ประธานหอการค้าศรีสะเกษเผยผลกระทบหลังปิดด่านช่องสะงำ ชี้สูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 100 ล้านบาท/เดือน
วันที่ 24 มิถุนายน 2568 นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยถึงสถานการณ์ภายหลังการประกาศปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งหมด รวมถึง ด่านถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยระบุว่า ภาพรวมก่อนและหลังการปิดด่านไม่แตกต่างกันมากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดนได้มีการปรับตัวและเตรียมรับมือกับการปิดด่านไว้แล้ว ตั้งแต่ช่วงที่มีการปรับเวลาเปิด-ปิดด่าน แต่ทางภาคธุรกิจยังคงต้องการความชัดเจนในมาตรการต่าง ๆ เพื่อวางแผนรับมือในอนาคต
ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ด่านชายแดนถาวรช่องสะงำไม่ได้มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เท่าด่านปอยเปตหรือด่านทางสระแก้ว ส่วนใหญ่เป็นการค้าขายเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องดื่ม มาม่า ของแห้ง ให้กับฝั่งกัมพูชา ขณะที่กัมพูชาจะส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะมันสำปะหลังจำนวนมากมายังประเทศไทย เมื่อไม่สามารถส่งสินค้าไปกัมพูชาได้ ผู้ประกอบการก็ต้องปรับตัวหันมาขายสินค้าภายในประเทศมากขึ้น เชื่อว่าการปิดด่านครั้งนี้ไม่เพียงไทยที่ได้รับผลกระทบ แต่กัมพูชาก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน โดยเฉพาะการส่งออกมันสำปะหลังที่จะตกค้างจำนวนมาก เนื่องจากไม่ได้มีการวางแผนหรือติดต่อการค้ากับประเทศอื่นไว้ก่อน
ในส่วนของมูลค่าเศรษฐกิจการค้าชายแดนนั้น หากมีการปิดด่านตลอด 1 เดือน จะทำให้เสียเงินประมาณ 100 ล้านบาท ประธานหอการค้าฯ ย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ของศรีสะเกษกับ อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ยังคงดีอยู่ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องทางการเมืองที่ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อนไปด้วย โดยผู้ประกอบการทุกคนเข้าใจและอยู่เคียงข้างรัฐบาลและทหาร มุ่งหวังว่าประเทศไทยจะได้รับความเป็นธรรม
สำหรับปัญหาด้านการท่องเที่ยวและการจองโรงแรมในช่วงนี้ ได้รับผลกระทบด้านจิตวิทยาเท่านั้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวบางรายอาจยังเข้าใจผิดว่าพื้นที่ชายแดนมีความเสี่ยง ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่เช่นนั้น แม้จะมีการยกเลิกการจองห้องพักบ้างแต่ก็ไม่มาก อย่างไรก็ตาม บรรยากาศความตึงเครียดทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยลดลงโดยรวม
ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ ฝากถึงรัฐบาลไทยและกองทัพว่า ต้องการให้รัฐบาลมีเอกภาพกับกองทัพ และออกมาตรการที่ชัดเจนเป็นแนวทางเดียวกัน หากจะเข้มงวดก็ขอให้เข้มงวดไปเลย เพื่อไม่ให้คนภายนอกมองว่าไทยทะเลาะกันเองจนทำให้ประเทศเสียเปรียบ นอกจากนี้ ยังอยากฝากให้พิจารณาแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาชายแดน เช่น การหาตลาดใหม่ให้ผู้ที่ส่งออกไม่ได้ หรือโครงการสินเชื่อต่าง ๆ เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินในช่วงที่ขาดกระแสเงินสด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี