16 ปี พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ (พกฉ.) พื้นที่แห่งแรงบันดาลใจใต้ร่มพระบารมี สู่วิถีเกษตรยั่งยืน
วันนี้ (12 มิ.ย.) พันจ่าเอกประเสริฐ มาลัย ผอ.สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (พกฉ.) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 16 ปี พกฉ.มุ่งมั่นในการเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพพระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมวงศานุวงศ์ด้านการเกษตร เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอันดับต้นๆของประเทศที่ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากประชาชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ในการเข้ามาเยี่ยมชม และเก็บเกี่ยวความรู้ด้านการเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง จากการดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆ ของพิพิธภัณฑ์ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 มีประชาชนเข้าเยี่ยมชมและเรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออนไซต์มากกว่า 500,000 คน ทั้งที่มาเป็นหมู่คณะ และครอบครัว โดยเข้ามาเรียนรู้ในงานมหกรรม นิทรรศการหมุนเวียน ตลาดเศรษฐกิจพอเพียง โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมท่องเที่ยวสุขสันต์ ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่จัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี”
นอกจากนี้ได้ขยายผลการดำเนินงานภารกิจการเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพกษัตริย์เกษตร เผยแพร่องค์ความรู้และขยายผลหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง สู่สังคมทั่วประเทศ ประกอบด้วย โครงการสร้างความร่วมมือเชิงเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนงานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและส่งมอบฐานการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง โดยส่งมอบรวมแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 69 จ.พระนครศรีอยุธยา โรงเรียนแปลงไผ่-ขุนคลัง จ.ฉะเชิงเทรา โรงเรียนวัดหุบรัก(ไพรประชาอุปถัมภ์) จ.นครปฐม โดยในปี 2568 ตั้งเป้าหมายส่งมอบฐานการเรียนรู้ฯ เพิ่มเติมอีก 1 แห่ง ที่วัดเทพสรธรรมาราม จ.ปทุมธานี เพื่อเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ รวมถึงสร้างการสร้างการมีส่วนร่วม เรียนรู้การพึ่งพาตนเองให้กับชุมชน และเครือข่ายสถาบันการศึกษาในบริเวณโดยรอบ เพื่อพัฒนาและยกระดับการขยายผลหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการเกษตรไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ได้ขยายผลความสำเร็จตลาดเศรษฐกิจพอเพียงสู่ชุมชน จากความสำเร็จของการจัดงานตลาดเศรษฐกิจพอเพียง ตลาดแห่งองค์ความรู้ มิตรภาพ และการแบ่งปัน ที่จัดอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี พื้นที่จุดประกายความคิดและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วม และขับเคลื่อนงานเชื่อมโยงกับเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ การถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์การทำเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงสู่ระดับชุมชน เพื่อเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่ยั่งยืนหมุนเวียนในชุมชนที่ขับเคลื่อนงานร่วมกับศูนย์เครือข่ายพิพิธภัณฑ์ฯ ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายฯ ทั้ง 95 แห่ง ทั่วประเทศ เกิดเป็นตลาดเศรษฐกิจพอเพียง 6 แห่ง ซึ่งเป็นกำลังที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ ตลาดซาวไฮ่ จ.อุทัยธานี กาดขี้เมี่ยงจ.แพร่ ตลาดปันรักษ์ขุนเลย จ.เลย ตลาดในสวน@อเร็งญา จ.ขอนแก่น ตลาดชุมชนดอนปู่ตาบ้านบัว” จ.สกลนคร และตลาดเศรษฐกิจพอเพียงวัดดอยท่าเสา จ.อุตรดิตถ์ ทั้งหมดนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของพี่น้องเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ที่เป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่องค์ความรู้ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่พร้อมส่งต่อองค์ความรู้และเป็นต้นแบบความพอเพียงให้กับคนในชุมชน และคนรุ่นใหม่ ได้เห็นถึงโอกาสในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง และยั่งยืน
พันจ่าเอกประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในปีที่ 16 ของ พกฉ.ตั้งใจที่จะเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่สร้างชีวิต ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีเป้าหมายในการเผยแพร่พระเกียรติคุณ และพระอัจฉริยภาพกษัตริย์เกษตร เศรษฐกิจพอเพียง ที่นำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ เกิดอาชีพ เกิดรายได้ พัฒนาไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี