ปิดด่านวันแรก ชายแดนหาดเล็กสุดเงียบ ไร้รถส่งสินค้า ไร้ชาวบ้านทั้ง 2 ฝั่ง ผู้ประกอบเผย รายได้หาย 100% ส่วนนักเรียนยังข้ามมาเรียนฝั่งไทย
24 มิถุนายน 2568 ที่ด่านชายแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด วันแรกของการปิดด่านจาก คำสั่งกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่มีรถขนส่งสินค้าแม้แต่คันเดียว ซึ่งปกติจะมีรถขนส่งสินค้าต่อแถวเพื่อรอข้ามด่านไปส่งของในจังหวัดเกาะกง
ขณะที่เด็กในจังหวัดเกาะกง ยังคงเดินทางข้ามแดนมายังฝั่งไทยเพื่อเรียนหนังสือตามปกติ ซึ่งด่านบ้านจามเยี่ยม จ.เกาะกง อนุญาตให้เด็กนักเรียนเดินทางข้ามแดนมายังด่านถาวรบ้านหาดเล็กตั้งแต่ 06.00 น. ซึ่งมีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปถึงชั้นมัธยมศึกษา ทยอยเดินทางข้ามมายังฝั่งไทย เพื่อเรียนหนังสือ ส่วนผู้ปกครองที่เดินทางมาส่งเด็กที่หน้าด่านชายแดนถาวรบ้านหาดเล็กเท่านั้น เนื่องจากทหารไม่อนุญาตให้ผ่านแดนมาด้วย
ส่วนนายธัญชาติ บูรพาสุข คนขับรถตู้ผู้โดยสาร บอกว่า วันนี้ด่านปิดแล้ว 100 % ทำให้รายได้หายไป 100 % เช่นกัน เนื่องจากไม่มีคน ไม่มีผู้โดยสาร และก่อนหน้านี้ที่กำหนดเวลาเปิดปิดใหม่ ตนเองยังคงมีรายได้บาง ชาวบ้านทั้ง 2 ฝั่ง ยังมีรายได้บาง แต่วันนี้ไม่มีแล้ว และเชื่อว่าสถานการณ์เช่นนี้น่าจะอยู่อีกนาน เพราะทั้ง 2 ฝ่าย ต่างไม่ยอมกัน วันนี้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่วงโควิดแล้ว ถือว่าหนักกว่า เพราะโควิดประชาชนยังคงเดินเข้าออกได้ เพียงแค่สวมแมส
ด้านนางสาวลัดดา สุขสะอาด อายุ 45 ปี กล่าวว่า ตนเองเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ประกอบอาชีพค้าขายในหมู่บ้านจามเยี่ยม จ.เกาะกง ตอนนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์ความไม่สงบในปัจจุบัน เพราะมีร้านค้าโชว์ห่วยอยู่ ปกติจะเดินทางไปกลับทุกวันเพื่อดูแลกิจการ แต่ตอนนี้ร้านค้าต้องปิดอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ขาดรายได้มหาศาล ทั้งที่ลงทุนไปแล้วหลายล้านบาท และเสียภาษีอย่างถูกต้องมาโดยตลอด
นางสาวลัดดา ยังกล่าวต่อว่า หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ตนเองและคนอื่นๆ จะได้รับความเดือดร้อนหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่สามารถนำสินค้าไปขายได้ สินค้าบางอย่างอาจหมดอายุและเสียหาย ทำให้ขาดทุนซ้ำซ้อน แต่หาก เปิด 8.00 น. ปิด 16.00 น. เหมือนเดิม ยังพอจะบริหารจัดการได้ มีรายได้เข้ามาบ้าง แม้เวลาจะสั้นลง แต่หากปิดชายแดนสนิทแบบนี้ ไม่รู้จะทำอย่างไรจริงๆ อยากวิงวอนให้รัฐบาลไทยเร่งเจรจากับทางกัมพูชา เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ เพราะเราเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน ควรอยู่ร่วมกันเหมือนพี่น้อง ไม่ควรมีปัญหาบาดหมางกัน
“บรรยากาศฝั่งกัมพูชา เศรษฐกิจก็ซบเซาและเงียบเหงาไม่ต่างจากฝั่งไทยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข่าวลือเรื่องการแบนสินค้าไทยนั้น ไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย ชาวกัมพูชายังคงต้องการสินค้าไทยเป็นอย่างมาก เวลาไปขายของ มักจะสอบถามว่าสินค้าเป็นของไทยแท้หรือไม่ เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าไทย” นางสาวลัดดา กล่าว
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี