ตร.เปิดรายชื่อถนน 94 เส้นทางทั่วประเทศเข้มงวดบังคับใช้ก.ม.จราจร ตามโครงการ “ถนนปลอดภัย” คิกออฟแล้วทั่วไทย ชี้คนขี่-คนซ้อนจยย.ต้องสวมหมวกกันน็อก ฝ่าฝืนจับปรับ 2,000 บาท
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา (ผบช.ศ.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะ ผอ.ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ทุกหน่วยจัดทำ “โครงการถนนปลอดภัย” ให้ดำเนินการเสริมสร้างวินัยจราจรและสร้างความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้การบริหารงานจราจรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยให้บังคับใช้กฎหมายจราจรทางบกและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถหรือการใช้ทางบนถนนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในการสัญจร โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ กองบังคับการ/ตำรวจภูธรจังหวัด ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ได้พิจารณาเลือกถนนสายสำคัญในพื้นที่ หรือถนนที่มีการฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนมาก หรือถนนที่มีอุบัติเหตุในเส้นทางบ่อยครั้ง หรือถนนที่มีที่ตั้งของสถานศึกษาอยู่หลายแห่ง เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรในทุกมิติ รวมจำนวนถนนที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 94จุดทั่วประเทศ แบ่งเป็นพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รวม 11จุด,กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1(บช.ภ.1) รวม 9จุด,กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค2(บช.ภ.2) รวม 9จุด , กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค3(บช.ภ.3) รวม 10 จุด , กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค4(บช.ภ.4) รวม 13จุด , กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5(บช.ภ.5) รวม 8จุด,กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค6(บช.ภ.6) รวม 9จุด,กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7(บช.ภ.7) รวม 9จุด, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8(บช.ภ.8) รวม 8จุดและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค9(บช.ภ.9) รวม 8จุด
พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวอีกว่า วันเดียวกันนี้ได้เริ่มดำเนินโครงการถนนปลอดภัยพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยมุ่งเป้าลดการเกิดอุบัติเหตุจราจร สร้างความปลอดภัยให้แก่ทุกคนที่ใช้รถใช้ถนน พร้อมขอเชิญชวนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่ฝ่าฝืนกฎจราจรในถนนเส้นดังกล่าวในทุกมิติ เพราะหากพบการกระทำผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจะกวดขันดำเนินคดีอย่างเข้มงวดในทุกกรณี และหากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนพบเหตุต้องสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม แจ้งอุบัติเหตุจราจรและขอความช่วยเหลือด้านการจราจร สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) โทร.1197และสายด่วนกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) โทร.1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 122 ให้ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ สวมหมวกนิรภัย หรือหมวกกันน็อก ทั้งคนขับและคนซ้อน หากไม่สวมหมวกกันน็อก จะถูกปรับเพิ่ม 2 เท่า โดยมีโทษถูกปรับสูงสุด 2,000 บาท เริ่มบังคับใช้ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี