อุตุฯเตือน51จว.
เฝ้าระวังฝนถล่ม
พิษพายุ‘หวู่ติบ’
ภาคอีสานรับมือ
นายกฯ ถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือฝนหนักในเมียนมา ส่งผลให้สารปนเปื้อนลงสู่แม่น้ำกก กระทบจังหวัดภาคเหนือ กรมอุตุฯเตือนพายุ “หวู่ติบ” ทำฝนตกหนักหลายพื้นที่ภาคอีสาน แจ้ง 51 จังหวัด รับมือฝน ส่วนสกลนคร-แม่ฮ่องสอน ฝนถล่ม ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม-ดินสไลด์-น้ำป่าไหลหลาก
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมรับมือในทุกมิติจากสถานการณ์ฝนตกหนักในประเทศเมียนมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำกก เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีสารปนเปื้อนบางชนิดมากับกระแสน้ำ โดยอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และเชียงราย ซึ่งเส้นทางน้ำเชื่อมต่อกับเมียนมา โดยรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์สารปนเปื้อนในแม่น้ำกกอย่างใกล้ชิด
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานประชุมและมอบนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์และการแจ้งเตือนภัยสาธารณภัยในระดับพื้นที่ (จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ) โดยนายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องข้อมูลข่าวสารเมื่อเกิดเหตุต้องรีบแจ้งชาวบ้านเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ได้ทัน สำหรับพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และยโสธร ในทางวิชาการตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่าแอ่ง ซึ่งประกอบด้วย แม่น้ำโขง แม่น้ำมูล แม่น้ำชี โดยปีนี้ฝนมาแล้ว ซึ่งจะมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ได้รับการประสานจากกรมชลประทาน ว่าได้เคลียร์ทางน้ำ จัดระเบียบการจราจรทางน้ำให้ไหลได้และลงสู่แหล่งเก็บน้ำต่างๆ ทำให้โอกาสเกิดน้ำท่วมจนมิดหลังคา น้อยลง แต่จะไม่ท่วมเลยคงไม่ได้หากปริมาณฝนหนัก นี่คือความจำเป็นที่ต้องทำงานเชิงรุก
ขณะที่ น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง พายุ “หวู่ติบ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ฉบับที่ 12 มีใจความว่า เมื่อเวลา 04.00 น.วันเดียวกันนี้ พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงแล้ว มีศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศใต้ของเกาะไหหลำ ประมาณ 100 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าในวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้ จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ เข้าประเทศจีนตอนใต้ จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ตามลำดับ
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าว โดยศูนย์กลางของพายุลูกนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่อาจทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนครปฐม ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ระนอง และพังงา ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ที่ จ.สกลนคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอิทธิพลพายุหวู่ติบ ได้ส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนองนานหลายชั่วโมง ตั้งแต่กลางดึกจนถึงเช้า ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันหลายจุด โดยเฉพาะเขตเทศบาลนครสกลนคร น้ำระบายไม่ทันจนท่วมขังถนน เช่น ถนนเสรีไทย ถนนประชาอุทิศ ถนนนิตโย ส่วนชุมชนต่างๆ เช่น ชุมชนรุ่งพัฒนา ชุมชนธาตุดูม 2 ชุมชนหนองสนม มีน้ำท่วมสูง การเดินทางสัญจรไปมายากลำบาก รถเล็กไม่สามารถผ่านไปได้ ขณะที่ชุมชนใกล้แหล่งน้ำ จุดรับน้ำหนองสนม ต้องขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และนำรถยนต์ออกจากบ้านพัก ไปจอดไว้ในที่ปลอดภัย ซึ่งทางตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร ปภ.สกลนคร ได้ออกช่วยเหลือประชาชน และเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ โดยเฉพาะถนนที่บางจุดเป็นอันตรายต่อการสัญจรไปมา
อีกด้านหนึ่ง ว่าที่ พ.ต.ยุทธนา เจ้าดูรี นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า หลังจากช่วงค่ำวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนัก ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหัวน้ำแม่ฮ่องสอน หมู่ 4 ต.ห้วยปูลิง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ว่าได้เกิดดินสไลด์ขวางการจราจร และมีน้ำป่าไหลหลาก จึงมอบหมายให้กลุ่มงานความมั่นคง ประสานผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว เพื่อเร่งเข้าตรวจสอบและแก้ไขปัญหา โดยพบว่าดินสไลด์ได้ขวางเส้นทางจราจร จนไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรเข้าออกหมู่บ้านได้ ส่วนน้ำป่าหลากท่วมฝายการเกษตรที่ถูกเตรียมไว้สำหรับทำนา จนได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ทางผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งเตือนชาวบ้าน ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางเพื่อความปลอดภัย โดยปัจจุบันยังคงมีฝนตกเล็กน้อย นอกจากนี้ได้แจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี