คึกคัก! แม่ค้านำของกินมาขายหน้าธนาคาร รอคนมาลงทะเบียน 'คนละครึ่งพลัส'

คึกคัก! แม่ค้านำของกินมาขายหน้าธนาคาร รอคนมาลงทะเบียน 'คนละครึ่งพลัส'

วันอังคาร ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 21.49 น.

14 ต.ค. 68 ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า มีประชาชนจากหลายหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอภูเขียว และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ จำนวนมากนับร้อยคน เดินทางมารอเข้าคิวลงทะเบียนโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตั้งแอปฯ “เป๋าตัง” และสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน

ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ต่างนำโทรศัพท์เครื่องใหม่มาขอให้เจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยดำเนินการลงทะเบียนให้ โดยภายในธนาคารมีประชาชนแน่นขนัดจนคิวล้นออกมาด้านนอกธนาคาร บางส่วนต้องนั่งรอตามบันไดและริมถนนหน้าธนาคาร รวมถึงบริเวณสนามกีฬาฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีประชาชนปูเสื่อนั่งรอเรียกคิวหมายเลขของตนจากเจ้าหน้าที่


ประชาชนส่วนใหญ่ต่างหวังจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ที่จะเปิดให้ใช้จ่ายครั้งแรกในวันที่ 20 ตุลาคม 2568 โดยผู้ได้รับสิทธิ์จะได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐสูงสุด 2,400 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ และต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายใน วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23.00 น.

ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้าธนาคารก็ไม่แพ้กัน เมื่อมีพ่อค้าแม่ค้ารถเข็นและรถจักรยานยนต์พ่วงข้างจำนวนมาก มาจอดขายอาหารและเครื่องดื่มให้กับชาวบ้านที่มารอคิวลงทะเบียน มีทั้งลูกชิ้นนึ่งหมูย่าง ใส้กรอก และน้ำดื่มหลากหลายชนิด ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้มารอคิวซื้อหากันอย่างคึกคักจนขายดีเป็นพิเศษ

แม่ค้ารายหนึ่งเผยว่า “โครงการคนละครึ่งรอบนี้ช่วยให้ขายของดีขึ้นตั้งแต่ยังไม่เริ่มใช้เงินในโครงการจริง ๆ อยากให้รัฐออกโครงการแบบนี้ต่อเนื่อง เพราะช่วยให้เศรษฐกิจในชุมชนขยับตัวได้ดีมาก”

ด้าน นายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอภูเขียว ได้เดินทางมาพบปะประชาชนและเจ้าหน้าที่ธนาคาร หลังทราบข่าวว่ามีประชาชนจำนวนมากมารอลงทะเบียนโครงการดังกล่าว โดยได้ให้กำลังใจทั้งเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน พร้อมขอให้มั่นใจว่าทุกคนที่ได้รับบัตรคิวจะสามารถลงทะเบียนได้ครบตามลำดับ ซึ่งธนาคารกรุงไทยยืนยันว่าสามารถให้บริการได้วันละประมาณ 300 ราย

สำหรับโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” กระทรวงการคลังจัดทำขึ้นเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงปลายปี ระหว่างเดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 ภายใต้งบประมาณรวม 44,000 ล้านบาท โดยใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2569 และงบกลางเพิ่มเติมอีก 19,000 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการจะเริ่มเปิดให้ใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ไปจนถึงสิ้นเดือน ธันวาคม 2568 รวมระยะเวลา 2 เดือนเต็ม 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top