ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุผลสอบเงิน 12 ล้านเป็นของทวีวัฒน์จริง เงินจำนวนดังกล่าว ถูกถอนมาจากบัญชีธนาคารกสิกรไทยในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 63 แต่เป็นการทยอยถอนออกมา พร้อมยอมรับ การนำเงิน 12 ล้าน เก็บไว้ในกล่อง ภายในคอนโดมิเนียม ซึ่งไม่ได้พักอาศัย ผิดนิสัย ของคนปกติ จึงต้องตรวจสอบ แต่ที่มาของเงิน โดยพรุ่งนี้นัดหารือกับหน่วยงาน 3 ต่อ 10 โมงเช้า ถกเรื่องนี้
วันที่ 10 มิถุนายน 25268 10.30.น พลตำรวจโทสุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า เบื้องต้นทางเรายังทำการสอบปากคำนายทวีวัฒน์ ในฐานะพยาน ซึ่งเจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์มาก มีการส่งหลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโอจากนิติบุคคลที่เห็นกล่องลังว่าอยู่ภายในห้องและมีน้ำรั่วซึมจริงตามคำให้การ ซึ่งตำรวจได้เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำไปแล้ว
เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าเงินดังกล่าวเป็นของนายวิวัฒน์จริง แต่ต้องไปตรวจสอบว่าเงินถูกถอนมาจากบัญชีใคร วันที่ไปถอนเจ้าตัวไปเองหรือใครไปถอนรวมถึงเงินมาอยู่ในห้องนี้ได้อย่างไร ซึ่งเงิน 12 ล้านนี้ ถูกถอนมาในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 63 แต่ไม่ได้ออกมาครั้งเดียว จึงต้องตรวจสอยในประเด็นนี้เพิ่มเติม / ส่วนก่อนหน้านี้ทางนายทวีวัฒน์ได้นำหลักฐานมาชี้แจง ผู้สื่อข่าวถามว่าหลักฐานสอดคล้องกับเงิน 12 ล้านหรือไม่ พลตำรวจโทสุรพล บอกว่า หลักฐานเส้นทางการเงินที่นำมายื่นยังไม่สอดคล้องกับรายได้ 12 ล้านที่เบิกออกมา ซึ่งจากการสอบปากคำเจ้าตัวมีการชี้แจงแล้วว่าถอนเงิน 12 ล้านออกมาเพื่อไปทำอะไร โดยหนึ่งในเหตุผลมีเรื่องของการเล่นการเมืองอยู่ด้วย แต่รายละเอียดต่างๆอยู่ในสำนวน
ส่วนตัวพบตำรวจโทสุรพล มองว่าการถอนเงินเอกมาแล้วใส่ไว้ในห้องเฉยๆ ผิดวิสัยคนปกติ ซึ่งหากเป็นตนจะนำไปไว้ในธนาคาร เพราะยังได้ดอกเบี้ย แต่ก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าของเงินที่จะเอาไปไว้ไหนก็ได้ ซึ่งตำรวจจะขอเวลาในการสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนตัวมองว่าคงไม่เป็นการจัดฉาก อย่างไรก็ตามจะเรียกตัวภรรยาของนายทวีวัฒน์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง และในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านโทรศัพท์ว่า วันพรุ่งนี้ หน่วยงาน 3 ป. ประกอบด้วย บก.ปปป. / ป.ป.ช. / ป.ป.ท. จะเข้าหารือและประสานข้อมูลกับตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนและขอเส้นทางการเงินกรณีเงิน 12 ล้านบาท ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 / โดยทางนายทวีวัฒน์ อ้างว่าเบิกเงินดังกล่าวมาในปี 63 ว่ามีการเบิกจ่ายจากธนาคารใด วันเวลาไหน และเบิกมาจำนวนเท่าไร อีกทั้งยังต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการว่าความที่เจ้าตัวอ้างว่าเป็นทนาย หรือเป็นเงินที่ได้มาแบบไม่ถูกต้อง
รวมถึงนายทวีวัฒน์จะต้องชี้แจงเหตุผลในการถอนเงินสดดังกล่าวด้วย และเหตุใดทำไมไม่เอาเงินสดไว้ในตู้เซฟ ส่วนตัวมองว่าไม่สมเหตุสมผล ซึ่งไม่ใช่แค่ตอนที่มองแบบนี้ สื่อและประชาชนรวมถึงหน่วยงานที่ตรวจสอบการทุจริตทุกคน ก็มองไปในทางเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ขอให้ประชาชนมั่นใจการทำงาน ขอเวลาให้เจาหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเรื่องนี้สักระยะ รับรองได้คำตอบแน่นอน ส่วนกรณีนี้จะโยงกับเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. ชุดเดียวกับของบิ๊กจ. หรือไม่นั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยังไม่สามารถตอบได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี