ซุบซิบกทม.
พูดสอดคล้องกันต้องกันระหว่างสภาฯกับฝ่ายบริหาร กทม.ที่ตกลงพร้อมใจจะแก้ไข พ.ร.บ.กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นกฎหมายว่าด้วยกรอบอำนาจหน้าที่ในการทำงานให้รวดเร็วชัดเจนครอบคลุมเกี่ยวกับการบริหารจัดการของหน่วยงานต่างๆ เน้นทันยุคทันสมัย โดยเฉพาะเรื่องของงบประมาณอันเป็นหัวใจหลักของผู้บริหาร กทม.และสภา กทม.ให้ลงตัวเหมาะสมกับสังคมความรับผิดชอบในปัจจุบัน ที่ไม่เคยแตะต้องปรับเปลี่ยนมานานกว่า40ปี ไม่ทันกับการเติมโตของ กทม. ที่เปลี่ยนไปค่อนข้างสูงมาก เช่น เรื่องอำนาจการจัดการมลพิษ ,การจราจร ,ปัญหาเศรษฐกิจ หรือแม้กระทั้งภัยทางด้านธรรมชาติที่กระทบคนกรุง ฯลฯ ไม่ทันยุคทันสมัย ที่แน่ๆการปรับปรุงแก้ไขด้านงบประมาณจะส่งผลให้การบริหารจัดการกรุงเทพมหานครรวดเร็วมีประสิทธิภาพมากขึ้น...แต่ในด้านของการจราจรว่ากันว่าทางสภาฯกทม.เองก็มีความเคลื่อนไหวเห็นตรงกับฝ่ายผู้บริหาร คือ อำนาจการจราจรถึงเวลาแล้วต้องขึ้นตรงกับ กทม. วันนี้ติดขัดที่ตำรวจไม่ยอมคายอำนาจ กระทรวงมหาดไทยก็เมินเฉยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ยังควบคุมบริหารจัดการเอง อันสวนทางกับเมืองที่มีความหนาแน่นอย่าง กทม...และสำหรับประเด็นดังกล่าวได้พบปะประชุมแสดงความคิดเห็นแสดงเจตนากันมาหลายปี(เจตนาฝ่ายเดียว) เกี่ยวกับความพร้อมเรื่องนี้ แต่ติดขัดที่ทางตำรวจเพิกเฉยมาตลอดเช่นกัน ไม่แตกต่างจากหน่วยงาน“ดับเพลิง”ที่เคยอยู่กับตำรวจมาช้านาน กว่า กทม.จะตกมาถึงก็แสนยาก พอได้มาหน่วยงานนี้กลายเป็นสำนักป้องกันฯ สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้รวดเร็ว เหมาะสมกับความเป็นเมือง ...ภาพที่การจราจรของ กทม.กระจุกขึ้นตรงกับตำรวจมองอย่างไรก็ไม่เหมาะสมกับความเป็นเมืองใหญ่ และการเอาจราจรขึ้นตรงกับ กทม.จะเป็นการลดความแออัดทางด้านอำนาจหน้าที่ของตำรวจเห็นชัดทีเดียว ยิ่งกว่านั้นการเอาตำรวจจราจรไว้กับ“เสาชิงช้า” ประชาชนเข้าถึงง่าย รวมทั้งการตอบสนองของประชาชนที่ใกล้ชิดกับหน่วยราชการจะดีขึ้น การแบ่งชั้นวรรณะน้อย การใช้อำนาจเกินหน้าที่น้อย เพราะสายการควบคุมถูกตัดตอนไว้ที่หน่วยงานจราจรของ กทม. หรือวันนั้นอาจเป็นชื่อสำนักที่เหมาะสม หรือสำนักจราจรที่มีอยู่แล้วก็ไม่น่าเกลียดใดๆ วันนี้สำนักจราจร กทม.ทำอะไรไม่ได้มากกว่าไปกว่าการรณรงค์ การขีดสีตีเส้น การประกวดนั่นนี่ฯลฯ ไม่เกี่ยวกับการจัดการจราจรบนท้องถนนเลย ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่ตำรวจจราจรมาอยู่กับ กทม.เสียที ...ที่จริงความเหมาะสมต่างๆไม่จำเป็นต้องเสนอผ่านกระทรวงมหาดไทยเหมือน พ.ร.บ.ทั่วไปเลย เพียงแต่นักการเมืองระดับชาติก้มมองปัญหาพร้อมตั้งคำถามในสภาผู้แทนราษฎรจริงจัง ทุกอย่างจะเข้ารูป ที่ผ่านมาแนวทางที่ว่าตีบตัน ไม่มีกลิ่นออกมาจาก“เสื้อนอก”ระดับประเทศเลยแม้แต่น้อยสุดอนาถใจยิ่ง...
ไผ่ฎำ
036
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี