11 มิถุนายน 2568 เมื่อกลางดึก 10 มิถุนายน เวลา 23.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ชาย พลศรี พงส.สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์ชนคนข้ามถนนมีผู้เสียชีวิตบริเวณถนนสุขสวัสดิ์ปากซอยสุขสวัสดิ์ 78 (ซอยวัดชังเรือง) ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลนมุ่งหน้าเข้า อ.พระสมุทรเจดีย์ บริเวณเลนขวาสุดติดกับเกาะกลาง พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อภายหลัง นายปิยะพงษ์ อายุ 40 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นถนน สวมเสื้อยีนส์แขนสั้นสีน้ำเงิน สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน แขนขาและคอหัก

ห่างกันประมาณ 10 เมตร พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีเทา ทะเบียนกทม. เปิดไฟฉุกเฉิน สภาพด้านหน้ารถพัง ฝากระโปรงยุบ กระจกหน้าแตก โดยมี นายพงษ์ณพัฒน์ อายุ 29 ปี เจ้าของรถยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห่างกันประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ยาริส สีขาว ทะเบียนกทม. จอดชิดติดริมฟุตบาท บริเวณกระจกมองข้างด้านขวาหักจนห้อยลงมา ประตูขวาบุบ มีนายณัฐพล อายุ 38 ปี เจ้าของรถยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่

จากการสอบถาม นายณัฐพล ทราบว่า ตนขับรถมาจากฝั่งอำเภอเมืองสมุทรปราการเพื่อจะไปส่งเอกสารให้กับบ้านลูกค้าย่านพระประแดง ในระหว่างนั้นตนขับมาในช่องเลนที่ 3 เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายมีสิ่งของมากระทบข้างรถด้าน จนกระจกมองข้างหักห้อยลงมา ซึ่งในตอนนั้นตนไม่ทราบว่ามีคนวิ่งมาชน จึงพยายามขับรถชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อลงไปดู ก่อนที่จะเห็นรถเก๋งอีกคันจอดอยู่กลางถนนในสภาพด้านหน้าพังยับและกระจกแตก จึงรีบเดินมาดูกระทั่งพบว่ามีผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่พบพื้นถนน จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ

สอบถามนางสาวกนกอร อายุ 35 ปี แฟนของผู้เสียชีวิต นั่งร่ำไห้เสียใจอยู่บนเกาะกลางถนน โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันปฐมพยาบาลอยู่ไม่ห่าง ก่อนที่จะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยน้ำตานองหน้าสะอื้นตลอดเวลาว่า ผู้ตายมีอาชีพเป็นช่างปูกระบะอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนตนทำงานอยู่ที่เดียวกันโดยคบหากันอยู่ไม่ถึงเดือน ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายเพิ่งเลิกงานกลับมาถึงห้องพักซึ่งอยู่อีกฟากของจุดเกิดเหตุ ได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเรื่องเงินถึงขั้นถูกผู้ตายกระโดดถีบ

ตนพยายามวิ่งหนีออกมาเพื่อให้ผู้ตายสงบสติอารมณ์ ก่อนที่ตนจะวิ่งข้ามถนนมาโบกแท็กซี่เพื่อหนีผู้ตายเกรงจะถูกทำร้ายอีก แต่ผู้ตายวิ่งตามหลังมาซึ่งคาดว่าน่าจะมาง้อตน ก่อนที่จะถูกรถชนจนร่างลอยกระเด็นตกลงมากระแทกพื้นเสียชีวิต ตนตกใจทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้และร้องให้คนช่วยแต่ไม่ทัน

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนเชิญตัวคนขับรถทั้ง 2 คันไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ พร้อมมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ก่อนจะประสานญาติให้เดินทางมาติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

.012