ให้ออกไว้ก่อน
‘หมอแอร์’คดียาเสียสาว
ส่งฝากขัง-ค้านประกัน
รพ.ตำรวจ สั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง-ให้ออกจากราชการไว้ก่อน “หมอแอร์” ระหว่างการดำเนินคดีขายยาเสียสาว พนักงานสอบสวน บก.ปส.1 คุมตัวไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังผัดแรกพร้อมคัดค้านการประกันตัว
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมด้วยตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข นำหมายศาล เข้าตรวจค้นห้องพัก ภายในแฟลตตำรวจ พื้นที่เขตพญาไท กทม.พบของกลาง ยานอนหลับ ส่วนผสมยาเสียสาว ซึ่งจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 จำนวนมาก โดยห้องพักดังกล่าวเป็นของ พ.ต.อ.พญ.อัญชุลี เพ็ชรรัตน์ญ หรือธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์ หมอชื่อดัง โดยยาที่เป็นของกลางถูกสั่งซื้อโดยหมอแอร์ มีผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 7 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีในกรณีการลักลอบจำหน่ายยาดังกล่าว ว่า พล.ต.ต.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ กล่าวถึงคืบหน้าทางคดี ว่าขณะนี้ได้มีการตรวจสอบกรณีการแอบอ้างคลินิก 11 แห่งใน กทม.สั่งซื้อยาดังกล่าว รวมทั้งการอ้างชื่อผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วในการกระทำผิดด้วย ซึ่งพบเงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท
พล.ต.ต.หญิง ศิริกุล กล่าวต่อว่า พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) ได้พิจารณาข้อมูลจากการสืบสวนและพฤติการณ์ทางคดีแล้ว ได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 105 , 119 และ 179 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2547 มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และอาศัยอำนาจตามมาตรา 105 , 131 และ 179 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการให้ออกจากราชการ พ.ศ.2547 ข้อ 3 (1) และข้อ 8 มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ในระหว่างการดำเนินคดี
เวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ที่ บช.ปส.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปส.1 ได้คุมตัว พ.ต.อ.พญ.อัญชุลี หรือหมอแอร์ ผู้ต้องหาในฐานความผิดร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ขึ้นรถคุมขัง เพื่อไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังเป็นครั้งแรก มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-22 มิถุนายน 2568 โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์ สวมหมวก ใส่แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า รวมทั้งสวมใส่เสื้อแขนยาว โดยที่บริเวณข้อมือทั้งสองข้าง สังเกตเห็นว่ามีการใช้เสื้อคลุมปิดบังเครื่องพันธนาการ และเจ้าตัวพยายามหลบด้านหลังเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากองทัพสื่อมวลชน จะพยายามสอบถามว่า หมอแอร์ กระทำจริงหรือไม่ รวมทั้งมีความกังวลกับกรณีที่เกิดขึ้นหรือไม่ หรือมีอะไรที่อยากจะขอโทษสังคมหรือไม่ แต่หมอแอร์ ก็ไม่ตอบคำถามใดๆ รวมทั้งพยายามหันหลังและก้มหน้าหลบสื่อ ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับกุมในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนก็คุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้
ขณะที่นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความของหมอแอร์ เปิดเผยว่า หมอแอร์ ไม่ขอยื่นประกันตัว ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน และชั้นศาล โดยหมอแอร์ รับสภาพกับกรณีที่เกิดขึ้น แต่พอถูกกระแสโจมตีหนัก จึงอยากสงบสติอารมณ์ก่อน และค่อยคิดว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิต ขณะนี้ยังไม่คุยเรื่องการต่อสู้คดี ให้คุณหมอ เข้าไปในเรือนจำก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นายนิติศักดิ์ เปิดเผยด้วยว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ขยายผลทางคดี โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมายเพิ่มเติมอีก 11 จุดนั้น เชื่อว่าทางตำรวจต้องดำเนินการเพื่อแสวงหาพยานหลักฐาน ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ที่กังวลคือไม่รู้ว่าการตรวจค้นจะพบอะไรบ้าง ตนเป็นทนายความ ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง รู้เฉพาะในส่วนที่รับผิดชอบ มีสิทธิเต็มที่ในการสู้คดี แต่จะผิดหรือไม่ผิดไม่สามารถตัดสินได้ ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี