“สมศักดิ์” ขน สส.สุโขทัย เพื่อไทย ตรวจโครงการซ่อมตลิ่งชั่วคราวริมแม่น้ำยม หลังช่วยดันงบประมาณซ่อมแซมสำเร็จ ด้านประชาชน แห่ขอบคุณช่วยป้องกันน้ำท่วมได้ 5 ตำบล ไม่ต้องลำบากเหมือน 2 ปีที่ผ่านมา เผย เสร็จทันน้ำมา มั่นใจ แข็งแรง-รับน้ำได้ 

วันที่ 14 มิถุนายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.อนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ สส.สุโขทัย น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ สส.สุโขทัย นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งชั่วคราวริมแม่น้ำยม หมู่ที่ 6 ตำบลวังใหญ่ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย โดยได้มีพี่น้องประชาชนจังหวัดสุโขทัย กว่า 300 คน เดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมติดป้ายขนาดใหญ่ข้อความว่า “พวกเราชาวสุโขทัย ขอขอบคุณ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ผลักดันโครงการก่อสร้างตลิ่งวังใหญ่ ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย” โดยโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งชั่วคราวริมแม่น้ำยม บริเวณคอสะพานสิริปัญญารัตน์ ขนาดความยาวไม่น้อยกว่า 126 เมตร ได้รับสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามอำนาจของรองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) จำนวน 4,710,000 บาท เริ่มสัญญา 30 พ.ค.68-26 ต.ค.68 

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจ ที่พี่น้องประชาชนเขียนให้กำลังใจ หลังตนได้มีความเห็นเกี่ยวกับแพทย์ 4 ราย ที่ถูกตรวจสอบจริยธรรม จนเจอกลุ่มผู้ชุมนุมมาคัดค้าน และปรากฎตามภาพข่าวว่า จะมีการปารองเท้าด้วย โดยตนเป็น สส.ตั้งแต่ปี 2526 ยังไม่เคยพาพี่น้องประชาชน ไปเดินขบวนที่กรุงเทพฯเลย แต่เรื่องนี้ ก็ขอให้พี่น้องประชาชน ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะตนทำอย่างเต็มที่แล้ว ตามอำนาจที่มี และยังคงเดินหน้าแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างวันนี้ ก็มาติดตามการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งชั่วคราวริมแม่น้ำยม เพราะหลังเจอน้ำท่วมหนักตั้งแต่ปี 2566-2567 ได้รับความเสียหาย ก็มีการของบประมาณซ่อมแซม แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา จนตนช่วยติดตามประสานนายสุริยะ จนได้งบประมาณมาซ่อมทันน้ำที่จะมาถึงในปีนี้แล้ว 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า แต่ปัญหาถึงแม้จะได้งบประมาณมาซ่อมแซมแล้ว แต่ก็ไม่มีใครยอมมารับเหมา ตนจึงคิดว่า ถ้าไม่เข้ามาช่วยทำเอง ก็จะเกิดความเสียหายกับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะจากข้อมูลหลังตลิ่งขาด น้ำได้เข้าท่วมพื้นที่ 5 ตำบล มีพื้นที่ไร่นา ได้รับความเสียหาย 14,000 ไร่ มูลค่าความเสียหายกว่า 19 ล้านบาท ตนจึงขอให้บริษัทลูกหลานช่วยเข้ามาทำ เพราะไม่มีใครยอมมารับเหมา ตนจึงขอให้พี่น้องประชาชนจังหวัดสุโขทัย ช่วยเป็นพยานด้วยว่า ตนไม่ได้วิ่งหางาน เพราะไม่รับงานในจังหวัดสุโขทัย แต่รองผู้ว่าฯสุโขทัย และผู้น้ำท้องถิ่น ได้เข้ามาขอให้ตนช่วยดำเนินการให้ เนื่องจากห่วงว่าจะไม่ทันช่วงน้ำหลาก ซึ่งตนเห็นว่า ถ้าไม่ซ่อมแซมจุดนี้ ประชาชน 5 ตำบล ต้องได้รับความเดือดร้อน จึงยอมดำเนินการให้ และสั่งเร่งรัดให้เสร็จโดยเร็ว 

“สิ่งที่อยากบอก เวลาก่อสร้างไม่ใช่เห็นรูปร่างก็แล้วเสร็จ แต่การบดอัด ต้องมีความแน่นด้วย เพราะมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้น การก่อสร้าง ถ้าไม่มีรถบดอัด ก็ไม่สามารถหยุดการซึมของน้ำได้ โดยการก่อสร้างครั้งนี้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องชั่วคราว แต่ก็ทำให้อย่างแน่นหนา แข็งแรงอย่างเต็มที่ สามารถป้องกันน้ำได้ ส่วนแบบถาวร ผมก็ได้มีการหารือกับผู้ว่าฯสุโขทัยแล้วว่า จะมีการนำเสนอโครงการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรจังหวัดพิษณุโลก เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป” นายสมศักดิ์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างลงพื้นที่ ได้มีตัวแทนประชาชนจังหวัดสุโขทัย ในพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม ได้พูดขอบคุณนายสมศักดิ์ ที่ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนได้งบประมาณมาซ่อมแซมได้สำเร็จ ซึ่งทำให้ชาวบ้านรู้สึกอุ่นใจ ที่ไม่ต้องทนลำบากกับน้ำท่วมเหมือน 2 ปีที่ผ่านมา โดยชาวบ้านคิดว่า จุดนี้จะถูกทอดทิ้งไม่ได้รับการช่วยเหลือดูแล เพราะไม่มีงบประมาณ แต่พบทราบข่าวว่า นายสมศักดิ์ ช่วยประสานงบประมาณมาให้แล้ว ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า เดือนที่แล้ว ตนมาจังหวัดสุโขทัย ก็ทราบว่า การก่อสร้างตรงนี้มีปัญหา เนื่องจากไม่มีผู้รับเหมามารับจ้าง เพราะเป็นคันดินชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้พี่น้องประชาชน 5 ตำบล ได้รับความเสียหาย หากน้ำท่วมจำนวนมาก จึงต้องคิดหาทางช่วย โดยได้ผู้ประกอบการลูกหลานให้มาช่วยรับเหมา ซึ่งให้นำเครื่องมือที่มีคุณภาพมาดำเนินการ และทำให้ทันกับน้ำ โดยตนประเมินดูแล้ว ประมาณวันที่ 20 มิ.ย.68 น่าจะเสร็จเรียบร้อย ซึ่งมั่นใจว่า การบดอัด ความคงทน จะแข็งแรงอยู่ได้ เพราะได้ให้ทำเกินสเปคที่มีอยู่ จึงขอขอบคุณทุกฝ่าย โดยพี่น้องประชาชนที่กังวลว่าน้ำจะพังจุดนี้อีก ก็ยืนยันได้ว่า ไม่น่าจะมีปัญหา