ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกรวบเจ้าของร้านเหล้าเถื่อน แฝงนำสาวลาวค้ากามลูกค้าเมืองนครนายก
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ทรงกรด เกริกฤตยา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์,พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัล, พ.ต.อ.รัฐภูมิ กุสุมาลย์, พ.ต.อ.เศรษณัณข์ ปิยะสมบูรณ์, พ.ต.อ.จตุรภัทร ภิรมย์แก้วรอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.วริษฐ์ ปทุมารักษ์ ผกก.2 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ณรงเวทย์ จิวเดช สว.กก.2 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม 1.นายอภิรักษ์ฯ อายุ 45 ปี 2. MISS MALAYTHIP อายุ 43 ปี สัญชาติลาว 3.MISS MALAYPHONE อายุ 35 ปี สัญชาติลาว 4 .MISS BOUNNAM อายุ 32 ปี สัญชาติลาว 5.MISS PHENGKOMPHANH อายุ 25 ปี สัญชาติลาว 6.น.ส.ปาริตาฯ อายุ 19 ปี
ผู้ต้องหาที่ 1 และ ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นประทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆอันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร, ร่วมกันรับบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, เข้าไปมั่วสุมในสถานการค้าประเวณีเพื่อประโยชน์ในการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น” ผู้ต้องหาที่ 3 ถึง 5 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน, เข้าไปมั่วสุมในสถานการค้าประเวณีเพื่อประโยชน์ในการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น ผู้ต้องหาที่ 6 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลตามถนนหรือสาธารณสถาน หรือกระทำการดังกล่าวในที่อื่นใด เพื่อการค้าประเวณี,เข้าไปมั่วสุมในสถานการค้าประเวณีเพื่อประโยชน์ในการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น”
พร้อมด้วยของกลาง 1.ธนบัตรไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ, ธนบัตร ฉบับละ 500 บาท จำนวน 2 ใบ 2.ถุงยางอนามัย จำนวน 1 ใบ 3.บิลที่ลงจำนวนเงินค่าดื่มของพนักงานในร้าน และบิลที่ลงชื่อพนักงานหญิงออกไปให้บริการ สถานที่จับกุม บริเวณภายในร้านเหล้าในพื้นที่ หมู่ 3 ต.บ้านใหญ่ อ.เมือง จ.นครนายก
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. สืบทราบว่าร้านเหล้าในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครนายก มีการลักลอบเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีการขายบริการทางเพศให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการอำพรางแฝงตัวเป็นลูกค้าเข้าไปใช้บริการภายในร้านดังกล่าว โดยได้นั่งดื่มกินภายในร้านต่อมา น.ส.ปาริตาฯ อายุ 19 ปี ได้มาเสนอขายบริการทางเพศโดยคิดค่าบริการทางเพศในราคา 2,000 บาทโดยทางร้านจะได้รับส่วนแบ่ง จำนวน 500 บาท ส่วนที่เหลือจะเป็นค่าตัวของ น.ส.ปาริตาฯ เมื่อมีการตกลงชื้อขายบริการทางเพศแล้ว น.ส.ปาริตาฯ จะนำเงินจำนวน 2,000 บาท ไปมอบให้ ผู้ต้องหาที่ 2 อายุ 43 ปี สัญชาติลาว ซึ่งทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์/ผู้ดูแลร้าน โดย น.ส.ปาริตาฯ จะได้รับส่วนแบ่งจำนวน 1,500 บาททางร้านได้รับ 500 บาท หลังจากเสร็จกิจ
จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 ปคม.ชุดจับกุมได้เข้าตรวจสอบภายในร้านดังกล่าว จากการตรวจสอบพบนายอภิรักษ์ฯ อายุ 45 ปี และ MISS MALAYTHIP อายุ 43 ปี สัญชาติลาว แสดงตัวว่าเป็นผู้ดูแลร้านร่วมกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงขอตรวจสอบเอกสารการเปิดสถานบริการ แต่ทั้ง 2 ผู้ต้องหา ไม่สามารถนำเอกสารดังกล่าวมาแสดงได้ และไม่มีใบอนุญาตแต่อย่างใด จากการตรวจสอบภายในร้านพบบิลค่าอาหารที่ลงจำนวนเงินค่าดื่มของพนักงานในร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา และทำการจับกุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 ให้การยอมรับว่า เปิดสถานบริการดังกล่าวจริงและไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการแต่อย่างใด ผู้ต้องหาที่ 3 ถึง 5 ให้การยอมรับว่าเป็นคนสัญชาติลาวได้เข้ามาในราชอาณาจักรในสถานะนักท่องเที่ยวและไม่มีใบอนุญาตให้ทำงาน
แต่อย่างใด ผู้ต้องหาที่ 6 ให้การยอมรับตลอดข้อกล่าวหา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี