เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ปราณี (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี และ น.ส.สุวารี (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี หลานสาวของ น.ส.วรรณา (สงวนนามสกุล) อายุ 90 ปี (เจ้าของบัญชีผู้ฝากเงิน) โดยทั้ง 2 ได้เดินทางมาที่ ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อขอความช่วยเหลือจาก “สะพานบุญบ้านเพ” กรณียายตัวเองได้ฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี แต่ไม่สามารถเบิกได้ “สะพานบุญบ้านเพ” จึงรับเรื่องไว้

เรื่องราวมีอยู่ว่า คุณยายวรรณา ได้ฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จำนวน 2 บัญชี ยอดเงินรวม 2 ล้านกว่าบาท จู่ ๆ คุณยายวรรณา ถือสมุดบัญชีธนาคารไปเบิกเงิน แต่ทางธนาคารแจ้งว่า “ ให้เบิกเงินไม่ได้เพราะ คุณยายวรรณา ไม่ใช่เจ้าของบัญชีตัวจริง”  

หลานทั้ง 2 ของคุณยายวรรณา ซึ่งเดินทางมาจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้โชว์หลักฐาน สมุดบัญชีเงินฝาก หลักฐานยืนยันตัวตนจากอำเภอ ยืนยันว่า คุณยายวรรณา มีตัวตนจริง

น.ส.สุวารี และ น.ส.ปราณี เล่าว่า ได้พายายวรรณาไปเบิกเงิน ที่ฝากเงินไว้ที่ธนาคาร จำนวน 2 บัญชียอดเงิน 2 ล้านกว่าบาท แต่ทางธนาคารแจ้งว่าให้เบิกไม่ได้ เพราะยายไม่ใช่เจ้าของบัญชีตัวจริง บัญชีที่ยายถืออยู่ มีอีกบุคคลเป็นเจ้าของบัญชี โดยทางธนาคารมีหลักฐานเลขบัตรประชาชน 13 หลักยืนยัน

เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองเดินเรื่องให้ยายมาปีกว่า ไปขึ้นศาลก็ไปมาแล้ว แต่ถึงอย่างไรทางธนาคารก็ไม่ให้เบิกเงินยังยืนยันว่า ยายวรรณา ไม่ใช่เจ้าของบัญชีตัวจริง ส่วนเงินฝากของยายที่ฝากไว้อีกธนาคาร ที่ไม่ใช่ธนาคารนี้ ทางธนาคารให้เบิกเงินได้ตามปกติเพราะตรวจสอบยืนยันได้ว่ายายกับบัญชีที่ถืออยู่ คือ เจ้าของบัญชีตัวจริง

ด้าน แมน สะพานบุญบ้านเพ กล่าวว่า หลังจากฟังเรื่องราวก็พอจับใจความได้ว่า คุณยายฝากเงินไว้ 2 ล้านกว่าแต่เบิกเงินไม่ได้เพราะ ทางธนาคารแจ้งว่ายายไม่ใช่เจ้าของบัญชีตัวจริง เรื่องนี้หลังจากรับเรื่องร้องเรียนจะประสานทนายไพศาล ให้หาทางช่วยเหลือต่อไป 

อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าว คงต้องหาว่าเกิดข้อผิดพลาดตรงไหน คุณยายถึงเบิกเงินไม่ได้ และในส่วนของกระบวนการทางกฎหมาย หลานยายเจ้าของบัญชีให้ข้อมูลว่า ตอนนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนของการอุทธรณ์ในชั้นศาล และจะจบลงอย่างไร ทางธนาคารและทางเจ้าของบัญชีจะหาข้อยุติอย่างไร

.-008