กรมอุทยานฯ เปิดเวทีถอดบทเรียนไฟป่า PM2.5 ชูมาตรการลด Hotspot ได้กว่า 40.66% ตามนโยบาย รมว.ทส บูรณาการจัดการไฟป่า 14 กลุ่มป่า
วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาการถอดบทเรียน (After Action Review : AAR) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อประเมินผลและยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง โดยมีนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า พร้อมด้วยนายมานัส ปานมน ผู้อำนวยการสำนักแผนงานและสารสนเทศ นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ รวมถึงนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 120 คน เข้าร่วม
นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสัมมนาครั้งนี้ว่า สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และ PM2.5 ไม่เพียงแต่ทำลายระบบนิเวศป่าไม้โดยตรง แต่ยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตประชาชน ไฟป่าเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าไม้โดยตรง ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยของประชาชน และภาคการท่องเที่ยวอันเป็นแหล่งพัฒนาทางเศรษฐกิจของชุมชนและประเทศ
กรมอุทยานฯ ได้กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ตามกรอบนโยบายรัฐบาลและนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการไฟป่าแบบกลุ่มป่า จำนวน 14 กลุ่มป่า (Cluster) เพื่อบูรณาการหน่วยงานทั้งหมดร่วมกันปฏิบัติงานแบบไร้รอยต่อ ทำงานแบบบูรณาการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ (Single Comman Hot กลยุทธ์หลักที่ใช้ ได้แก่ “การตรึงพื้นที่” ในป่าอนุรักษ์
โดยการจัดตั้งจุดเฝ้าระวังไฟป่าและการลาดตระเวนตรวจหาไฟเพื่อเข้าถึงและดับไฟให้ไวที่สุด การประชาสัมพันธ์เชิงรุกเคาะประตูบ้าน และการจัดการเชื้อเพลิงในช่วงเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในงานควบคุมไฟป่า ทั้งในด้านการวางแผนการปฏิบัติงาน การติดตามผล การแจ้งเตือนภัย และการทำนายสถานการณ์ล่วงหน้า
ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน และหน่วยงานภาครัฐ ปกครอง ทหาร ภาคีเครือข่าย อาสาสมัครหน่วยงานบูรณาการสนับสนุนด้านการป้องกันไฟป่าและประชาชนทุกท่านที่สนับสนุนการปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่อนุรักษ์จนสามารถบรรลุเป้าหมายการลดพื้นที่เผาไหม้ลงร้อยละ 25 จากปี 2567 ตามนโยบายที่กำหนดไว้
ด้านนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า เปิดเผยว่า การสัมมนาถอดโครงการสัมมนาการถอดบทเรียน (After Action Review : AAR) ในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จัดขึ้นตลอดทั้งวัน มีผู้เข้าร่วม 120 คน เป็นข้าราชการสังกัดกรมอุทยานฯ ที่ปฏิบัติราชการเกี่ยวข้องกับการควบคุมไฟป่า
จากการดำเนินงานตามมาตรการต่างๆ ในปี 2568 ผลที่ได้รับคือ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์มีจุดความร้อน (Hotspot) ลดลง 40.62% โดยมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่สามารถลดจำนวนจุดความร้อนได้มากกว่า 50-80% จำนวน 36 แห่ง และป่าอนุรักษ์ที่สามารถลดจำนวนจุดความร้อนได้มากกว่า 80% จำนวน 31 แห่ง พร้อมหน่วยงานร่วมบูรณาการป้องกันไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสิ้น 758 แห่ง
การสัมมนาครั้งนี้จัดให้มีการเสวนาในหัวข้อ “ความร่วมมือในอนาคตในการป้องกันและควบคุมไฟป่าร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” โดยนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ, ดร.เจน ชาญณรงค์ รองประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ, ผศ.ดร.กอบศักดิ์ วันธงไชย อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายพีรวิทย์ พงษ์สุรชีวิน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, นายภาสกร นาชัยเวียง กรมป่าไม้ เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือกับภาคีที่เกี่ยวข้องในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายหัวข้อ “จิตเวชกับคนเผาป่า” และการแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็น เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในช่วงปีที่ผ่านมา และถอดบทเรียนการดำเนินงานร่วมกันเพื่อนำไปปรับใช้เป็นแนวทางในการยกระดับภารกิจการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ของแต่ละหน่วยงานในปีถัดไปให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มั่นใจว่าการสัมมนาครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี