้องดำเนินการ มี 4 แนวทาง คือ 1. เตรียมเปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองไล่ล่า อยุธยาต้องผาสุก” โดยจะมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง จะมีการปิดเมืองปิดล้อมตรวจค้น จับกุมตัวมาดำเนินคดี อย่างเต็มกำลังความสามารถ 2.การรุกเข้าหาเป้าหมายเพื่อทำลายเครือข่ายต่างๆ เพื่อไม่ให้มีการขยายเครือข่าย หยุดยังไม่ให้มีการเอาเยี่ยงอย่าง
3.เร่งดำเนินการเรื่องคดีค้างเก่าที่มีหมายจับในคดีสำคัญใน จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งหมด โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐาน 17 ด้าน ในเรื่องของผู้มีอิทธิพล และความผิดคดีพิเศษ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และ 4.การจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปพบปะพี่น้องประชาชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อรับฟังรับรู้ถึงปัญหาต่างๆ ที่ประชาชนรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ เพื่อจะเก็บข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยในส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะเก็บเป็นความลับ เพื่อนำมาขยายผลต่อยอดและวางแผนในการปฏิบัติต่อไป
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี