สถานการณ์การค้าชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชาที่จังหวัดตราดกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ หลังกัมพูชาจำกัดการนำเข้าผักและผลไม้จากฝั่งไทย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจท้องถิ่นและราคามังคุดในพื้นที่

ทันตแพทย์หญิง วิภา สุเนตร ประธานหอการค้าจังหวัดตราด เปิดเผยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคธุรกิจบริการ และยังกระทบต่อมูลค่าการค้าชายแดนที่ปกติมีสูงกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งหากสถานการณ์ยืดเยื้อหรือมีการปิดด่านถาวร จะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล ประธานหอการค้าตราดย้ำว่า หน่วยงานความมั่นคงควรเร่งแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ประธานหอการค้ายังแสดงความกังวลต่อชาวสวนผลไม้ในจังหวัดตราด โดยเฉพาะผู้ที่ส่งออกไปยังกัมพูชาและเวียดนาม เนื่องจากรถขนส่งผลไม้ถูกห้ามข้ามแดนหรือลดปริมาณการนำเข้า ทำให้การส่งออกสะดุด ขณะที่การท่องเที่ยวไปยังกัมพูชาก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน หอการค้าจังหวัดตราดเตรียมเสนอเรื่องนี้ต่อหอการค้าไทย เพื่อนำเสนอรัฐบาลและหาทางแก้ไขต่อไป

ด้าน นายวุฒิพงศ์ รัตมณฑ์ ประธานเครือข่ายสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจังหวัดตราด ระบุว่า ปีนี้จังหวัดตราดคาดการณ์ผลผลิตมังคุดประมาณ 50,000 ตัน ซึ่งขณะนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายฤดูแล้ว และพบว่าราคามังคุดเริ่มตกต่ำจากหลายปัจจัย ทั้งฝนตกต่อเนื่องส่งผลต่อคุณภาพผลผลิต การที่มังคุดจากภาคใต้เริ่มออกสู่ตลาด และการแปรรูปมังคุดที่ยังน้อย

นายวุฒิพงศ์กล่าวว่า แม้กัมพูชาจะงดรับสินค้าเกษตรจากไทย อาจส่งผลกระทบต่อมังคุดบ้าง แต่ตลาดหลักของมังคุดตราดยังคงเป็นเวียดนาม ส่วนตลาดกัมพูชามีสัดส่วนเพียง 5-10% ของยอดส่งออก อย่างไรก็ตาม ปัญหาราคามังคุดตกต่ำในช่วงปลายฤดูเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันวางแผนรับมือสำหรับการผลิตในปีหน้า

ขณะเดียวกัน นายวินัย ขยันยิ่ง เกษตรจังหวัดตราด และสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดตราด ได้เชิญชวนประชาชนร่วมอุดหนุน มังคุด (คละเกรด) ปีการผลิต 2568 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในจังหวัดตราดให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ - 001