แรงงานกัมพูชาเชื่อมั่นนายจ้างคืนถิ่นชายแดนจันทบุรี หลังพิสูจน์ชัดข่าวลวงตึงเครียดไม่เป็นความจริง

แรงงานกัมพูชาที่เคยหนีกลับประเทศช่วงเหตุการณ์ความเข้าใจผิดบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จันทบุรี เริ่มทยอยเดินทางกลับมาทำงานแล้ว หลังได้เห็นสถานการณ์จริงว่าชายแดนปกติไร้ความตึงเครียด พร้อมได้รับความมั่นใจจากการประสานงานของนายจ้างชาวไทยที่ดูแลกันเหมือนญาติมิตร การกลับมาครั้งนี้เป็นการ ยืนยันว่าข่าวลวงและข้อมูลบิดเบือนไม่สามารถบั่นทอนความผูกพันและโอกาสในการหารายได้ ของพวกเขาได้

วันนี้ (17 มิ.ย. 68) เวลา 13.00 น. บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เริ่มคึกคักขึ้นอีกครั้ง เมื่อ แรงงานชาวกัมพูชาจำนวน 7 คน ซึ่งทำงานในสถานประกอบการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดบ้านแหลม ได้เดินทางกลับเข้ามาทำงานเป็นวันแรก หลังจากที่ต้องตัดสินใจเดินทางกลับภูมิลำเนาเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา เนื่องจากความตกใจและเข้าใจผิดจากการที่ฝ่ายกัมพูชาปิดประตูรถขนส่งสินค้าโดยไม่แจ้งล่วงหน้า

แรงงานรายหนึ่งเล่าว่า หลังจากกลับถึงบ้านเกิดที่จังหวัดกร็อมเรียง ประเทศกัมพูชา ตนและเพื่อนร่วมงานได้ติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดนอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันนายจ้างชาวไทยก็ไม่เคยทอดทิ้ง พยายามติดต่อประสานงานอย่างต่อเนื่องเพื่อสอบถามความพร้อมในการกลับมาทำงาน เมื่อได้เห็นสถานการณ์จริงตามแนวชายแดน ทำให้เข้าใจว่าไม่ได้มีความตึงเครียดหรือน่ากลัวอย่างที่เป็นกระแสข่าวลือ ตนจึงตัดสินใจกลับมาทำงานแบบไปเช้า-เย็นกลับ โดยมีรายได้วันละ 300 บาท และยังได้รับการดูแลจากนายจ้างเป็นอย่างดีเหมือนคนในครอบครัว แรงงานผู้นี้ยังกล่าวด้วยความหวังว่า จะมีเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาอีกหลายคนที่ตัดสินใจกลับมาทำงานตามปกติเช่นเดียวกับตน

นายโชคชัย นุชเวช ผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า หลังจากที่แรงงานตัดสินใจกลับบ้านไปเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ตนจำเป็นต้องปิดร้านชั่วคราวเพราะขาดแรงงานผลิต อย่างไรก็ตาม ตนได้ติดต่อสื่อสารกับแรงงานอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งชี้แจงสถานการณ์ที่แท้จริงในพื้นที่ว่าไม่มีเหตุการณ์ตึงเครียดหรือน่ากังวลแต่อย่างใด

ขณะนี้แรงงานบางส่วนที่อาศัยอยู่ทางบ้านช่องโดง ตำบลกร็อมเรียง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ได้เริ่มทยอยกลับมาทำงานตามปกติแล้ว โดยมีการปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาเปิด-ปิดด่าน โดยให้แรงงานเลิกงานในเวลา 15.30 น. นายจ้างยังคงพยายามชี้แจงและสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยและการดูแลแรงงานอย่างเต็มที่ เพื่อ สยบข่าวลือและข้อมูลบิดเบือนที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจของแรงงาน

ในส่วนของร้านขายของชำในตลาดบ้านแหลม ซึ่งเคยมีแรงงานกัมพูชาทำงานอยู่ 3 คน และเลือกเดินทางกลับประเทศไปทั้งหมดตั้งแต่วันที่มีการปิดประตูรถขนถ่ายสินค้าฝั่งกัมพูชา ล่าสุดวันนี้ มีแรงงาน 1 ใน 3 คนนั้น ตัดสินใจกลับมาทำงานตามปกติแล้ว

นางสาวทัศนีย์ เขานุกูล นายจ้างคนไทย เจ้าของร้านของชำในตลาดบ้านแหลม เล่าว่า เธอได้โทรศัพท์สอบถามสารทุกข์สุกดิบกับแรงงานของตนอย่างต่อเนื่อง แม้พวกเขาจะกลับไปอยู่ฝั่งกัมพูชาแล้วก็ตาม แรงงานเองก็อยากกลับมาทำงานในไทย แต่ยังคงหวาดกลัวสถานการณ์จากการรับฟังข่าวสารและคำบอกเล่าของชาวกัมพูชาด้วยกันที่มองว่าสถานการณ์ฝั่งไทยอันตราย นางสาวทัศนีย์จึงให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับแรงงานว่าสถานการณ์ฝั่งไทยยังคงเป็นปกติทุกอย่าง และหากต้องการกลับมาทำงาน ตนก็พร้อมรับเสมอและจะดูแลความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่ ขอให้มั่นใจ

นายจ้างไทยมองว่า ข่าวสารที่แพร่กระจายผ่านหลากหลายช่องทาง ซึ่งมีทั้งข่าวเท็จและข่าวลวง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แรงงานกัมพูชาเกิดความตื่นตระหนกและไม่กล้ากลับมาทำงานในประเทศไทยอีก แต่หากนายจ้างมีการสื่อสารข้อเท็จจริงให้แรงงานทราบถึงสถานการณ์ปกติ และเมื่อแรงงานได้ข้ามแดนกลับมาสัมผัสด้วยตนเอง พวกเขาจะรับรู้ได้ทันทีว่าทุกอย่างไม่มีอะไรน่ากังวล

ขอบคุณข้อมูลจาก สวท.จันทบุรี FM 90.25 MHz ภาพ อรรถวิทย์ สวท.จันทบุรี