ซุบซิบกทม.

มีการร้องทุกข์พร้อมด้วยข้อเสนอแนะมาจากประชาชนคนพื้นที่เขตสายไหมว่า อยากให้ กทม.พิจารณาก่อสร้างโรงพยาบาลสายไหมบ้าง เพราะปัจจุบันพื้นที่เขตสายไหมมีประชาชนหนาแน่นสูงมาก ที่สำคัญการเดินทางไปใช้โรงพยาบาลรัฐฯของกระทรวงสาธารณสุขนั้นค่อนข้างไกล หรือถ้าใช้บริการเอกชนก็มีราคาสูง ยุคนี้เป็นยุคผู้สูงอายุครองเมือง ดังนั้น กทม.ไม่ควรมองข้ามความเดือดร้อนความจำเป็นความต้องการของประชาชน...ที่จริงการร้องทุกข์ดังกล่าวก็สอดคล้องต้องกันกับแนวทางนโยบายของ กทม.อยู่แล้ว เพียงแต่การกระจายข่าวโครงการสำคัญๆที่ฝ่ายบริหารวางเอาไว้ยังไม่เข้าถึงประชาชนๆยังไม่รับรู้ข้อมูลนโยบายเชิงลึก เท่าที่“ไผ่ฎำ”ทราบ เรื่องการขยายโอกาสทางสาธารณสุขเป็นแพลนหรือเป้าหมายหลักด้านนโยบายอนาคตอันใกล้ไว้ชัดที่จะก่อสร้างโรงพยาบาลของ กทม.สนองตอบโจทย์ความต้องการของคนพื้นที่เขตสายไหม และไม่เฉพาะในเขตสายไหมเท่านั้น เขตภาษีเจริญ เขตทุ่งครุ ผู้ว่าฯชัชชาติ ก็เขียนแผนไว้โดดเด่น รวมทั้งให้ความสำคัญครอบคลุม  และที่แลดูเหมือนโครงการจะล่าช้า อาจเกี่ยวกับงบประมาณ หรือบุคลากรทางการแพทย์(กำลังทั้งหมด)ซึ่งตรงนี้ต้องใช้ระยะเวลาเดินงาน แต่ว่ากันว่าการดำเนินโครงการใดๆภายใต้การบริหารจัดการของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ที่การทำงานมีผลสำรวจความพึงพอใจสูงถึง 64.12 เปอร์เซ็นต์ อันถือว่าผ่านการสำรวจของประชาชนผู้ใช้บริการนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ว่าฯกทม.ภูมิใจอย่างมาก เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาเป็นผู้ว่าฯกทม.โดยผ่านการเลือกตั้งของประชาชนต่างมีความยากสาหัสทีเดียวเกี่ยวกับการบริหารจัดการอย่างลงตัวด้วยข้อจำกัดอุปสรรคบางประการอันต้องใช้เวลา...กระแสความนิยมให้กำลังใจนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ย้อนหลังไปในสมัยที่ นักวิทยาศาสตร์หนุ่มช่วงปลายสมัยแรก(ดร.พิจิตต รัตตกุล) หรือ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าฯกทม.ต่างล้วนได้รับเสียงเชียร์เสียงความไว้วางใจสูงเช่นเดียวกัน ดร.พิจิตต รัตตกุล ถือว่าเป็นผู้ว่าฯกทม.เข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อมชนิดหาตัวจับมาเปรียบเทียบยากมากคนหนึ่งทีเดียว เขาคนนี้ทำงานเคลื่อนที่เร็วไม่น้อยหน้าผู้ว่าฯชัชชาติ ขณะเป็นผู้ว่าฯเสาชิงช้า เพราะเขาทำงานถึงลูกถึงคน ...ส่วน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ท่านได้ชื่อว่าเป็นนักบริหารที่สุภาพกับประชาชนเพื่อนร่วมงานทุกคน ยอมรับเสียงติติงที่พูดกับทีมงานว่า จะสามารถช่วยให้ฝ่ายบริหารปรับกลยุทธ์การทำงานได้ตรงแนวทางกำหนด ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 3 คนที่กล่าวถึงต่างให้ความสำคัญกับเสียงเรียกร้องของประชาชนสูงยิ่งทีเดียว...สำหรับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.นั้นได้ชื่อว่าเปรียบเหมือนเอาแนวทางการทำงานของอดีต 2 ผู้ว่าฯเสาชิงช้ามารวมกันไว้อย่างลงตัว โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ได้ชื่อว่าเป็นผู้ว่าฯกทม.“จอมขยันขมังเวทย์” แน่นอนถ้า การทำงานที่ผ่านมามี สก.เป็นของตัวเองลักษณะชัดๆแน่นๆผลงานจะโดดเด่นกว่านี้ เนื่องจากเป็นผู้ว่าฯกทม.ที่ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ผู้คนสัมผัสได้ง่ายท่ามกลางกระแสกดดันหลายสถานการณ์ แม้จะถูกตำหนิติติงก็ยิ้มรับ แถมยังให้เกียรติเสียงตำหนิ และน้อมรับประกาศเอาเสียงตำหนิทำงานหนักเข้าถึงประชาชน พลิกวิกฤติเป็นโอกาสขับเคลื่อนเมืองเพื่อมุ่งเน้นให้ กทม.ตอบโจทย์คนทุกกลุ่มอย่างลงตัวและยั่งยืน...

ไผ่ฎำ

036